ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “ยิ่งลักษณ์” ทิ้งปัญหารุมเร้าในเมืองกรุง ยิ้มระรื่นที่เชียงใหม่ นั่งหัวโต๊ะประชุมหน่วยงานคมนาคมพร้อมดูสถานที่สร้างทางลอด-โครงการสร้างถนน แจงรัฐบาลไม่ยุ่งเรื่องสภาปฏิรูปให้ตัวแทนประชาชนเลือกสมาชิกกันเอง หวัง กปปส.เข้าร่วมหาทางออกให้ประเทศ ส่วนเหตุปะทะที่กรุงเทพฯ ยันให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลตามหลักสากล-วอนอย่ารุนแรง ระบุพยายามทำทุกทางเต็มที่ตามหน้าที่เพื่อปกป้องประชาธิปไตย ชี้แม้เส้นทางขรุขระมีขวากหนามแต่ดีกว่าเดินหลงในป่า
วันนี้ (26 ธ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการ ได้หลบปัญหาการเมืองที่รุมเร้าในกรุงเทพฯ ซึ่งมีเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตา กระสุนยาง เข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ศูนย์กีฬาเยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดงตั้งแต่เช้า จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคน
รวมถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปประท้วงขับไล่ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการถึงบ้านพัก ได้เดินทางขึ้น จ.เชียงใหม่บ้านเกิดตั้งแต่บ่ายวันที่ 25 ธ.ค. 56 ที่ผ่านมา และเมื่อเช้าวันนี้ได้เดินทางไปเป็นประธานการประชุมตรวจราชการจังหวัดเชียงใหม่ของกระทรวงคมนาคม ที่ห้องประชุมแขวงการทางเชียงใหม่ที่ 3 กรมทางหลวง โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการ พร้อมด้วยข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงคมนาคมเข้าร่วมประชุมชี้แจงความคืบหน้าปัญหาโครงการพัฒนาเส้นทางคมนาคมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเป็นประธานการประชุมตรวจราชการในวันนี้ถือเป็นภารกิจแรกของนายกรัฐมนตรีรักษาการในการเดินทางมาปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เดินสายปฏิบัติภารกิจในต่างจังหวัดมาอย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรีรักษาการได้รับฟังการบรรยายสรุปถึงภารกิจต่างๆ ของกระทรวงคมนาคมในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะความคืบหน้าของการดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-อ.ฝาง ตอน อ.แม่แตง-ศูนย์ฝึกลูกข้าง ส่วนที่ 2 และโครงการก่อสร้างทางลอด จุดตัดทางหลวงหมายเลข 121 กับทางหลวงหมายเลข 107 หรือทางลอดกองพันสัตว์ต่าง จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจเยี่ยมบริเวณสถานที่ก่อสร้างทางลอด บริเวณแยกกองพันสัตว์ต่าง และติดตามการก่อสร้างถนนสายเชียงใหม่-อ.ฝาง ตอน อ.แม่แตง-ศูนย์ฝึกลูกช้างในเส้นทางรอยต่อระหว่างอำเภอแม่แตงกับอำเภอเชียงดาว
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนก่อนเดินทางไปตรวจสถานที่ดำเนินโครงการของกระทรวงคมนาคมถึงการจัดตั้งสภาปฏิรูปว่า สภาดังกล่าวจะเป็นเวทีสาธารณะที่หวังจะให้เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติและแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ดังนั้นจึงอยากให้ทุกฝ่ายรวมทั้ง กปปส.เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อให้ประเทศมีทางออก โดยรัฐบาลจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินการดังกล่าว และการสรรหาสมาชิกของสภาปฏิรูปทั้ง 499 คนนั้นจะต้องมาจากการคัดเลือกของตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ ทั้ง 2,000 คน ซึ่งประชาชนจากแต่ละสาขาอาชีพก็จะต้องหารือกันว่าจะเสนอใครเข้ามาเป็นตัวแทนกลุ่มของตนในทั้ง 2,000 คนนี้
ส่วนกรณีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่หน้าศูนย์กีฬาเยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดงในวันนี้นั้น นายกรัฐมนตรีรักษาการกล่าวว่าจะยังไม่มีการเพิ่มมาตรการใดๆ โดยจะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาดำเนินการตามหลักสากล อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง และไม่อยากให้สถานการณ์ต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเลือกตั้งเนื่องจากประเทศชาติตกอยู่ในภาวะดังกล่าวมานานกว่า 2 เดือนแล้ว
นายกรัฐมนตรีรักษาการระบุว่า การเสนอข้อเสนอต่างๆ ออกมานั้นไม่คิดว่าสายเกินไป แต่ถือว่าได้พยายามทำอย่างเต็มที่แล้วเพื่อหาทางออกให้แก่ประเทศ ตนในฐานะที่มีหน้าที่รับผิดชอบก็ต้องประคับประคองสถานการณ์และจะพยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ส่วนเรื่องความรู้สึกส่วนตัวนั้นวันนี้คิดว่าเลยจากจุดนั้นไปแล้ว ขณะนี้ตนมีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องประชาธิปไตยของประเทศ แม้จะเห็นว่าถนนที่จะเดินทางไปนั้นเต็มไปด้วยเส้นทางขรุขระและขวากหนาม แต่ก็ดีกว่าการเลี่ยงไปใช้เส้นทางในป่าที่ไม่รู้ว่าจะไปไหนและเส้นทางเป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมที่แขวงการทางที่ 3 เชียงใหม่เสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีรักษาการ พร้อมคณะ ได้เดินทางตรวจดูพื้นที่บริเวณโครงการ ทั้งที่ อ.แม่ริม และ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
