ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ประธานบอร์ด “พิงคนคร” แจงเป้าหมายบอร์ดเน้นพัฒนา “ไนท์ซาฟารี-ศูนย์ประชุมนานาชาติฯ” เป็นหลัก ยังไม่มีแผนเพิ่มหน่วยงานอื่น ระบุต้องพัฒนาสองหน่วยงานในสังกัดให้ก้าวหน้าก่อนค่อยคิดเรื่องทำอย่างอื่น ส่วน “กระเช้าลอยฟ้า” ยังแค่ขั้นตอนการศึกษาไม่ได้แปลว่าต้องทำ ชี้ถ้าคนเชียงใหม่ไม่เอาก็จบ แต่อยากให้เปิดใจรับฟังก่อนอย่างเพิ่งรีบตัดสิน
ประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนครระบุว่า สำนักงานพัฒนาพิงคนครจะมุ่งเน้นการพัฒนาเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีกับศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษาเป็นหลัก ยังไม่มีการวางแผนที่จะเพิ่มหน่วยงานอื่นๆ หรือพัฒนาโครงการใหม่ๆ เข้ามาในสังกัดแต่อย่างใด พร้อมทั้งแนะให้ชาวเชียงใหม่เปิดใจให้กว้างเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้า โดยกล่าวว่าการทำการศึกษาไม่ได้หมายความว่าโครงการดังกล่าวจะต้องสร้างขึ้นแต่อย่างใด
นายอุดม พัวสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนคร ครั้งที่ 12/56 ณ ห้องประชุมเฮือนวารีกุญชร เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีว่า ในวันนี้ (30 พ.ย. 2556) ว่า การประชุมหารือในวันนี้หลักๆ เป็นเรื่องของการจัดองค์กรของสำนักงานพัฒนาพิงคนคร ทั้งในส่วนของกระบวนทำงาน บุคลากรและกฎระเบียบต่างๆ
ทั้งนี้ เนื่องจากสำนักงานพัฒนาพิงคนครเป็นองค์การที่เกิดขึ้นใหม่ การประชุมหารือในระยะแรกจึงจะเน้นไปที่การจัดระบบขององค์กรเป็นหลัก ขณะเดียวกันเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงต้นของปีงบประมาณ 2557 จึงมีการหารือกันถึงการบริหารจัดการงบประมาณ จำนวนประมาณ 700 ล้านบาทด้วย โดยงบประมาณดังกล่าวจะมีทั้งในส่วนของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ และงบประมาณรายจ่ายต่างๆ เช่นในส่วนของเงินเดือน เป็นต้น
นายอุดมเปิดเผยว่า ในการประชุมดังกล่าวได้มีการหารือถึงการจัดตั้งคณะอนุกรรมการในด้านต่างๆ ขึ้นเพื่อช่วยงานของคณะกรรมการในการทำงาน โดยคณะอนุกรรมการในแต่ละชุดจะมีการดึงเอาผู้ทรงคุณวุฒิและตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่เข้ามามีส่วนร่วม โดยในปี 2557 ภารกิจหลักของคณะทำงานคือการทำให้องค์กรมีระบบที่ชัดเจนและสามารถอยู่ได้ ส่วนในปี 2558 จะมีความชัดเจนในเรื่องการวางแผนพัฒนาองค์กรในด้านต่างๆ ให้เห็นมากขึ้น
นายอุดมกล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการได้มีการหารือกันว่าจะมุ่งเน้นการพัฒนาหน่วยงานในสังกัดทั้ง 2 หน่วย ได้แก่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีและศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติเป็นหลัก โดยเป้าหมายที่คณะกรรมการให้ความสนใจคือจะทำอย่างไรให้ทั้ง 2 องค์กรที่อยู่ในสังกัดมีความก้าวหน้ามากขึ้น เช่นการทำให้เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น การทำให้ศูนย์ประชุมฯและแสดงสินค้านานาชาติมีการจัดกิจกรรมทั้งการประชุมและแสดงสินค้าอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีการพูดถึงการเพิ่มเติมหน่วยงานอื่นๆ เข้ามาในสังกัดแต่อย่างใด
ส่วนกรณีการศึกษาโครงการกระเช้าลอยฟ้าเชื่อมเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี-ดอยปุย-ผาตั้งที่สำนักงานพัฒนาพิงคนครได้ว่าจ้างให้บริษัทเอกชนและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ทำการศึกษานั้น ประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพิงคนครกล่าวว่า การศึกษาเรื่องดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าจะต้องก่อสร้างแต่อย่างใด แต่เป็นการศึกษาว่าถ้าหากจะทำโครงการดังกล่าวจะมีผลดีผลเสียอย่างไรบ้าง ซึ่งในท้ายที่สุดคนเชียงใหม่จะเป็นผู้ให้คำตอบว่าต้องการให้โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นหรือไม่
ทั้งนี้ อยากให้ทุกฝ่ายเปิดใจให้กว้าง กระบวนการศึกษาก็เป็นไปตามหลักวิชาการ ถ้าผลการศึกษาระบุว่าการทำโครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบกับคนเชียงใหม่ทางคณะกรรมการก็ไม่สนับสนุนอย่างแน่นอน โดยส่วนตัวของตนไม่มีความเห็นในเรื่องดังกล่าว แต่อยากให้มีการศึกษาทางวิชาการให้รอบด้านและอยากให้ทุกฝ่ายเปิดใจรับฟังก่อนที่จะต่อต้าน ถ้าศึกษาแล้วเห็นว่าไม่ดีแล้วค่อยปฏิเสธ พร้อมทั้งยืนยันว่ากระบวนการต่างๆ เหล่านี้จะเป็นไปอย่างโปร่งใสไม่มีการหมกเม็ดอย่างแน่นอน