>>ในมวลหมู่ประชาม็อบขับไล่ระบอบทักษิณ มีสาวๆ หลายคนที่ลุกขึ้นมาเป็นตัวแทนและเป็นปากเป็นเสียงให้กับผู้ชุมนุม บางคนกลายเป็นดาวม็อบขึ้นมาในเวลาไม่นาน แต่มีสาวสวยอยู่ 1 คนที่ทำงานหนักอยู่เบื้องหลัง คอยช่วยเหลือชาวม็อบในทุกๆ ด้าน อย่าง “พวงทิพย์ บุญสนอง” หรือ “ทนายมิ้นท์” สาวร่างเล็กแต่ใจไม่เล็ก ทนายความของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่อุทิศตัวจนกลายเป็นขวัญใจม็อบ
“สำหรับมิ้นท์ มิ้นท์ไม่เคยคิดว่าตัวเองมาสู้นะคะ แต่คิดว่าตัวเองออกมาดูแลคนที่มาสู้อีกทีนึง เรามาดูแลจริงๆ ค่ะ มาดูแลทั้งความเป็นอยู่ประจำวัน หรือถ้าเขาถูกจับ เราก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วย หรือว่าถ้าเขามีความไม่สบายใจ เราก็พร้อมที่จะรับฟัง ทั้งมวลชนที่มาชุมนุมหรืออาสาสมัครที่มาทำงาน หรือว่าพวกทีมงานด้วยกัน มิ้นท์ยินดีรับฟังทุกปัญหาค่ะ” นี่คือคำตอบของเธอ เมื่อเราถามว่าทำไมเธอถึงเลือกมาสู้กับมวลชน
แม้โดยหน้าที่เธอจะเป็นทนายความให้ คปท. และเป็นผู้ช่วยของคุณนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. แต่กิจวัตรประจำวันของทนายมิ้นท์ ทำทุกอย่างตั้งแต่รับบริจาคสิ่งของ ส่งข่าวให้สื่อมวลชนทางอินเทอร์เน็ต จนไปถึงเก็บขยะ กวาดถนน
“ถ้ามีคนถามว่าเหนื่อยมั้ย จะบอกว่าไม่เหนื่อยนะคะ เพราะไม่อยากให้คนถามรู้สึกไม่สบายใจ แต่ถ้าจริงๆ มันเหนื่อยมาก แต่ไม่ท้อค่ะ อีกอย่างเราก็ไม่ได้คิดว่าชีวิตเราเปลี่ยนอะไรนะ เพราะเราเป็นคนอยู่ง่าย อยู่ตรงไหนก็ได้ทุกที่ ถ้าความรู้สึกว่าเปลี่ยนก็คือ เราไม่ต้องตื่นเช้า อาบน้ำ แล้วเข้าออฟฟิศ กับที่บ้านแรกๆ ที่เราทำงานเกี่ยวกับอิทธิพลการเมือง เขาก็เป็นห่วงนะแต่เขาเข้าใจ เขารู้ว่าเราเอาตัวรอดได้ ชีวิตหลักๆ ก็อยู่ที่นี่ บางวันก็มีออกไปศาลบ้าง แต่มันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งนะ มิ้นท์เป็นคนที่มีความสุขกับทุกที่อยู่แล้ว เดินผ่านกองขยะ ถ้าเรามีความสุขก็คือสุขได้”
ทนายมิ้นท์ จบการศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หลังจากนั้นมาศึกษาต่อที่นิติศาสตร์ภาคบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นปริญญาตรีใบที่ 2 “เป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกที่จะเรียนปริญญาตรี 2 ใบ อีกใบที่คิดไว้คือ ถ้าไม่ใช่ด้านรัฐศาสตร์ก็จะเป็นนิติศาสตร์นี่แหละค่ะ
พอเรียนจบ ก็ไปฝึกงานที่บริษัทกฏหมายเกี่ยวกับทางธุรกิจ พวกทรัพย์สินทางปัญญา ทำให้เราได้ติดต่อประสานงานกับตำรวจ ก็คือได้ทักษะจากที่นี่ด้วย หลังจากนั้นก็มาสอบทนายความ และได้มาทำงานกับพี่นิติธร ล้ำเหลือ ด้วยการแนะนำจากอาจารย์จอน อึ๊งภากรณ์ ตอนนั้นเราบอกว่าเราอยากทำเกี่ยวกับการเมืองและสิทธิมนุษยชน ก็ได้รับการแนะนำให้มาที่พี่นิติธร ที่มาทำช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีการชุมนุมของพันธมิตรฯ ปี 2551 พอดี
ตั้งแต่ตอนนั้นก็คลุกคลีอยู่ที่นี่ตลอด แต่ยังไม่ได้เข้ามาชุมนุมนะคะ ช่วงแรกจะทำงานอยู่ข้างนอก ไปช่วยจัดเอกสาร ช่วยประกันตัวผู้ชุมนุมในคดีต่างๆ เราก็ค่อยๆ ได้รับความผิดชอบมาเรื่อยๆ หลังจากนั้นก็รับผิดชอบคดีเองในชั้นตำรวจและชั้นอัยการ โดยหลักของมิ้นท์จะรับผิดชอบในชั้นตำรวจ ถ้าถูกจับปุ๊บ มิ้นท์ก็เข้าไปปั๊บ เข้าไปขอประกันตัว เข้าไปร่วมรับฟังการสอบสวน เจรจาขอให้ประกันตัวได้ จริงๆ เราก็ประสบการณ์ในชั้นศาลน้อย แต่ประสบการณ์ในชั้นตำรวจ ชั้นเจรจาจะเยอะกว่า พี่ๆ ในทีมเลยให้เราไปทำ คดีอื่นก็มีอีก อย่างคดีของพรรคประชาธิปัตย์ก็ทำ เรายินดีที่จะช่วยทุกฝ่ายที่เป็นฝ่ายตรงข้ามของทักษิณ”
เห็นทนายมิ้นท์ทำงานกับความขัดแย้งทางการเมือง และในสถานการณ์ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น เราอดถามไม่ได้ว่าลึกๆ แล้วกลัวบ้างหรือไม่
“มิ้นท์ไม่กลัวนะ เกิดมามิ้นท์ยังไม่เคยกลัวอะไรเลยค่ะ ตอนที่เขายิงแก๊สน้ำตากัน เราก็โดนมาแล้ว ตอนนั้นเวทีเรายังอยู่ที่นางเลิ้ง กำลังตัดสินใจที่จะแกะไข่เจียวกิน ก็มีแก๊สน้ำตายิงเข้ามา ตู้ม! เต็มปอดเลย ครั้งนั้นโดนเต็มๆ ซึ่งมันก็มีอาการต่อเนื่องมาประมาณ 2-3 สัปดาห์ แต่เราก็ไม่ได้ไปหาหมอนะ ครั้งอื่นก็มีแต่ถือว่ามันนิดหน่อย ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ก็โดนนิดหน่อยค่ะ”
ทนายมิ้นท์ยอมรับว่า สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐ ว่าจะเลือกสลายการชุมนุมหรือยืดเยื้อเพื่อให้ม็อบแพ้ไปเอง อย่างไรก็ตามเธอมั่นใจว่าผู้ชุมนุมพร้อมสู้ได้หมด ท้ายสุดทนายสาวคนเก่งยังฝากไปถึงคนที่ยังลังเลที่จะออกมาร่วมขับไล่ระบอบทักษิณว่า
“ถ้าคุณไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลนี้จะบริหารประเทศ แค่ออกมาโดยไม่ต้องมีคำถามหรือเงื่อนไขกับตัวเองว่าจะชนะมั้ย จะชนะเมื่อไหร่ แค่ทุกคนคิดว่ามันไม่ถูกต้อง แล้วก็ออกมาแสดงพลังกัน และอย่าท้อ บางคนอาจจะมีความคาดหวังว่าวันนี้ต้องชนะ แต่มันไม่ชนะ ก็อย่าเพิ่งท้อถอย ถ้าเขายังหน้าด้านอยู่ เราก็ต้องสู้ไปเรื่อยๆ แบบนี้ค่ะ” :: Text by FLASH
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/
