แพร่ - ผู้ว่าฯ ยันจังหวัดไม่เกี่ยวตัดต้นสักขยายถนน “แพร่-ลอง” ระบุเป็นแผนแขวงการทาง เบื้องต้นทำแค่ 2 กม. ต้นสัก 457 ต้น กระยาเลย 124 ต้น แต่รับอนาคตทำตลอดสาย ด้านนักอนุรักษ์เดินหน้าต้านต่อ ชี้ทำลายอัตลักษณ์ “เมืองหม้อห้อม ไม้สัก”
วันนี้ (4 ต.ค.) นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวถึงโครงการขยายทางหลวง 1023 แพร่-ลอง จาก 2 เลนเป็น 4 เลน ซึ่งต้องตัดต้นสักที่ปลูกไว้สองข้างถนนว่า โครงการนี้เป็นของแขวงการทางแพร่ ซึ่งมีงบประมาณไม่มาก และเป็นการทำต่อจากช่วงแรกที่ทำจากแพร่ ข้ามแม่น้ำยม สิ้นสุดที่หมู่ 3 ต.ป่าแมต บริเวณหน้าร้านเมนูปลา โดยจะขยายถนนอีก 2 กิโลเมตรเศษ คือ กม.1.19-4.45 ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนขออนุญาตจากกรมป่าไม้
อย่างไรก็ตาม ถนนสายนี้ต้องขยายเป็น 4 เลน ถึงแยกแม่แขม แต่คงอีกนาน โดยใช้งบประมาณปกติ ก่อสร้างไปทีละช่วง ซึ่งส่วนตัวเห็นด้วยกับการพัฒนาถนนสายนี้ในเชิงอนุรักษ์ป่า เป็นถนนเรียนรู้เรื่องไม้สัก แต่ต้องรอให้ถนน 4 เลนนิ่งเสียก่อน จึงจะใช้วิธีการปลูกเสริมต่อไป
นายอภิชาติกล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ได้เข้าสำรวจจำนวนต้นไม้ริมทาง ช่วงที่จะดำเนินการขยายถนนแล้ว พบว่าส่วนใหญ่เป็นไม้ขนาดใหญ่ เส้นรอบวง 100-149 เซนติเมตร เป็นไม้สัก 457 ต้น ไม้กระยาเลย 124 ต้น
“ข้อมูลเหล่านี้ได้รายงานให้ผมทราบแล้ว และได้เสนออธิบดีกรมป่าไม้ไปตามลำดับ โดยจังหวัดไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย เป็นเรื่องของส่วนกลาง ซึ่งอธิบดีกรมป่าไม้จะเป็นผู้อนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ตัด”
นายอภิชาติกล่าวว่า เบื้องต้นทางจังหวัดเห็นว่าจะไม่ตัดไม้ขนาดใหญ่ แต่ถ้าต้องตัดจะขุดล้อมไปปลูกในศูนย์ราชการต่อไป หรือให้นักวิชาการมาดูว่าจะใช้ประโยชน์ได้อย่างไร โดยจังหวัดเห็นว่าไม่ควรนำไปจำหน่าย แต่ควรนำมาแกะสลักเข้าโครงการเฟอร์นิเจอร์ซิตี้ แต่งเมืองแพร่ให้เป็นเมืองไม้
ล่าสุด ได้เรียกกรมทางหลวง และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้แพร่มาพบเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองหน่วยงานไม่สนใจไม้เหล่านี้ ดังนั้นจังหวัดจะไม่ตัดไม้ออก แต่จะขอขุดไปปลูกในที่เหมาะสม ซึ่งเครื่องจักรขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ก็เคยย้ายต้นไม้จากทางหลวงหมายเลข 103 แล้วนำมาปลูกที่ศูนย์ประชุมบ้านกอเปา ต.ทุ่งโฮ้ง อ.เมือง และส่วนใหญ่ไม่ตาย
ทั้งนี้ ประเด็นปัญหาการตัดสักริมทางแพร่-ลองนั้น กลุ่มประชาสังคมและนักอนุรักษ์ในแพร่ มองต่างจากผู้ว่าราชการจังหวัด โดยต้องการให้รักษาต้นสักเป็นทิวสองข้างทางไว้เช่นเดิม เพื่อความสวยงาม และส่งเสริมอัตลักษณ์ของ จ.แพร่ ที่เป็นเมืองแห่งป่าไม้ จนมีคำขวัญว่า “หม้อห้อม ไม้สัก ถิ่นรักพระลอ ช่อแฮศรีเมือง ลือเลื่องแพะเมืองผี คนแพร่นี้ใจงาม” โดยเครือข่ายอนุรักษ์จังหวัดแพร่ ได้เตรียมทำหนังสือคัดค้านไปยังกรมทางหลวง และกรมป่าไม้ต่อไป
