บุรีรัมย์ - ชาวนาบุรีรัมย์ 3 อำเภอสุดทน หอบใบประทวนบุกร้องสภาทนายความจังหวัดฯ ยื่นฟ้องศาลปกครองดำเนินคดี “ยิ่งลักษณ์-รมต.-หน่วยงานเกี่ยวข้อง” กราวรูด 12 ราย จี้ชดใช้เงินจำนำข้าวค้างจ่ายนาน 5 เดือนพร้อมดอกเบี้ยชำระหนี้ล่าช้า 7.5% เผยเดือดร้อนหนัก จวกหากรัฐบาลหาเงินมาจ่ายไม่ได้ให้ลาออก ด้านสภาทนายฯ เตรียมยื่นฟ้องสัปดาห์หน้า ทั้งจังหวัดค้างจ่ายกว่า 4 พันล้าน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (5 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาจังหวัดบุรีรัมย์จาก 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองบุรีรัมย์ , ประโคนชัย และนาโพธิ์ กว่า 50 ราย ที่ยังไม่ได้รับเงินในโครงการรับจำนำข้าว ได้นำเอกสารหลักฐาน ทั้งใบประทวนขององค์การคลังสินค้า(อคส.)ที่นำข้าวเปลือกไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2556/57 และหลักฐานการจำนำข้าวกับทางรัฐบาล เข้ายื่นต่อสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ดำเนินคดีต่อนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และรัฐมนตรี รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมเป็น 12 จำเลยร่วม ให้รับผิดชอบต่อการผิดนัดชำระหนี้ในโครงการรับจำนำข้าวต่อชาวนา โดยรัฐบาลจะต้องชดใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยที่เกิดจากการชำระหนี้ล่าช้าในอัตรา 7.5% ให้ชาวนาจนกว่าจะชำระหนี้ได้
โดยชาวนาที่มาร้องขอความช่วยเหลือต่อสภาทนายความฯ ในครั้งนี้ส่วนใหญ่ได้นำข้าวไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค. 2556 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้นานเกือบ 5 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินเฉลี่ยรายละตั้งแต่ 50,000-300,000 บาท สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวนาไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว จ่ายค่าปัจจัยการผลิต อีกทั้งไม่มีเงินไปชำระหนี้สินทั้งในและนอกระบบที่รุมเร้าจากกรณีที่รัฐบาลจ่ายเงินล่าช้า
นางมณี แดงสี อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ม.4 บ.สี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ หนึ่งในชาวนาที่มายื่นร้องต่อสภาทนายความฯ ให้ช่วยเหลือในครั้งนี้ บอกว่าได้นำข้าวไปเข้าร่วมโครงการตั้งแต่เดือน พ.ย. 2556 ปีที่ผ่านมา รวมวงเงินทั้งสิ้นกว่า 223,407 บาท แต่จนถึงขณะนี้ผ่านไปนานเกือบ 5 เดือนแล้วยังไม่ได้รับเงินเลย ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว ทั้งค่าปัจจัยการผลิตที่ติดค้างไว้ และหนี้สินที่รุมเร้า จนทำให้เกิดความเครียดเพราะไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้
จากกรณีดังกล่าวจึงได้นำหลักฐานมายื่นร้องต่อสภาทนายความฯ ให้ช่วยเหลือฟ้องร้องเอาผิดรัฐบาล และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งให้เร่งนำเงินที่ติดค้างมาจ่ายให้ชาวนา และรับผิดชอบดอกเบี้ยที่รัฐบาลผิดนัดชำระเงินล่าช้าด้วย เพราะโครงการดังกล่าวเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล หากรัฐบาลไม่สามารถหาเงินมาจ่ายให้ชาวนาได้ก็ควรจะลาออกไปให้คนอื่นมาบริหารแทน
ขณะที่ นายพลกฤต เนาว์ประโคน ประธานสภานายความ จ.บุรีรัมย์ ระบุภายหลังรับเรื่องร้องจากชาวนาว่า จะได้เร่งรวบรวมเอกสารหลักฐานของชาวนาที่นำมาร้อง ส่งไปยังสภาทนายความเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง จ.นครราชสีมา ซึ่งคาดว่าจะสามารถยื่นฟ้องได้ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนชาวนารายอื่นที่ยังไม่ได้รับเงินและต้องการให้สภาทนายความช่วยเหลือ ก็สามารถนำหลักฐานมายื่นร้องเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานสภาทนายความตลอดเวลา เพื่อที่จะได้ดำเนินการฟ้องร้องตามกระบวนการ โดยการดำเนินการฟ้องร้องชาวนาไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทางสภาทนายความจะเป็นผู้รับผิดชอบให้ทั้งหมด
“ขณะนี้ใน จ.บุรีรัมย์มีพี่น้องชาวนาเข้าทยอยเดินทางมารับการช่วยเหลือแล้วกว่า 50 ราย มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท และคาดว่าจะทยอยมายื่นอย่างต่อเนื่อง” นายพลกฤตกล่าว
ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่าจังหวัดบุรีรัมย์มีเกษตรกรที่นำข้าวร่วมโครงการรับจำนำเปลือกปีการผลิต 2556/57 ของรัฐบาล และได้รับใบประทวนแล้วกว่า 82,236 ราย ปริมาณข้าวกว่า 290,000 ตัน ในจำนวนนี้ได้มีเกษตรกรที่นำใบประทวนมายื่นกับทาง ธ.ก.ส.แล้ว 64,650 ราย เป็นเงินกว่า 5,587 ล้านบาท ที่ผ่านมาเกษตรกรได้รับเงินไปแล้วกว่า 1,500 ล้านบาท แต่ยังเหลือชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินอีกกว่า 4,000 ล้านบาท