แพร่ - ผู้ว่าฯ นำตัวแทนหลายหน่วยงานทำข้อตกลงปูทางตัดไม้จากสวนป่าสักส่งเข้าโรงงานเฟอร์นิเจอร์ คาดอนาคตทำเงินเข้าจังหวัดได้ปีละนับหมื่นล้าน
เมื่อเวลา 19.00 น. วานนี้ (26 ส.ค.) นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยู โครงการความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากไม้เพื่อหยุดยั้งการทำลายป่าอย่างยั่งยืน และโครงการพัฒนาโรงงานต้นแบบสำหรับผลิตผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ไม้สักคุณภาพสูง ที่ห้องประชุมนานา 1 โรงแรมเฮือนนานา บูติก อ.เมือง จ.แพร่ โดยมีตัวแทนสำนักพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) วิทยาลัยชุมชนแพร่ สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา วิสาหกิจชุมชนผู้ค้าเฟอร์นิเจอร์ กรมส่งเสริมการเกษตร และสำนักงานจังหวัดแพร่ ร่วมลงนาม
นายอภิชาตกล่าวว่า จังหวัดแพร่มีศักยภาพในการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการค้าเฟอร์นิเจอร์ของอาเซียนได้ จุดแข็งสำคัญคือ ป่าไม้สักที่ปลูกโดยเกษตรกร และ ออป.กว่า 10,000 ไร่ที่ปลูกมานานกว่า 100 ปีแล้ว และปลูกเสริมอย่างต่อเนื่อง ถ้าสามารถพัฒนามาเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้ก็ไม่ต้องใช้ไม้จากป่าธรรมชาติ และจะไม่ถูกกีดกันทางการค้าอีกต่อไป
ทั้งนี้ เฟอร์นิเจอร์ของ จ.แพร่เคยทำรายได้ให้จังหวัดไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปี ถ้าโครงการนี้สำเร็จเชื่อว่าเฟอร์นิเจอร์ไม้สักคุณภาพสูงจะทำรายได้ให้จังหวัดแพร่ได้นับ 10,000 ล้านบาทแน่นอน
ด้านนายฐานวัฒน์ วิทยปรีชาศิลป์ นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ไม้ กล่าวว่า ไม้สักเป็นเอกลักษณ์สำคัญ เป็นพืชที่มีคุณค่า ซึ่งทางภูมิศาสตร์แล้วแพร่เป็นถิ่นปลูกไม้สักที่ดี สามารถนำไปผลิตอะไรก็ได้ และมีอุตสาหกรรมไม้สักมานานกว่า 130 ปี ปัจจุบันเป็นโอกาสดีที่หน่วยงานภาครัฐ และฝ่ายการเมืองเห็นเป็นแนวทางเดียวกันที่จะพัฒนาไม้สักแพร่ให้เป็นศูนย์กลางเฟอร์นิเจอร์ก่อนเกิดประชาคมอาเซียน
ซึ่งต่อไปแพร่จะกลายเป็นเทอร์มินัลตลาดเฟอร์นิเจอร์ของอาเซียน แต่ถ้าไม่มีการพัฒนาดังกล่าว เพื่อนบ้านที่มีความเชี่ยวชาญก็จะมาใช้พื้นที่แพร่เป็นตลาดตักตวงผลประโยชน์ไป สวนป่าไม้สักจะไม่ให้ประโยชน์แก่ประเทศไทยอีกต่อไป