กาญจนบุรี - ตำรวจเร่งสอบคดีลูกจ้างอำเภอเมือง ออกบัตรสวมสิทธิบุคคลอื่นให้แก่ต่างด้าว
จากกรณีที่นายอำเภอเมือง จ.กาญจนบุรี มอบหมายให้ปลัดอำเภอ ฝ่ายความมั่นคง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ดำเนินคดีต่อลูกจ้างชั่วคราวของอำเภอ ว่า แก้ไขรายการวัน เดือน ปีเกิด ของบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนในระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และบุคคลที่ขอแก้ไขรายการวัน เดือน ปีเกิด 9 ราย และผู้ที่เข้ามาสวมสิทธิของบุคคลอื่นทั้ง 9 รายนั้น
วันนี้ (15 ธ.ค.) พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ สภ.เมือง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้รายงานให้ทราบว่ารับคดีเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะทำการสอบปากคำผู้เสียหาย และออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำต่อไป ส่วนแนวทางการสืบสวนสอบสวนต้องพิจารณาจากพยานหลักฐาน ทั้งพยานเอกสาร และพยานบุคคล โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติตามขั้นตอนการออกเอกสารบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ตามพ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ.2534 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
โดยคงต้องขอข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติในการยื่นคำร้อง เพื่อขึ้นทะเบียนของบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนว่ามีขั้นตอนในการปฏิบัติเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการ หรือใครเกี่ยวข้องในขั้นตอนไหน เพื่อให้ได้ข้อมูลพิจารณาว่ามีการกระทำผิดตามที่กล่าวหาหรือไม่ หรือหากพบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับการสนับสนุน หรือเป็นคนสั่งการ ก็ต้องสอบปากคำพยานให้ได้ข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่การพิจารณาสั่งการต่อไป ดังนั้น เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์รอบคอบ จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมดูแลสำนวนสอบสวนนี้อีกทางหนึ่ง
ด้านนายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมือง กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดแล้ว ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนจนพบว่ามีมูล ดังนั้น ฝ่ายทะเบียนราษฎรจึงแก้ไขข้อมูลของทั้ง 9 รายให้ถูกต้องตามเดิมแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการคืนสิทธิให้แก่ผู้ที่สมควรได้สิทธินี้ แต่ในส่วนของการกระทำผิด ก็มีการสอบสวนตามระเบียบของทางราชการต่อไป รวมถึงส่วนที่ทางราชการเสียหายก็ให้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าไม่มีการปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชา การสอบสวนจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ใครผิดก็ต้องรับโทษทั้งทางวินัย และทางกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพราะถือเป็นเรื่องของความมั่นคงแห่งรัฐ ที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
จากกรณีที่นายอำเภอเมือง จ.กาญจนบุรี มอบหมายให้ปลัดอำเภอ ฝ่ายความมั่นคง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ดำเนินคดีต่อลูกจ้างชั่วคราวของอำเภอ ว่า แก้ไขรายการวัน เดือน ปีเกิด ของบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนในระบบฐานข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน และบุคคลที่ขอแก้ไขรายการวัน เดือน ปีเกิด 9 ราย และผู้ที่เข้ามาสวมสิทธิของบุคคลอื่นทั้ง 9 รายนั้น
วันนี้ (15 ธ.ค.) พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ สภ.เมือง จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้รายงานให้ทราบว่ารับคดีเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะทำการสอบปากคำผู้เสียหาย และออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำต่อไป ส่วนแนวทางการสืบสวนสอบสวนต้องพิจารณาจากพยานหลักฐาน ทั้งพยานเอกสาร และพยานบุคคล โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติตามขั้นตอนการออกเอกสารบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร ตามพ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ.2534 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
โดยคงต้องขอข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติในการยื่นคำร้อง เพื่อขึ้นทะเบียนของบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนว่ามีขั้นตอนในการปฏิบัติเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้มีอำนาจในการดำเนินการ หรือใครเกี่ยวข้องในขั้นตอนไหน เพื่อให้ได้ข้อมูลพิจารณาว่ามีการกระทำผิดตามที่กล่าวหาหรือไม่ หรือหากพบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับการสนับสนุน หรือเป็นคนสั่งการ ก็ต้องสอบปากคำพยานให้ได้ข้อเท็จจริง เพื่อนำไปสู่การพิจารณาสั่งการต่อไป ดังนั้น เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์รอบคอบ จึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมดูแลสำนวนสอบสวนนี้อีกทางหนึ่ง
ด้านนายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมือง กล่าวว่า หลังจากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดแล้ว ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนจนพบว่ามีมูล ดังนั้น ฝ่ายทะเบียนราษฎรจึงแก้ไขข้อมูลของทั้ง 9 รายให้ถูกต้องตามเดิมแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นการคืนสิทธิให้แก่ผู้ที่สมควรได้สิทธินี้ แต่ในส่วนของการกระทำผิด ก็มีการสอบสวนตามระเบียบของทางราชการต่อไป รวมถึงส่วนที่ทางราชการเสียหายก็ให้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าไม่มีการปกป้องผู้ใต้บังคับบัญชา การสอบสวนจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ใครผิดก็ต้องรับโทษทั้งทางวินัย และทางกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพราะถือเป็นเรื่องของความมั่นคงแห่งรัฐ ที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา