ศรีสะเกษ - ชาวบ้านภูมิซรอลเฮหลังคำพิพากษาศาลโลกคดีปราสาทพระวิหาร มึนคำตัดสินอ้างไทยไม่เสียหายดินแดนบริเวณเขาพระวิหารและให้ไทย-กัมพูชาใช้พื้นที่ร่วมกัน ด้านเหยื่อจรวด BM- 21 ทหารเขมรยังผวาสงครามเกรงฝ่ายกัมพูชาอาจไม่พอใจผลการตัดสิน
เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ ( 11 พ.ย. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลากลางบ้านหมู่ 12 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจุดที่ นายโชคชัย สายแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสาธงชัย ได้จัดให้เป็นสถานที่รับชมการถ่ายทอดสดการพิพากษาของศาลโลกคดีปราสาทพระวิหาร ทางโทรทัศน์ โดยมีนายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษพร้อมด้วย นายวิชิต ไตรสรณกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ศรีสะเกษ นายวีรยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ตำบลเสาธงชัย และชาวบ้านภูมิซรอล มาเฝ้าชมการถ่ายทอดสดกันอย่างคึกคัก
ทั้งนี้เมื่อการอ่านคำพิพากษาของศาลโลกสิ้นสุดลง กลุ่มผู้ร่วมรับชมการถ่ายทอดสดดังกล่าว ต่างเข้าใจว่า ศาลโลกตัดสินให้ไทยและกัมพูชาใช้พื้นที่ร่วมกันบริเวณเขาพระวิหารเช่นเดิม ทำให้บรรดาชาวบ้านและผู้ที่มาชมการถ่ายทอดทุกคนต่างพากันร้องไชโยออกมาด้วยความดีใจ ที่ไทยไม่ต้องเสียดินแดนที่บริเวณเขาพระวิหารอีกต่อไป
นายวีรยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย กล่าวว่า ผลการพิพากษาของศาลโลกออกมาแบบนี้ ทำให้ตนและชาวบ้านในเขต ต.เสาธงชัยทุกคนรู้สึกดีใจมาก ทำให้ไทยไม่ต้องเสียดินแดนบริเวณเขาพระวิหาร ซึ่งตนมั่นใจว่าชาวบ้านทุกคนจะรู้สึกสบายใจขึ้นที่ศาลโลกตัดสินออกมาเป็นกลางทำให้ไม่เป็นชนวนก่อให้เกิดสงครามระหว่างไทย – กัมพูชา ขึ้นมาบริเวณเขาพระวิหารอีกต่อไป ส่วนเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคตนั้น จะต้องรอดูว่า รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาจะมีการหารือกันในเรื่องนี้อย่างไรต่อไป
นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า การที่ศาลโลกพิพากษาออกมาให้ทั้ง 2 ประเทศใช้ประโยชน์ร่วมกันที่บริเวณเขาพระวิหารนับว่า เป็นผลดีต่อประเทศเป็นอย่างมากเพราะจะทำให้ประชารชนชาวไทยเกิดความรู้สึกที่ดีไม่ต้องมีความหวาดระแวงจะต้องเสียดินแดนไทยอีกต่อไป เพราะการที่ศาลโลกตัดสินออกมาเช่นนี้ ต้องเป็นการพิจารณาวิเคราะห์จากข้อมูลพยานหลักฐานที่ครอบคลุมทุกด้านอย่างถี่ถ้วนแล้ว ส่วนการดำเนินการต่อไปคงจะต้องรับฟังนโยบายของรัฐบาลว่า จะให้มีการดำเนินการอย่างไรต่อไป
ทางด้าน นายสัมฤทธิ์ แก้วสง่า อายุ 46 ปี ชาวบ้านภูมิซรอลคนหนึ่งที่เคยถูกจรวด บีเอ็ม -21 ของฝ่ายกัมพูชายิงถล่มบ้านไฟไหม้ทั้งหลัง กล่าวว่า ผลการพิพากษาออกมาเช่นนี้ ทำให้ตนและชาวบ้านทุกคนดีใจมาก แต่ยังไม่สบายใจเท่าที่ควรเนื่องจากเกรงว่าอาจจะทำให้ฝ่ายกัมพูชาไม่พอใจผลการตัดสินและจะทำให้เกิดสงครามขึ้นมาอีก เหมือนเมื่อช่วงปี 2554 ที่ผ่านมาก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามตนก็พร้อมที่จะอพยพหนีภัยสงครามตลอดเวลาอยู่แล้ว