ชาวบ้านพัทลุงนับร้อยตั้งเวทีปิดประตูห้ามพระเข้าวัดหลังมีพฤติกรรมเสื่อมเสีย

พัทลุง - ชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือน บ้านหัวป่าเขียว ต.ทะเลน้อย ตั้งเวทีปราศรัยปิดประตูที่พักสงฆ์บ้านป่าหัวเขียว ไม่ให้ “พระสมพร” ที่ประจำอยู่เข้าไปได้ หลังจากได้นำเรือพระออกไปเรี่ยไรเงินที่ จ.นครศรีธรรมราช เผยพระสมพร ทำเสื่อมเสีย และประพฤติตนไม่เหมาะสมต่อการเป็นสงฆ์

ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงาน ว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (23 ต.ค.) พระครูกาชาด เจ้าอาวาสวัดประดู่หอม ในฐานะเจ้าคณะตำบลทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ลงพื้นที่บ้านหัวป่าเขียว หมู่ที่ 7 ต.ทะเลน้อย เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ กรณีที่ชาวบ้านได้ตั้งเวทีติดตั้งเครื่องขยายเสียง และปราศรัยบริเวณหน้าประตูที่พักสงฆ์บ้านหัวป่าเขียว เพื่อไม่ต้องการให้พระสมพร ปัญญาธโร พระที่ประจำอยู่ที่พักสงฆ์ได้เดินทางกลับเข้าวัด หลังจากที่ได้ตกแต่งเรือพระนำออกไปตระเวนเรี่ยไรเงินทำบุญจากชาวบ้านอยู่ที่ต่างจังหวัด โดยที่ประชาชนในพื้นที่ใกล้วัดไม่ได้รับรู้มาก่อน

แต่การเจรจาของพระครูกาชาด ก็ไม่มีผล เพราะประชาชนกว่า 100 ครอบครัว ยืนยันที่จะให้พระสมพร เดินทางออกจากวัด เพราะชาวบ้านได้ประชุมลงมติว่า ไม่ต้องการอีกแล้ว ส่วนความผิดที่มีอยู่มากมาย และร้ายแรงประชาชนก็ไม่ต้องการที่จะประจานให้เสื่อมเสียทั้งพระ และประชาชนในหมู่บ้าน เพียงแต่ต้องการให้ออกไปอยู่ที่อื่น และไม่ต้องการเห็นหน้าพระสมพรอีกแล้ว เมื่อชาวบ้านยืนยันจะให้เดินทางออกไปจากวัด เจ้าคณะตำบลก็ต้องสั่งให้พระสมพรไปอยู่ที่อื่น ตามความต้องการของประชาชน

นายนอง แก้วช่วย อายุ 63 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน กล่าวว่า บ้านหัวป่าเขียว เป็นหมู่บ้านห่างไกล มีประชาชนอยู่ในหมู่บ้านประมาณ 182 ครอบครัว ก่อนหน้านี้ ประชาชนในหมู่บ้านได้ร่วมบริจาคที่ดิน จำนวน 16 ไร่ เพื่อก่อสร้างเป็นที่พักสงฆ์ และนิมนต์พระมาอยู่ประจำ เมื่อพระอาจารย์เที่ยง มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ.2548 ก็ได้ไปนิมนต์พระสมพร มาจากวัดท่าเสม็ด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มาอยู่ประจำ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าวัดทำบุญที่วัดใกล้บ้าน แต่มาระยะหลังๆ ความประพฤติของ พระสมพร ได้เปลี่ยนไป สร้างความแตกแยกในหมู่บ้าน ไม่ออกบิณฑบาต รับกิจนิมนต์ อยู่วัดก็ขับรถยนต์ออกตลาด ไปซื้ออาหารมาหุงต้มกินเองที่กุฏิ และโลภมากจนลืมตัว ไม่มีการพัฒนาวัด และไม่ปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ ประชาชนก็อดทนมาโดยตลอด

แต่ล่าสุด พระสมพร ได้เตรียมจัดงานทอดกฐินสามัคคีในวันที่ 3 พ.ย.นี้ โดยที่ไม่ได้แจ้งให้ประชาชนได้มีส่วนร่วม และที่สำคัญ แจ้งว่ามีพระประจำพรรษาอยู่ที่วัด จำนวน 5 รูป ในความเป็นจริงแล้วไม่มีพระอยู่ในที่พักสงฆ์ เพียงแต่พิมพ์ฎีกาหลอกชาวบ้านให้มาร่วมทำบุญ เมื่อประชาชนรับรู้ก็เกรงว่าที่พักสงฆ์บ้านหัวป่าเขียวจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ประกอบกับความผิดที่รุนแรงที่ชาวบ้านไม่อยากให้เปิดเผยก็มีสะสมอยู่แล้ว จึงมีมติปิดประตูที่พักสงฆ์ไม่ต้องการให้พระสมพรอยู่ต่อไป โดยถือโอกาสขณะที่ พระสมพร ตกแต่งเรือพระขับออกไปตระเวนเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช

ทางด้านพระครูกาชาด เจ้าคณะตำบลทะเลน้อย กล่าวว่า ผู้เป็นพระอยู่ที่วัด หรือที่พักสงฆ์ เมื่อชาวบ้านไม่ต้องการก็ต้องสั่งให้ออกจากวัดตามความต้องการของประชาชน แต่ออกไปก็ไม่ได้มีความผิด ไม่ต้องแต่งตั้งกรรมการสอบสวนใดๆ ส่วนงานทอดกฐินที่กำหนดมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.นั้น เมื่อไม่มีพระครบตามที่กำหนดก็รับกฐินไม่ได้อยู่แล้ว ซองที่แจกไปก็อาจจะจัดทอดผ้าป่า ส่วนกรณีที่ชาวบ้านแจ้งให้งดทอดกฐิน และผ้าป่านั้นก็ค่อยคุยกันไปว่าจะทำอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีการเจรจาทำความเข้าใจกันได้ พระสมพร ก็ได้ให้คนใกล้ชิดมาขนของออกจากวัด โดยที่ชาวบ้านได้ยกให้ทุกอย่างที่พระสมพร จัดสร้างไว้ และได้รื้อเวทีหน้าประตูเปิดให้รถยนต์วิ่งเข้าไปขนของออกจากวัดได้อย่างสะดวก