แพร่ - กระแสต้านตัดต้นสักริมทางสายแพร่-ลอง รับโครงการทำถนน 4 เลน เริ่มขยายวง สภาองค์กรชุมชน เตรียมชงขึ้นถกบนเวทีเปิดให้คนแพร่รู้ข้อมูล เผยสักทั้งหมดปลูกรับเสด็จฯสมเด็จพระเทพฯ ในพิธีเปิดอาคารมหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี 2540
วันนี้ (9 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.แพร่ ว่า หลังแขวงการทางจังหวัดแพร่ จะขยายทาง 1023 ตอนแพร่-ลอง จาก 2 เป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 2 กิโลเมตรเศษ ซึ่งจะต้องมีการตัดต้นสัก และกระยาเลย 2 ข้างทาง รวม 581 ต้น ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะดำเนินการตลอดเส้นทาง ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร จนเกิดกระแสการต่อต้านการตัดไม้สักอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ทำหนังสือไปยังอธิบดีกรมป่าไม้ เพื่อขอใช้ประโยชน์ต้นสัก 2 ข้างทาง โดยจะใช้วิธีการบอน หรือขุดล้อมไปปลูกในที่เหมาะสมต่อไป
อย่างไรก็ตาม เครือข่ายนักอนุรักษ์ในจังหวัดมองว่า การอนุรักษ์ไม้สักด้วยการบอนแล้วนำไปปลูกที่อื่น แม้จะเป็นสิ่งที่ดี แต่คนส่วนใหญ่ต้องการให้ปล่อยต้นสักไว้ที่เดิมมากกว่า โดยเรียกร้องให้ออกแบบก่อสร้างถนนใหม่ และให้เพิ่มการสร้างทางเพื่อการขี่จักรยาน จากตัวเมืองแพร่มายังอ่างเก็บน้ำห้วยขมิ้น และมหาวิทยาลัยรามคำแหง ศูนย์วิทยบริการจังหวัดแพร่ เพื่อส่งเสริมสุขภาวะของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองแพร่
ขณะที่สภาองค์กรชุมชนตำบล จ.แพร่ จะนำประเด็นดังกล่าวสู่สาธารณะเพื่อให้คนส่วนใหญ่รับทราบ และให้ความเห็นเพิ่มเติมต่อไป
ด้านนายบุญช่วย กันกา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่ กล่าวว่า ถนนสายนี้เป็นเส้นทางเชื่อมไปที่ลำปาง ซึ่งมีอุบัติเหตุเกิดบ่อยมาก มีอันตรายต่อการสัญจร ปริมาณรถมีมาก เนื่องจากเป็นทางลัดไป จ.ลำปาง และ จ.เชียงใหม่ จึงเห็นด้วยที่จะต้องขยายถนน
โดยเท่าที่ทราบ โครงการขยายถนนระยะแรก 1.8 กิโลเมตรเสร็จไปแล้ว ส่วนที่จะดำเนินการต่อเป็นช่วงที่ 2 ระยะทาง 2.4 กิโลเมตร ไปสิ้นสุดก่อนขึ้นภูเขาที่ห้วยขมิ้น งบประมาณ 35 ล้านบาท ซึ่งจำเป็นต้องตัดต้นไม้สัก 2 ข้างทาง อันเป็นต้นสักที่ปลูกเมื่อปี 2540 เพื่อต้อนรับการเสด็จฯ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อครั้งทรงเปิดอาคารมหาวิทยาลัยรามคำแหง ศูนย์วิทยบริการจังหวัดแพร่ ซึ่งชาวบ้านมองว่าเป็นเส้นทางเสด็จฯ จำเป็นต้องให้เขียวชอุ่มจึงมีการระดมผู้นำหมู่บ้านไปช่วยกันปลูกต้นไม้
“ตอนนี้มีความจำเป็นต้องตัดเพราะการสร้างถนนควรทำให้เสร็จตามกำหนด 280 วัน ที่ผู้รับเหมาทำสัญญาไว้กับแขวงการทาง ถ้าล่าช้าออกไปอาจเกิดปัญหาการก่อสร้างได้”
