xs
xsm
sm
md
lg

โจกฝูงแดงสุมหัวโคราชลั่นกลองรบ สู้ “อำมาตยาธิปไตย” แบบเบ็ดสร็จ เร่งเชือด “สุเทพ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นปช. จัดประชุมแกนนำจากทั่วประเทศ  “นปช.ลั่นกลองรบ”  ที่ อาคารลิตปพัลลภ  สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมือง จ.นครราชสีมา  วันนี้ ( 23 ก.พ.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โจกฝูงแดงทั่วประเทศสุมหัว “นปช.ลั่นกลองรบ” ที่โคราช กร้าวจากนี้ไปเดินหน้าต่อสู้กับระบอบอำมาตยาธิปไตยแบบเบ็ดเสร็จ เร่งจัดการ “สุเทพ” และผู้อยู่เบื้องหลัง ระบุหากสู้ไม่ชนะก็ต้องถูกฆ่า ด้านโจกนปช.โคราชจี้ปลด “บิ๊กตู่” พ้น ผบ.ทบ. ปลดตุลาการศาลแพ่ง ฉีก รธน.ปี 2550 ทิ้งใช้ปี 2540 แทน และกำจัดตระกูล “เทือกสุบรรณ” พ้นแผ่นดินไทย

วันนี้ (23 ก.พ.) ที่อาคารลิตปพัลลภ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ได้จัดประชุมชุมแกนนำคนเสื้อแดงจากทั่วประเทศ ภายใต้ชื่อ “นปช.ลั่นกลองรบ” นำโดย นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ เจ๋ง ดอกจิก และ นพ.เหวง โตจิราการ โดยมีแกนนำคนเสื้อแดงทั่วประเทศเดินทางเข้าร่วมประชุมกว่า 3,000 คน บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก พร้อมวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจ 2 จุด ก่อนเข้าสู่ประตูสถานที่ประชุม ขณะที่การ์ด นปช. มีการตรวจค้นกระเป๋าผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ได้กล่าวปราศรัยกับผู้เข้าร่วมประชุมว่า การประชุมใหญ่ของแกนนำครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย จากนี้ไปกลุ่มคนเสื้อแดงจะเดินหน้าทำทุกอย่างเพื่อต่อสู้กับระบอบอำมาตยาธิปไตย รวมทั้ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และผู้อยู่เบื้องหลังนายสุเทพด้วย เพราะธงของอำมาตย์คือ การล้มล้างรัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตย ดังนั้น เราต้องร่วมกันต่อสู้อย่างเบ็ดเสร็จ ส่วนจะทำอย่างไรต้องรับฟังจากแกนนำแต่ละภาค และการต่อสู้ครั้งนี้จะต้องเบ็ดเสร็จหากไม่ชนะเราก็ต้องถูกฆ่า

จากนั้นได้เริ่มการประชุม โดยให้แกนนำแต่ละภาคนำเสนอแนวทางการต่อสู้ต่อที่ประชุม ซึ่งให้ กลุ่ม นปช.โคราช นำโดย นายอนุวัฒน์ ทินราช รองนายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะแกนนำ นปช.โคราช ขึ้นเวทีเสนอแนวทางการต่อสู้เป็นจังหวัดแรก

นายอนุวัฒน์ ระบุว่า แนวทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มจะรับฟังนโยบายของส่วนกลางเป็นหลัก เพราะขณะนี้ถือเป็นช่วงศึกสงครามต้องเชื่อฟังแม่ทัพเป็นหลัก แต่ นปช.โคราช ขอเสนอแนวทางการต่อสู้ให้แก่ส่วนกลางพิจารณา คือ ให้จัดพิมพ์รายชื่อบุคคล องค์กรที่เป็นปรปักษ์ รายชื่อศาล องค์กรอิสระ และท่อน้ำเลี้ยง เพื่อดำเนินการจัดการต่อไป ให้มีการเรียกประชุมแกนนำในจังหวัด ฝึกซ้อมกำลังพลเพื่อเตรียมพร้อมไว้ และขอเสนอให้รัฐบาลยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 สนับสนุนให้ใช้รัฐธรรมนูญปี 40 พร้อมทั้งให้ปลด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ปลดตุลาการศาลแพ่ง เร่งดำเนินคดีต่อ กปปส.

เสนอให้ภาคเหนือเป็นที่ตั้งของ นปช. ให้ปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย (พท.) เพื่อให้การดำเนินการรวดเร็วกว่านี้ พร้อมทั้งให้ตั้งทีม นปช.เป็นตัวแทนดูแลสื่อเพื่อจะได้ควบคุมการนำเสนอข่าวของสื่อได้ และกำจัดตระกูลเทือกสุบรรณ ให้ออกจากแผ่นดินไทย ซึ่งได้รับเสียงเชียร์จาก นปช.ที่เข้าร่วมอย่างมาก

พร้อมกันนี้ นายอนุวัฒน์ ยังได้นำตัว นายประยูร ครูเกษตร อายุ 64 ปี สมาชิก นปช. อ.เมืองนครราชสีมา ที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. นครราชสีมา ขณะนำเงินไปฝาก พร้อมบอกว่า ได้มีการขอโทษ และทำความเข้าใจกันแล้ว ก่อนที่แกนนำจากภาคอื่นๆ จะนำเสนอแนวทางการต่อสู้ ซึ่งส่วนใหญ่อยากให้แกนนำเร่งดำเนินการกับกลุ่ม กปปส. และนัดเคลื่อนไหวใหญ่ เพราะแต่ละพื้นที่ได้เตรียมพร้อมความของกำลังคนไว้แล้ว

ด้าน นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุมใหญ่ของแกนนำ นปช.ทั่วประเทศครั้งนี้เพราะพวกเรารู้ว่าประเทศชาติเสียหายมาก ประชาชนในประเทศ และคนเสื้อแดงมีความไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง และไม่ต้องการให้มีการต่อสู้แบบอนาธิปไตยเกิดขึ้น เราจึงเห็นว่า องค์กรที่รักประชาธิปไตยแบบ นปช. นั้นจำเป็นจะต้องระดมความคิดเห็นโดยให้พี่น้องที่เป็นแกนนำคนเสื้อแดงในต่างจังหวัดได้แสดงความคิดเห็นว่าในภาวะวิกฤตขณะนี้เขาจะนำเสนอแผนที่จะปฏิบัติการในพื้นที่ของเขาอย่างไร เพื่อให้ความคิดเห็นนี้ได้เผยแพร่ออกไปให้คนทั่วประเทศได้เห็น และรับรู้ ซึ่งไม่ได้มีการซักซ้อมกันมาก่อน

จากนั้นจะเป็นการกำหนดแผน และยุทธวิธีการต่อสู้โดยการนำเสนอของแกนนำ ซึ่งการพูดคุยในวันนี้จะมีการสรุป และทำเป็นหลักการ โดยหลักการของ นปช.วันนี้ยังเป็นหลักการสันติวิธี ต้องสู้ในกรอบกฎหมายและประชาธิปไตย หลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้จะเป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงทุกพื้นที่ ซึ่งการเคลื่อนไหวจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ เคลื่อนไหวในพื้นที่และในภาพรวม โดยเราจะเน้นที่ภาพรวม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของบ้านเมืองว่าจะต้องจัดหนักหรือจัดเบา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เรามีเป้าหมายเดียวคือ ให้ประเทศนี้อยู่ในการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยไม่ใช่เป็นเผด็จการ หรือของคนใดคนหนึ่ง

“ฉะนั้นวันนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่าเราไม่พอใจการกระทำของกลุ่ม กปปส.อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ซึ่งหลังการประชุมวันนี้แล้ว จะเป็นการวางแผนเคลื่อนไหวอย่างเดียวไม่มีการประชุมอีกแล้ว เพราะเราจะนิ่งอยู่อย่างนี้ บ้านเมืองไม่ไหวแล้ว เศรษฐกิจเสียหาย แต่เรายังยึดสันติไม่มีการใช้กำลัง จะไม่ให้เกิดการสูญเสีย” นางธิดา กล่าวในตอนท้าย

เวลาประมาณ 17.05 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ขึ้นปราศรัยบนเวที ขอบคุณมวลชนและแกนนำที่มาร่วมชุมนุม และกล่าวยินดีต้อนรับ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมระบุว่า ที่มาระดมความคิดเห็นในวันนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์ในการเคลื่อนไหวของ นปช.มากในการประกาศสงครามกับ กปปส. ทั้งนี้ตั้งแต่ 30 พ.ย. 2556 ที่ผ่านมาเราไม่เคยหยุดนิ่ง เราเฝ้าดูพิจารณาบทบาทการรับมืออยู่ตลอดเวลาและยืนยันว่าตอนนี้เราพร้อมเต็มที่แล้ว ที่จะรับมือกับ กปปส.จึงได้มีการประกาศลั่นกลองรบในครั้งนี้ เพราะอยากให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการระดมความคิด

สถานการณ์เวลานี้ มีคนกำลังทำลายระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าแบบเปิดเผย หรือ ปิดลับ ซึ่งเป็นกลุ่มขบวนการและกำลังขยายเครือข่าย ขยายความรุนแรงไปทุกส่วนของภูมิภาค ถ้าเราไม่มาแสดงพลังในวันนี้ เราอาจจะไม่มีพื้นที่ให้เราแสดงพลังอีกต่อไป ส่วนใครที่ไม่ร่วมต่อสู้ในครั้งนี้ก็ไม่เป็นไร เราตัดสินใจแล้วไม่ว่าจะตายหรือจะอยู่ขอให้ได้สู้สุดตัวเสียก่อน

ในการชุมนุมครั้งนี้ เปรียบเหมือนแสดงความพร้อม ส่วนที่นัดมาคราวนี้ถามว่าสู้จริงหรือไม่ ตอบว่าสู้จริงหรือสู้ถึงที่สุด ขอประกาศตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปว่า นปช.อยู่ในสถานการณ์ต่อสู้ 100 %

สำหรับสรุปประเด็นผลการระดมความคิดเห็น ประกอบด้วย 1. ในส่วนเสนอของกลุ่ม นปช.ที่มีต่อรัฐบาล มีดังนี้ 1. ขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ห้ามลาออกเด็ดขาด 2. ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาการจ่ายเงินจำนำข้าวให้พี่น้องชาวนาโดยเร็วที่สุด 3. ขอให้รัฐบาลโดยหน่วยงานต่างๆ เร่งรัดจับกุมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ แกนนำ กปปส. 4. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้งและถูกปฏิบัติ 2 มาตรฐาน จากองค์กรอิสระไม่ต้องไปรับข้อกล่าวหาจากองค์กรอิสระ

5. หากมีการวินิจฉัยกรณีองค์กรใดๆ จากองค์กรอิสระ ให้นายกฯ และรัฐบาลแสดงอารยะขัดขืนและไม่ต้องยอมรับ 6. ภายใต้การสร้างสถานการณ์ความรุนแรงขอให้รัฐบาลลงนามยอมรับข้อเสนอของ ไอซีซี โดยเร็ว 7. เรียกร้องให้ตำรวจติดอาวุธในการปฏิบัติหน้าที่ 8.ปฏิรูปพรรคเพื่อไทย 9.ให้รัฐบาลเปิดรับอาสาสมัครจากทั่วประเทศมาช่วยในการควบคุมฝูงชน 10.ให้รัฐบาลหาพื้นที่เตรียมพร้อมหากต้องย้ายมาอยู่ภาคเหนือ หรือ อีสาน 11. หากเหตุการณ์ถึงขั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้จัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น

ส่วนแนวทางการต่อสู้ที่เสนอต่อ นปช. มี ดังนี้ 1. หากมีการนัดหมายชุมนุมใหญ่หรือเคลื่อนเข้า กทม. ให้ นปช. เคลื่อนไหวอย่างเสรีได้เต็มที่แบบที่ กปปส. ทำ เพราะได้ทำตามคำพิพากษาของศาลแพ่ง ศาลแพ่งคุ้มครองอย่างไรก็ดำเนินการอย่างนั้น 2. ให้พี่น้อง นปช. ทุกจังหวัดที่มาร่วมกันให้ประชุมกันจัดตั้งกองกำลังไม่ตํ่ากว่าจังหวัดละ 100 คน เชิญผู้มีประสบการณ์มาให้ความรู้ ดำเนินการคัดสรรชายฉกรรจ์เพื่อดูแลผู้ชุมนุมในจังหวัดของตนเอง 3. ให้นปช. ประสานงาน เช่นนักวิชาการ กลุ่มต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อ นปช. 4. ให้ทำรายชื่อ เผยแพร่กลุ่มฝั่งตรงข้ามและโจมตีทางสังคม เศรษฐกิจ 5. ให้เร่งทำความเข้าใจครอบครัวทหาร ตำรวจ พูดคุยอธิบาย ให้ออกมาสนับสนุนการต่อสู้ร่วมกัน

6. ให้จัดตั้งเครือข่าย ลูกเมียทหาร ตำรวจ เพื่อเป็นสายข่าว 7. เสนอให้มีการจัดตั้งเวทีชุมนุมรอบปริมณฑล ไม่ให้นายสุเทพ เคลื่อนไหวอิสระ 8. ให้ความรู้กับมวลชน ในการใช้อินเตอร์เน็ต เป็นนักรบไซเบอร์ 9. หากถึงเวลาเข้า กทม. เหตุการณ์คับขัน จะประกาศชัตดาวน์องค์กรอิสระทุกองค์กร 10. จัดตั้งองค์กรเงากรรมการสิทธิมนุษยชนเงา ศาลรัฐธรรมนูญเงา อธิการบดีเงา เพื่อทำหน้าที่แถลงการณ์ตอบโต้

11. จัดตั้งกรรมการส่งเสริมประชาชน เชิดชูประชาธิปไตย และต่อต้านเผด็จการ 12. รณรงค์ต่อต้านรัฐประหารเต็มรูปแบบ 13.หากกำลังส่วนใหญ่เข้า กทม. ให้มีกำลังเกาะติดเฝ้าระวังค่ายทหาร 14. ถ้าสถานการณ์เพลี่ยงพล้ำให้เตรียมสถานที่รองรับ 15. ขอให้สู้จริงและมีทุกสิ่งพร้อมสรรพ (อาวุธ)



















กลุ่มแกนนำ นปช.โคราช นำโดย นายอนุวัฒน์ ทินราช ขึ้นปราศรัยบนเวที
นายอนุวัฒน์ ทินราช  แกนนำ นปช.โคราช




นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.
กำลังโหลดความคิดเห็น