สุรินทร์ - เจ้าอาวาสวัดรามวราวาส และเป็นเจ้าคณะตำบล เมืองช้าง สั่งโค่น และขายไม้พะยูงในวัดอายุกว่า 30 ปี ให้นายหน้ารับซื้อ 7 ต้น 70,000 บาท จากทั้งหมดนับ 100 ต้น เผยขณะกำลังขนขึ้นรถบรรทุก ชาวบ้านมาพบรีบแจ้งนายก อบต.และผู้นำท้องถิ่นเข้าห้ามปรามให้ยุติเคลื่อนไม้พะยูงออกจากวัด พร้อมขึ้นโรงพักแจ้งความจับเจ้าอาวาส และนายหน้าซื้อไม้อีก 5 คน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (24 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ที่วัดรามวราวาส หมู่ 14 ต.ราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ พระครูปิยธรรมวิมล อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัดรามวราวาส และเป็นเจ้าคณะตำบลปกครองคณะสงฆ์ 2 ตำบล คือ ตำบลราม และตำบลสำโรง ได้ทำการขายไม้พะยูงอายุราว 30 ปี ที่ปลูกไว้ภายในวัดนับ 100 ต้น ให้กลุ่มนายหน้าตระเวนรับซื้อไม้พะยูง จำนวน 7 ต้น ราคาต้นละ 10,000 บาท รวม 70,000 บาท พร้อมได้ตัดไม้พะยูง และตัดทอนเป็นท่อนแล้ว ทั้ง 7 ต้น และเตรียมยกขึ้นรถบรรทุกขายให้แก่กลุ่มนายหน้าดังกล่าว
ขณะที่ชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปสอบถาม พระครูปิยธรรมวิมล แต่ไม่ได้รับคำชี้แจงแต่อย่างใด จึงได้แจ้งไปยังผู้นำท้องถิ่น ทั้ง นายพิรุณ แก้วพนึก นายก อบต.ราม นายอำนวย กล้าณรงค์ กำนันตำบลราม นายญาติ ขวดทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 นายธำรงค์ แท่นงา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บ้านราม ก่อนที่ทั้งหมดได้เดินทางมายังวัด พบว่า ไม้พะยูงที่ถูกตัดโค่นไว้ทั้ง 7 ต้น กำลังถูกนำขึ้นรถบรรทุกสิบล้อ จำนวน 1 คัน และ รถบรรทุกหกล้อ อีก 1 คัน เพื่อขายให้แก่นายหน้าซื้อไม้พะยูง
กลุ่มผู้น้ำท้องถิ่นจึงได้แจ้งให้ พระครูปิยธรรมวิมล พร้อมทั้งนายหน้าซื้อไม้พะยูง ยุติการดำเนินการเคลื่อนย้ายไม้พะยูงออกจากวัด เพราะการตัดไม้พะยูงซึ่งเป็นไม้หวงห้ามแม้อยู่ในพื้นที่วัดที่เป็นหลักฐานว่าไม้พะยูงอยู่เป็นหลักแหล่ง แต่พระครูปิยธรรมวิมล ไม่ได้แจ้งให้คณะกรรมการวัด และญาติโยมในหมู่บ้านได้รับทราบ และการลักลอบตัดไม้พะยูงในวัด ถือว่าเป็นการขโมยไม้วัด รวมทั้งไม่ทราบว่าเงินที่ได้จากการขายไม้พะยูงจะนำไปใช้ในทางสาธารณประโยชน์ในวัดหรือไม่
จากนั้น เวลา 14.00 น. นายพิรุณ แก้วพนึก นายก อบต.ราม นายอำนวย กล้าณรงค์ กำนันตำบลราม นายญาติ ขวดทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 12 นายธำรงค์ แท่นงา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บ้านราม ได้เดินทางไปยัง สภ.เมืองที เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อ พระครูปิยธรรมวิมล และกลุ่มนายหน้ารับซื้อไม้พะยูงทั้งหมด 5 คน
นายพิรุณ แก้วพนึก นายก อบต.ราม กล่าวว่า พวกตนมาแจ้งความในฐานะชาวบ้านคนหนึ่งที่เห็นพฤติการณ์ไม่ถูกต้องของเจ้าอาวาสวัด ที่สั่งตัด และขายไม้พะยูงในวัด แม้อ้างว่าเป็นการตัดไม้ในที่มีโฉนดที่ดิน แต่เจ้าอาวาสวัด ไม่เคยหารือกรรมการวัด และชาวบ้านญาติโยมเลย อีกทั้งเมื่อทางผู้นำชาวบ้านได้สอบถาม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำรวจ และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ กลับบอกว่าเจ้าอาวาสวัดสามารถทำได้ไม่ผิดกฎหมาย หากเป็นอย่างนี้ต่อไปเจ้าอาวาสวัดต้องการขายศาลาวัด ขายทรัพย์สินทุกอย่างในวัดก็ทำไปเลย แล้วชาวบ้านญาติโยมจะทำอย่างไร
“ฉะนั้นพวกเราจึงมาแจ้งความดำเนินคดีไว้ก่อน ส่วนจะเป็นอย่างไรก็สุดแล้วแต่ทางกฎหมายจะดำเนินการต่อไป ส่วนเรื่องเงินขายไม้พะยูง หรือแม้แต่เงินต่างๆ ของวัด ทั้งเงินทอดกฐิน ผ้าป่า ชาวบ้านทราบเพียงว่ามียอดเงินเท่านั้นเท่านี้ แต่ไม่ทราบว่าเอาเงินไปทำอะไรบ้าง ซึ่งเป็นเช่นนี้มานานแล้ว หากพฤติกรรมเป็นเช่นนี้ต่อไปชาวบ้านเองคงทนไม่ได้อีก” นายพิรุณ กล่าว
ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อ พระครูปิยธรรมวิมล เจ้าอาวาสวัดรามวราวาส และเจ้าคณะตำบลราม ตำบลสำโรง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแต่ไม่พบ ถามสามเณรทราบว่า พระครูปิยธรรมวิมล ได้ขึ้นรถยนต์ปิกอัพของวัดออกจากวัดไปเมื่อช่วงเที่ยงวัน โดยไม่ทราบว่าเดินทางไปที่ใด