แพร่ - ปัญหาหมอกควันเหนือฟ้าเมืองแพร่เกินค่ามาตรฐานแล้ว ขณะที่ผู้ว่าฯ บอกเครื่องวัดอยู่ใกล้จุดก่อสร้าง 9 โครงการใหญ่ทำปริมาณฝุ่นพุ่งสูง พร้อมย้ำยังห้ามเผาเด็ดขาด สั่งทุกอำเภอลงเก็บเศษพืช-สิ่งเหลือใช้ส่งทำปุ๋ยใน 7 วันต่อจากนี้ หวังลดเชื้อไฟไม่ให้ชาวบ้านเผา
วันนี้ (28 ก.พ. 56) สถานีตรวจวัดหมอกควัน กรมควบคุมมลพิษ รายงานการตรวจสภาพอากาศในภาคเหนือ หลายจังหวัดในภาคเหนือเริ่มมีหมอกควันในอากาศเกินค่ามาตรฐาน ปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน เฉลี่ย 24 ชั่วโมงมีค่าระหว่าง 72-142 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง มีผลต่อสุขภาพ ปริมาณฝุ่นละอองในอากาศเพิ่มขึ้นกว่าวันก่อนเกือบทุกสถานี
สถานีที่มีปริมาณฝุ่นละอองมากที่สุดในภาคเหนือ คือ จังหวัดแพร่ วัดที่สถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดแพร่ ตั้งอยู่ใน อ.เมืองแพร่ วัดได้ 142 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นอกนั้นยังพบเกินมาตรฐานที่ จ.ลำปางด้วย สภาพอากาศมีผลต่อสุขภาพของประชาชนแล้วในขณะนี้
นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้กล่าวขณะเป็นประธานเข้าร่วมประชุมโครงการพัฒนาศักยภาพกำนันผู้ใหญ่บ้านภาคเหนือ ที่โรงแรมนครแพร่ทาวเวอร์ อ.เมือง จ.แพร่ ว่า หมอกควันในจังหวัดแพร่ สูงกว่าจังหวัดอื่น สาเหตุสำคัญมาจากเครื่องตรวจวัดอยู่ในสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.แพร่ ภายในสนามบินแพร่ พบว่ารอบสนามบินในรัศมี 3 กม.มีการก่อสร้างขนาดใหญ่อยู่ทั้งหมด 9 แห่ง เช่น การปรับปรุงสนามบินขยายทางวิ่งของสนามบิน มีการเร่งงานเพื่อให้เครื่องบินขนาดใหญ่ลงได้, การสร้างห้างใหญ่ของบริษัทโฮมโปร ในพื้นที่ 30 ไร่, โครงการบ้านจัดสรรในบริเวณกาดน้ำทอง 30 ไร่, การก่อสร้างวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นอกนั้นยังมีโครงการขนาดใหญ่คล้ายๆ โฮมโปรอีกรวมทั้งหมด 9 แห่ง ทำให้ในบริเวณตรวจวัดอากาศพบฝุ่นละอองมากเป็นพิเศษ นอกจากนั้นต้องยอมรับว่ามีหมอกควันจากการเผาไร่และไฟป่าเข้ามาด้วย
จังหวัดฯ รับทราบปัญหาและกำลังทำการแก้ไขอยู่ ทางออกที่ดีที่สุดคือความร่วมมือของประชาชนในการจุดไฟเผาป่าให้น้อยที่สุด โดยได้กำหนดพื้นที่รับผิดชอบคือเขตพื้นที่ป่า พื้นที่เมือง และพื้นที่การเกษตร ในระดับอำเภอมีชุดลาดตระเวนทุกหมู่บ้านหมู่บ้านละ 15 คน มีชุดเคลื่อนที่เร็วมีการสนธิกำลังในระดับจังหวัดมีการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ถ้าทำตามแบบแผนที่วางไว้เชื่อว่าปัญหาหมอกควันจะลดน้อยลงไป
กรณีที่เกษตรกรระงับการเผาอยู่ และอาจเผาขึ้นมาวันใดวันหนึ่งจนส่งผลกระทบรุนแรงได้ นายอภิชาติกล่าวว่า แพร่มีพื้นที่ป่าอนุรักษ์และพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งมีการรุกทำไร่ข้าวโพดที่มีการโค่นป่ารอเผา แต่จากนี้จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูและจะไม่อนุญาตให้เผาโดยเด็ดขาด ส่วนพืชและสิ่งเหลือใช้จากการเกษตรก็จะให้ท้องถิ่นทุกแห่งเข้าไปจัดการลำเลียงออกมาทำเป็นปุ๋ยต่อไป โดยขณะนี้อำเภอเข้าไปสำรวจหมดแล้วและจะทำการลำเลียงออกจากหมู่บ้านในอีก 7 วันข้างหน้าเพื่อนำมาใช้ทำประโยชน์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์หมอกควันในจังหวัดแพร่ยังคงมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น ทุกวันและเชื่อว่าเกษตรกรที่โค่นป่ารอการเผา จะไม่ฟังข้อห้ามเมื่อถึงเวลาเผาจริงๆ โดยขณะนี้มีผู้ป่วยทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นในทุกโรงพยาบาลแล้ว