แพร่ - “อธิบดีกรมชลประทาน” สั่งด่วนเลื่อนการรับฟังความคิดเห็นประชาชนใน จ.แพร่ ซึ่งเป็นเวทีสุดท้ายออกไปไม่มีกำหนด ด้านชาวสะเอียบยังเดินหน้าค้านไม่หยุด เพราะยังกังวลว่าเลิกสร้างเขื่อนจริงหรือไม่
วันนี้ (13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีกรมชลประทาน กำลังศึกษาผลกระทบและความเป็นไปได้ในการสร้างเขื่อนยมบน และเขื่อนยมล่าง กั้นแม่น้ำยมที่ จ.แพร่ ซึ่งจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนแล้ว 3 เวที ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)เตาปูน อ.สอง จ.แพร่ ซึ่งเป็นเวทีย่อย ที่ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย และที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเชียงม่วน จ.พะเยา และจะมีการรับฟังความคิดเห็นอีกครั้งวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ที่หอประชุมผึ้งหลวง โรงเรียนพิริยาลัย อ.เมือง จ.แพร่
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม นายถาวร บุญราศี เจ้าหน้าที่กรมชลประทานได้โทรศัพท์แจ้งนายสมมิ่ง เหมืองร้อง แกนนำ ต.สะเอียบ อ.สอง ว่ากรมชลประทานขอเลื่อนการรับฟังความคิดเห็นที่ จ.แพร่ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด จึงไม่ต้องเดินทางมาร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว
นายสมมิ่งกล่าวว่า การที่กรมชลประทานยกเลิกการจัดรับฟังความคิดเห็นที่ จ.แพร่ ออกไปอย่างไม่มีกำหนดนั้น ชาวสะเอียบยังไม่นิ่งนอนใจว่ามีการล้มเลิกขั้นตอนสร้างเขื่อนตามกฎหมาย ชาวสะเอียบยังเชื่อว่ากรมชลประทานต้องหาวิธีที่จะไม่ให้ชาวสะเอียบเข้าร่วมเวทีแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ชาวสะเอียบบุกเข้าล้มเวทีที่ อ.เชียงม่วน ทำให้นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน ต้องหารือกับนายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ในการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นวันที่ 14 พฤษภาคม โดยเฉพาะเป็นข้อห่วงใยของนายอุบลศักดิ์ ขิตสร้อย ผู้อำนวยการโรงเรียนพิริยาลัย ที่อาจเกิดความวุ่นวายในโรงเรียน เนื่องจากเป็นวันเปิดเทอมวันแรกด้วย ถ้ามีเวทีการรับฟังความคิดเห็นต่อไป ชาวสะเอียบอาจเข้าร่วมจำนวนมาก และปิดการประชุมด้วยการประท้วงต่อต้านการสร้างเขื่อนอีกแน่นอน ซึ่งทำให้อธิบดีกรมชลประทานมีคำสั่งด่วนให้ยกเลิกการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น
พระยงยุทธ ทีปโก เจ้าอาวาสวัดปางงุ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ พระนักอนุรักษ์ กล่าวว่า การยกเลิกเวทีครั้งนี้น่าจะมีเงื่อนงำ ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่ทราบเหตุผล ว่าทำไมต้องออกมาคัดค้านการสร้า เขื่อน และข้อมูลอะไรที่บอกว่าจำเป็นต้องสร้างเขื่อน ซึ่งเวทีรับฟังความคิดเห็นนอกจากเป็นการให้ข้อมูลภาครัฐไปจัดการตามความต้องการของประชาชนแล้ว ยังเป็นเวทีแสดงเหตุผลที่จะทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจซึ่งกันและกัน ที่สำคัญโครงการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำยมอยู่ในแผนกู้เงิน 3.5 แสนล้าน ซึ่งใกล้จะหมดระยะเวลาในเดือนมิถุนายน การไม่เร่งตัดสินใจสร้างหรือไม่สร้างอาจทำให้กระทบกับกฎหมายกู้เงินได้
วันนี้ (13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีกรมชลประทาน กำลังศึกษาผลกระทบและความเป็นไปได้ในการสร้างเขื่อนยมบน และเขื่อนยมล่าง กั้นแม่น้ำยมที่ จ.แพร่ ซึ่งจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนแล้ว 3 เวที ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)เตาปูน อ.สอง จ.แพร่ ซึ่งเป็นเวทีย่อย ที่ศาลากลางจังหวัดสุโขทัย และที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเชียงม่วน จ.พะเยา และจะมีการรับฟังความคิดเห็นอีกครั้งวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ที่หอประชุมผึ้งหลวง โรงเรียนพิริยาลัย อ.เมือง จ.แพร่
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม นายถาวร บุญราศี เจ้าหน้าที่กรมชลประทานได้โทรศัพท์แจ้งนายสมมิ่ง เหมืองร้อง แกนนำ ต.สะเอียบ อ.สอง ว่ากรมชลประทานขอเลื่อนการรับฟังความคิดเห็นที่ จ.แพร่ ออกไปอย่างไม่มีกำหนด จึงไม่ต้องเดินทางมาร่วมเวทีรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว
นายสมมิ่งกล่าวว่า การที่กรมชลประทานยกเลิกการจัดรับฟังความคิดเห็นที่ จ.แพร่ ออกไปอย่างไม่มีกำหนดนั้น ชาวสะเอียบยังไม่นิ่งนอนใจว่ามีการล้มเลิกขั้นตอนสร้างเขื่อนตามกฎหมาย ชาวสะเอียบยังเชื่อว่ากรมชลประทานต้องหาวิธีที่จะไม่ให้ชาวสะเอียบเข้าร่วมเวทีแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ชาวสะเอียบบุกเข้าล้มเวทีที่ อ.เชียงม่วน ทำให้นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน ต้องหารือกับนายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ในการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นวันที่ 14 พฤษภาคม โดยเฉพาะเป็นข้อห่วงใยของนายอุบลศักดิ์ ขิตสร้อย ผู้อำนวยการโรงเรียนพิริยาลัย ที่อาจเกิดความวุ่นวายในโรงเรียน เนื่องจากเป็นวันเปิดเทอมวันแรกด้วย ถ้ามีเวทีการรับฟังความคิดเห็นต่อไป ชาวสะเอียบอาจเข้าร่วมจำนวนมาก และปิดการประชุมด้วยการประท้วงต่อต้านการสร้างเขื่อนอีกแน่นอน ซึ่งทำให้อธิบดีกรมชลประทานมีคำสั่งด่วนให้ยกเลิกการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น
พระยงยุทธ ทีปโก เจ้าอาวาสวัดปางงุ้น อ.วังชิ้น จ.แพร่ พระนักอนุรักษ์ กล่าวว่า การยกเลิกเวทีครั้งนี้น่าจะมีเงื่อนงำ ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่ทราบเหตุผล ว่าทำไมต้องออกมาคัดค้านการสร้า เขื่อน และข้อมูลอะไรที่บอกว่าจำเป็นต้องสร้างเขื่อน ซึ่งเวทีรับฟังความคิดเห็นนอกจากเป็นการให้ข้อมูลภาครัฐไปจัดการตามความต้องการของประชาชนแล้ว ยังเป็นเวทีแสดงเหตุผลที่จะทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจซึ่งกันและกัน ที่สำคัญโครงการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำยมอยู่ในแผนกู้เงิน 3.5 แสนล้าน ซึ่งใกล้จะหมดระยะเวลาในเดือนมิถุนายน การไม่เร่งตัดสินใจสร้างหรือไม่สร้างอาจทำให้กระทบกับกฎหมายกู้เงินได้
