เชียงราย - เสื้อแดงเชียงรายตั้งเวทีข้างกำแพงเมืองอ้างเพื่อไว้รองรับมวลชนที่ไม่ได้เดินทางไปสนามกีฬาฯ ที่กรุงเทพฯ และจะตั้งคู่ขนานไปจนกว่าแกนนำที่กรุงเทพฯ จะเลิก
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า กลุ่มคนเสื้อแดงที่ไม่ได้เดินทางไปร่วมการชุมนุมที่เวทีสนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก กรุงเทพฯ ได้พากันไปตั้งเวทีย่อยเพื่อเป็นเวทีคู่ขนานกันอยู่ที่ลานถนนข้างกำแพงเมืองเชียงราย ห้าแยกพ่อขุน อ.เมือง โดยมีการนำเครื่องเสียงและธงแดงไปติดตั้งเพื่อปราศรัยรวมทั้งจัดเก้าอี้และกางเต็นท์ให้คนไปนั่งรับฟัง โดยแกนนำที่ไปจัดเวทีและร่วมปราศรัยคืนแรก ประกอบด้วย นายสมชัย แสงทอง แกนนำหมู่บ้านเสื้อแดง จ.เชียงราย, ร.ต.ประพันธ์ แก้วมูล แกนนำกลุ่ม นปช.เชียงราย 52, นายอรรถกร กันทะไชย, นายถวัลย์ ชมภูวิเศษ, นายทรงธรรม คิดอ่าน จากกลุ่มคนเจียงฮายรักประชาธิปไตย, นางสุรีย์รัตน์ บุญทาทอง แกนนำกลุ่มแม่ลาวรักประชาธิปไตย ฯลฯ
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า การจัดเวทีครั้งแรกยังไม่มีการถ่ายทอดเวทีคู่ขนานมาจากสนามราชมังคลากีฬาสถาน แต่เป็นการปราศรัยสดจากบุคคลต่างๆ ดังกล่าว เนื้อหายังคงเน้นไปที่การโจมตีการชุมนุมของมวลชนที่ออกมาต่อต้านระบอบทักษิณที่กรุงเทพฯ และพรรคประชาธิปัตย์ และยกย่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลที่นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมทั้งยังอ้างว่าเพื่อต่อต้านเผด็จการและการรัฐประหารด้วย แต่เวทีจะจัดขึ้นทุกช่วงหัวค่ำของทุกวันจึงคาดว่าจะมีการนำฉากไปติดตั้งเพื่อถ่ายทอดต่อไปด้วย
นายสมชัยกล่าวว่า การออกมาชุมนุมของมวลชนที่กรุงเทพฯ นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ใช่พวกประชาธิปไตยแต่คนเสื้อแดงเป็นผู้รักในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นพวกเราจึงต้องออกมาตั้งเวทีคู่ขนานเพื่อปกป้องประชาธิปไตยให้ถึงที่สุด รวมทั้งเรียกร้องให้มวลชนที่นำโดยนายสุเทพซึ่งไปบุกสถานที่ราชการหลายแห่งให้หยุดการกระทำนั้นเสียเพราะไม่เช่นนั้นจะขยายวงความวุ่นวายไปเรื่อยๆ และคนเสื้อแดงก็จะออกมาต่อต้านจนเสี่ยงต่อการเกิดปะทะกันขึ้นได้ ทั้งนี้พวกเราจะจัดเวทีคู่ขนานเช่นนี้ตลอดไปจนกว่าเหตุการณ์ที่กรุงเทพฯ จะสงบลง
นายธวัชชัยกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เป็นอุทาหรณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 2516 ซึ่งประชาชนและนักศึกษาได้รับชัยชนะจากเผด็จการ แต่ปรากฏว่าอีก 3 ปีถัดมาก็ถูกกระทำอีกและกระทั่งถึงเหตุการณ์พฤษภาทมิฬปี 2535 ก็นึกว่าจะยุติแล้วก็ยังเกิดขึ้นอีกจนได้เรื่อยมาจนถึงปี 2549 ดังนั้น ครั้งนี้จึงเป็นครั้งสำคัญที่คนเสื้อแดงจะต้องออกมาปกป้องประชาธิปไตย และเห็นว่าการที่นายสุเทพได้นำมวลชนไปยึดสถานที่ต่างๆ ดังกล่าวเป็นการฆ่าตัวตายและไม่น่าจะรอดแน่นอน เพราะคนในภาคเหนือและอีสานจะไม่ไปยึดศาลากลางจังหวัดตามที่นายสุเทพได้ประกาศเอาไว้แน่นอน
ด้านนายถวัลย์ได้ปราศรัยยกย่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นคนดีและสงสัยว่าถ้ามีความสามารถทำให้คนอยู่ดีกินดีแล้วเหตุใดจึงให้กลับมาบริหารประเทศไม่ได้ ก่อนจะกล่าวโจมตีพรรคประชาธิปัตย์และนายสุเทพ รวมทั้งระบุว่าที่ผ่านมาบ้านเมืองกำลังจะเดินหน้าด้วยดีแต่กลับมีคนออกมาถ่วงโดยยกตัวอย่างโครงการรถไฟความเร็วสูงซึ่งต้องสะดุดลงไป
“พ.ต.ท.ทักษิณมีเงินมากถึง 76,000 ล้านบาท ซึ่งเขาก็บอกแล้วว่ามีเงินทองมากเท่านี้มาตั้งแต่ก่อนเข้าสู่พรรคพลังประชาชน ซึ่งผมคิดว่านายสุเทพเองก็น่าจะมีมากเท่ากันแต่ไม่เปิดเผย แต่ พ.ต.ท.ทักษิณกล้าเปิดเผยมากกว่า ดังนั้นเมื่อมีความสามารถเหตุใดจึงไม่ให้กลับมาบริหาร” นายถวัลย์กล่าวอย่างดุเดือด ก่อนที่แกนนำคนเสื้อแดงที่จัดเวทีจะระบุว่าในช่วงถัดไปจะนำรถปราศรัยประชาสัมพันธ์ว่ามีเวทีที่บริเวณดังกล่าวเพื่อให้คนไปรับฟังต่อไป