กระบี่ - ชาวบ้านเขาพนม กระบี่ ตื่น!ศาลาสวดศพ กว้าง 20 เมตร ยาว 15 เมตร งบก่อสร้าง 2 ล้านบาท ทรุดตัวไม่ทราบสาเหตุ ร้องหน่วยงานรัฐเข้าตรวจสอบ
เวลา 09.00 น. วันนี้ (17 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า เกิดเหตุศาลาสวดศพของวัดทุ่งปรือ ม.4 ต.พรุเตียว อ.เขาพนม จ.กระบี่ ทรุดพังเสียหายทั้งหลังโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงเดินทางไปตรวจสอบภายในวัด พบพระปรีชา รองเจ้าอาวาสวัดทุ่งปรือ และนายจ้วน เมืองพรหม ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังยืนดูซากปรักหักพังของศาลาสวดศพชั้นเดียว กว้างประมาณ 20 เมตร ยาวประมาณ 15 เมตร ยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร ที่กำลังก่อสร้างใกล้เสร็จทรุดพังเสียหายทั้งหลังอย่างน่าเสียดาย
จากการสอบถามพระปรีชา รองเจ้าอาวาสวัดทุ่งปรือ ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 06.00 น. ขณะที่กำลังเตรียมตัวจะออกบิณฑบาต ก็ได้ยินเสียงศาลาสวดศพที่กำลังก่อสร้างอยู่ข้างหน้าทรุดพังเสียหายไปต่อหน้าต่อตาจนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้โครงสร้างของหลังคาที่สร้างแยกจากจากกันเป็น 2 ส่วน ทรุดพิงกัน ทำให้หน้าจั่วที่สร้างเป็นรูปของพญานาค 2 ตัว มากระแทกได้รับความเสียหายคล้ายกับเป็นการต่อสู้กัน หลังทราบเรื่องญาติโยมก็ได้แวะเวียนกันมาดูอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งทุกคนก็บ่นเสียดาย และวิจารณ์ถึงพญานาค 2 ตัวไปต่างๆ นานา
รองเจ้าอาวาสวัดทุ่งปรือ กล่าวอีกว่า ศาลาสวดศพหลังที่ทรุดพังดังกล่าว ทางวัดได้จัดสร้างด้วยเงินทองสะสมที่ชาวบ้านได้ช่วยกันบริจาคให้แก่วัด และส่วนหนึ่งเป็นเงินที่ทางชาวบ้าน และทางวัดได้ร่วมกันทอดกฐินกันมา โดยได้เริ่มก่อสร้างเมื่อ 3 ปี ที่ผ่านมา และกำลังก่อสร้างใกล้เสร็จ อยู่ในขั้นตอนของการตกแต่ง และปูกระเบื้องให้สวยงาม ซึ่งทางวัดหมดเงินไปกับการก่อสร้างประมาณ 2 ล้านบาทเศษ ยังไม่ทันได้ใช้ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคเงินสร้างศาลาก็มาพังเสียก่อน
นายจ้วน เมืองพรหม ผญบ.กล่าวว่า จากการตรวจสอบตัวศาลาสวดศพที่ทรุดพังเสียหาย คาดว่าน่าจะเกิดจากการทรุดตัวของฐานรากของตัวศาลา เนื่องจากศาลาที่สร้างเป็นศาลาขนาดใหญ่ มีการยกพื้นสูง แต่ไม่มีการตอกเสาเข็ม ทำให้ฐานรากไม่สามารถรับน้ำหนักได้ จึงทำให้ศาลาทรุดตัวอย่างที่เห็น และจะให้ผู้รับเหมารับผิดชอบก็ไม่ได้เพราะทราบว่าทางวัดไม่ได้มีการทำสัญญา ซึ่งหลังจากนี้ทางชาวบ้านต้องรื้อถอน และสร้างใหม่กันเอง และหากเป็นไปได้อยากให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาตรวจสอบโครงสร้างอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งโชคดีขณะที่ตัวศาลาพังยังไม่ได้มีการใช้งาน ทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด