ส.ส. นปช. อ้าง “คณิต” ไม่เข้าใจร่างนิรโทษกรรม ปากแข็งแกนนำแดงไม่ได้อานิสงส์ เชื่อจงใจเล่นงาน โทษแบบแก๊สโซฮฮลล์ผิดที่รัฐประหาร
วันนี้ (14 ส.ค.) ที่รัฐสภา น.พ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. แถลงข่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอของนายคณิต ณ นคร และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม มองว่าเป็นการเหมารวมทั้งหมด ขัดกับหลักนิติรัฐนิติธรรมเปลี่ยนผ่านนั้น มองว่าข้อเสนอแนะดังกล่าวผู้เสนอไม่เข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะเนื้อหาแกนนำไม่ได้อานิสงส์ด้วย โดยมีการนิยามไว้ชัดเจนในร่างกฎหมายถึงการละเว้นในส่วนผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ที่ผู้สั่งการรวมถึงแกนนำจะได้ผลจากกฎหมายนี้ และที่มีการอ้างว่าร่างกฎหมายดังกล่าวอาจทำให้เกิดการก่อเหตุซ้ำโดยไม่ต้องรับผิดนั้น
ทั้งนี้ จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเคยมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับประชาชน ทั้งเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516, 6 ตุลาคม 2519 และเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 ซึ่งเมื่อมีการบังคับใช้กฎหมายก็ไม่เคยมีการก่อเหตุซ้ำอีก พร้อมยืนยันว่ากระบวนการทางคดีของคนเสื้อแดงก็เป็นไปตามปกติ ซึ่งหลายคดีพนักงานสอบสวนได้งดสอบสวนเนื่องจากไม่มีมูลเหตุความผิด ดังนั้นการอ้างว่ากระบวนการทางคดีของคนเสื้อแดงไม่ปกติจึงไม่เป็นความจริง พร้อมยืนยันว่าการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ศาลได้ระบุชัดว่าไม่ได้ก่อเหตุรุนแรง และเชื่อว่าอาวุธที่ยึดได้ในการชุมนุมคนเสื้อแดง ไม่ได้มาจากวัดปทุมวนาราม โดยอ้างอิงจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ล่าสุด จึงขอเรียกร้องความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน และเชื่อว่านายคณิต ณ นคร จงใจที่จะเล่นงานร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
น.พ.เหวงยังกล่าวย้ำว่า การออกกฎหมายนิรโทษกรรมดังกล่าว ครอบคลุมกับประชาชนทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีที่เกี่ยวข้องทางการเมือง ทั้งในส่วนที่กระทำระหว่างประชาชนกับรัฐ จนไปถึงการนิรโทษกรรมคดีที่ประชาชนสร้างความเสียหายต่อประชาชน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะตัดสินให้แต่ละคดีเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทางการเมืองหรือไม่ ส่วนหลักประกันหากออกกฎหมายแล้วจะไม่เกิดเหตุซ้ำอีกนั้น ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาทางการเมือง เพราะความขัดแย้งทุกวันนี้ต้นตอมาจากการรัฐประหาร