“ขี้ข้าปึ้ง” แถแทนสาวก อ้างขึ้นป้าย สปป.ล้านนา ปกป้อง ปชต. ขอฝ่ายมั่นคงพิจารณาให้รอบคอบ แนะให้เข้าใจอารมณ์ ย้อนข้อเรียกร้อง กปปส.ไม่อยู่ใต้ระบอบ ปชต. โบ้ยเอาเรื่องแยกดินแดนมาเป็นประเด็น ชี้อย่าสองมาตรฐาน แบบศาลแพ่ง แจงแค่การชุมนุมทั่วไป ชูธงสัญลักษณ์เพื่อดึงดูด ปชช. ยันนายกฯ ไม่คิดย้ายเมืองหลวงไปเชียงใหม่ แจงเลี่ยงปะทะไม่อยู่ กทม.
วันนี้ (3 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษา ศรส. กล่าวถึงกรณีผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งให้แม่ทัพภาคที่ 3 แจ้งความต่อกลุ่มเสื้อแดง จ.พะเยา และจ.เชียงใหม่ หลังจากขึ้นป้าย สปป.ล้านนา ว่าอยากให้ฝ่ายความมั่นคงพิจารณาให้รอบคอบ เนื่องจากกลุ่มคนเสื้อแดงที่ จ.เชียงใหม่ และจ.พะเยา ได้ออกมาเรียกร้องปกป้องประชาธิปไตย ต้องเข้าใจว่าคนเสื้อแดงปกป้องประชาธิปไตยมาโดยตลอด แต่สิ่งที่ กปปส.เรียกร้องมาไม่ได้อยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เช่น เรียกร้องเรื่องสภาประชาชน และก่อเหตุวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา การที่ฝ่ายความมั่นคงพยายามพูดถึงมาตรา 113 เรื่องการแบ่งแยกดินแดน ตนคิดว่าหลักๆ คนไทยทุกคนไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยก และแบ่งแยกดินแดนอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดต้องเข้าใจถึงอารมณ์ของคนด้วย เนื่องจากฝ่ายหนึ่งมาทำความเดือดร้อนใน กทม. มาสร้างความแตกแยกแบ่งฝ่ายชัดเจน อีกฝ่ายก็ย่อมอดทนไม่ไหว
“สิ่งต่างๆ ในฐานะที่ดูแลความมั่นคงต้องเป็นกลาง เป็นธรรม การทำอะไรก็ควรคำนึงอย่าให้เกิดสองมาตรฐาน โดยในวันนี้ประเทศไทยเราต้องยอมรับว่ามีกระบวนการสองมาตรฐานเกิดขึ้นมาอย่างชัดเจน แม้กระทั่งกระบวนการทางการเมือง และทางยุติธรรม ที่ชี้ออกมาอย่างชัดเจนว่าไม่มีความเป็นกลาง มีสองมาตรฐานชัดเจน อาทิ เรื่องที่ศาลแพ่ง มีคำสั่งเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกมา ฉะนั้น การที่เป็นผู้ดูแลไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล กองทัพ หรือตำรวจ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่าย” นายสุรพงษ์กล่าว
ประธานที่ปรึกษา ศรส.กล่าวว่า ตนคิดว่าที่คนภาคเหนือเรียกร้อง เพราะมีคนพยายามปลุกกระแสให้เกิดความแตกแยก อย่างกลุ่มนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เองก็เอาเรื่องแบ่งแยกดินแดนมาเป็นประเด็น ธรรมชาติแล้วตนเป็นคนเชียงใหม่ไม่มีความคิดอยากให้แบ่งแยกดินแดน ประเทศเราสงบสุขมาโดยตลอด เพียงแต่มีบางกลุ่มที่มีความคิดที่แปลกแตกแยกไปจากผู้อื่น จึงทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย โดยเฉพาะกลุ่มที่เข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้นำทางสังคม อาทิ แพทย์ อธิการบดีต่างๆ ขอให้เลิกคิดได้แล้ว ถ้าสังคมแตกแยกแล้วสังคมไทยจะอยู่ลำบากมาก อย่าสร้างความแตกแยกอีกเลย วันนี้ (3 มี.ค.) ตนจะหยิบยกเรื่องที่ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. เป็นห่วงมาพูดในศรส.ด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดทางภาคเหนือ สปป.ล้านนา มันไม่ใช่อยู่แล้ว สปป.ย่อมาจากสมัชชาปกป้องประชาธิปไตย ไม่ใช่ สปป.ลาว ที่มีการชูธง สปป.ล้านนาที่งานโอทอปที่ จ.เชียงใหม่ ตนคิดว่าเป็นการชุมนุมประท้วงเหมือน กปปส.ที่พยายามใช้ธงชาติเป็นสัญญลักษณ์ต่างๆ เพราะการชุมนุมประท้วงที่คิดอะไรใหม่ๆ เพื่อดึงดูดให้คนสนใจก็จะใช้ประเด็นนั้น เชื่อว่าทุกคนรักประเทศไทย
“แกนนำบางคนอาจมีความคิดที่ปลุกระดมคนให้มาร่วมชุมนุมจึงต้องคิดอะไรใหม่ เหมือนนายสุเทพที่มีการยกระดับ และย้ายที่ตลอด เป็นแนวคิดการชุมนุมประท้วงอยู่แล้ว เราไปห้ามไม่ได้ ต้องให้ความเป็นกลางและเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม วันนี้การปลุกระดมให้เกิดความแตกแยกเป็นสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างต้องการเพื่อที่ให้สังคมไทยเดินหน้าต่อไปไม่ได้ แต่นายกฯไม่ได้คิดย้ายเมืองหลวงไปเชียงใหม่ นายกฯ ไปทำภารกิจของท่าน ต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหา เพราะรู้ว่าถ้าอยู่ กทม.จะมีการยกคนไปปิดล้อมที่ต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ไม่ใช่เป็นการหนี” นายสุรพงษ์กล่าว