พ่อค้าแม่ค้าปากน้ำโพเดินหน้าค้านอุโมงค์ลอดแยกเดชาติวงศ์

นครสวรรค์ - กลุ่มพ่อค้าแม่ขายชาวปากน้ำโพ เดินหน้าค้านโครงการสร้างอุโมงค์ลอดแยกเดชาติวงศ์ ค่า 800 ล้าน เชื่อไม่ช่วยแก้ปัญหาจราจรนครสวรรค์ แนะให้ทำทางเลี่ยงเมืองให้เสร็จก่อนค่อยคิด ขณะที่ ผอ.แขวงการทางฯ ยันช่วยแก้วิกฤตจราจรในอนาคตรับเออีซี

รายงานข่าวจากจังหวัดนครสวรรค์ แจ้งว่า ขณะนี้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าเจ้าของร้านย่านสี่แยกเดชาติวงศ์ อ.เมืองนครสวรรค์ ได้ร่วมกันนำป้ายข้อความคัดค้านโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดบริเวณทางแยกดังกล่าว ที่แขวงการทางฯ กระทรวงคมนาคม ศึกษา ผลักดันให้สร้างขึ้นด้วยงบประมาณ 800 ล้านบาท ไปติดตั้งทั่วเมือง พร้อมๆ กับพยายามรวมตัวรณรงค์คัดค้านโครงการนี้

กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าชาวปากน้ำโพ มองว่า อุโมงค์ทางลอดแห่งนี้ไม่ได้แก้ปัญหาการจราจรติดขัดในตัวเมืองนครสวรรค์ได้จริง

นายสุรศักดิ์ ติษยาธิคม เจ้าของร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์คาวาซากิ แยกเดชาติวงศ์ ตัวแทนกลุ่มผู้ที่ไม่เห็นด้วยกล่าวว่า หากมีการก่อสร้างทางลอดบริเวณสะพานเดชาติวงศ์ เพียงจุดเดียว ตามแผนที่กรมทางหลวงออกมาบอก อาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาการจราจรได้ทั้งหมด ตนและกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ผู้ที่ไม่เห็นด้วยอยากให้ชะลอโครงการนี้ไปก่อน และให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำงบประมาณส่วนนี้ผลักดันสร้างทางเลี่ยงเมืองให้แล้วเสร็จก่อน แล้วค่อยมาพิจารณาเรื่องอุโมงค์ทางลอดอีกครั้ง

ด้านนายนรินทร์ สุวรรณธนะ ผู้อำนวยการแขวงการทางจังหวัดนครสวรรค์ ให้ข้อมูลว่า จากการศึกษาของแขวงการทางจังหวัดนครสวรรค์ พบว่า ปัญหารถติดในจังหวัดนครสวรรค์ เป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ เพราะคาดว่าในปี 2560 การจราจรจะติดขัดมาก การสร้างทางลอดบริเวณแยกเดชาติวงศ์ จึงเป็นหนึ่งในแนวทางการแก้ปัญหา ซึ่งต้องดำเนินการพร้อมๆ กับทางเลี่ยงเมือง

นายนรินทร์ ให้ข้อมูลด้วยว่า อุโมงค์ดังกล่าวจะสามารถแก้ปัญหารถติดได้ถึง 7 จุด คือ บริเวณแยกหน้าค่ายจิรประวัติ แยกชุมแสง หรือแยกบึงบอระเพ็ด แยกเดชาติวงศ์ แยกอุทยานสวรรค์ แยกเวียงดอย แยกพหลโยธิน และแยกนวมินทร์ รวมถึงเป็นการพัฒนาเส้นทางสัญจรที่จะใช้ในการสัญจร และขนส่งสินค้าได้สะดวกรวดเร็ว ในการเปิดประชาคมอาเซียน AEC ในปี 2558 อีกด้วย

สำหรับโครงการก่อสร้างทางลอดแยกเดชาติวงศ์ มีการศึกษาเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหากโครงการนี้สามารถก่อสร้างได้จะเริ่มดำเนินการในปี 2557 และจะแล้วเสร็จในปี 2558 ภายใต้งบประมาณกว่า 800 ล้านบาท ล่าสุด มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 3 แล้ว เพื่อให้ได้ผลสรุปที่ชัดเจนต่อไป ก่อนจะนำไปแก้ไขแล้วจึงจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่จะสามารถระบุได้ชัดเจนว่า โครงการนี้จะได้ดำเนินการก่อสร้างต่อหรือไม่