ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เครือข่าย FTA Watch เคลื่อนขบวนยื่นหนังสือคณะเจรจาไทย-สหภาพยุโรปถึงหน้าโรงแรมที่ประชุม หนุนฝ่ายไทยเดินหน้ารักษาประโยชน์ชาติ ไม่ยอมรับ “TRIPs-Plus” ในเวทีเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรป หวั่นกระทบการเข้าถึงยา-พืชพันธุ์เกษตรของประชาชน พร้อมเตรียมเคลื่อนไหวรณรงค์ให้คณะกรรมการโนเบลถอนรางวัลสาขาสันติภาพของสหภาพยุโรป ปี 2012 หากยังไม่เลิกกดดันรัฐบาลไทย
วันนี้ (19 ก.ย.56) ขบวนเครือข่ายภาคประชาชนจาก 28 องค์กร กว่า 2,000 คน นำโดยกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน หรือ FTA Watch เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายอัครเรศน์ สายกระจ่าง ที่ปรึกษาประธานผู้แทนการค้าไทย สำนักงานผู้แทนการค้าไทย และนายอันโตนิโอ เบอร์เรงเกอร์ หัวหน้าฝ่ายการค้า สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ในฐานะตัวแทนคณะเจรจาฝ่ายไทยและฝ่ายสหภาพยุโรป เพื่อเรียกร้องให้คณะเจรจาฝ่ายไทยแสดงจุดยืนคัดค้านการเจรจาที่อาจก่อให้เกิดผลประทบต่อประเทศไทย และคัดค้านคณะเจรจาฝ่ายสหภาพยุโรปที่หยิบยกข้อเสนอด้านทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งในเรื่องยาและทรัพยากรชีวภาพเข้าสู่การประชุม
การเข้ายื่นหนังสือต่อคณะเจรจาทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายสหภาพยุโรปของเครือข่ายภาคประชาชนในวันนี้ มีขึ้นหลังจากที่คณะเจรจาทั้งสองฝ่ายได้เข้าร่วมการเจรจาการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป รอบที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 16-20 ก.ย. ณ โรงแรมเลอ เมอริเดียน จังหวัดเชียงใหม่ และครือข่ายภาคประชาชนได้จัดกิจกรรมชุมนุมเพื่อรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบจากการเจรจาการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป รวมทั้งแสดงออกถึงการสนับสนุนคณะเจรจาฝ่ายไทยให้ดำเนินการเจรจาอย่างรอบคอบ และปกป้องสิทธิของประชาชนไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในระหว่างวันที่ 17-18 ก.ย. ณ บริเวณข่วงประตูท่าแพ
โดยในวันนี้ (19 ก.ย.) กลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนซึ่งชุมนุมที่ข่วงประตูท่าแพได้เคลื่อนขบวนโดยมีเป้าหมายเพื่อยื่นหนังสือต่อคณะเจรจาทั้งสองฝ่ายที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน ซึ่งเป็นสถานที่จัดการประชุม อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ได้ทำการปิดเส้นทางบริเวณหน้าถนนท่าแพ ซอย 1 ตัดกับถนนลอยเคราะห์ และไม่อนุญาตให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปถึงหน้าโรงแรมได้ ทำให้ขบวนของเครือข่ายภาคประชาชนหยุดอยู่ที่บริเวณหน้าโรงแรมเซ็นทาราดวงตะวัน ต่อเนื่องไปตามเส้นทางถนนลอยเคราะห์ โดยทั้งหมดทำการชุมนุมอย่างสงบ พร้อมทั้งประกาศที่จะรอพบกับตัวแทนของคณะเจรจาทั้งสองฝ่าย ซึ่งมีการประสานงานว่าจะเดินทางมารับหนังสือจากกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนในช่วงบ่าย
จากนั้นในเวลาประมาณ 13.30 น. ตัวแทนคณะเจรจาทั้งสองฝ่าย ได้แก่นายอัครเรศน์ สายกระจ่าง ที่ปรึกษาประธานผู้แทนการค้าไทย สำนักงานผู้แทนการค้าไทย และนายอันโตนิโอ เบอร์เรงเกอร์ หัวหน้าฝ่ายการค้า สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยได้เดินทางมาพบกับกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชน พร้อมทั้งรับหนังสือจากนายอุบล อยู่ว้า จากเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก และนางสาวกรรณิการ์ กิจติเวชกุล จากกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน ในฐานะตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนทั้งหมดที่ร่วมการชุมนุมในครั้งนี้
สำหรับสาระสำคัญในหนังสือที่เครือข่ายภาคประชาชนได้ยื่นต่อผู้แทนคณะเจรจาฝ่ายไทย ประกอบด้วยการแสดงความขอบคุณในการดำเนินการเจรจาโดยไม่ละเลยข้อห่วงใยต่างๆ จากภาคประชาชน และการยืนยันที่จะไม่รับข้อเสนอเจรจาที่มากกว่าข้อตกลงด้านทรัพย์สินทางปัญญาขององค์การการค้าโลก (TRIPs-Plus) พร้อมทั้งเรียกร้องให้คณะเจรจาฝ่ายไทยแสดงจุดยืนใน 3 ประเด็น ได้แก่
1. ประเด็นสินค้าแอลกอฮอล์ ที่จะไม่ให้การค้าเสรีเปิดช่องให้มีการส่งเสริมให้เกิดนักดื่มหน้าใหม่
2. การคุ้มครองการลงทุนที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนฟ้องร้องผ่านอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้ฝ่ายไทยถูกฟ้องร้องในประเด็นเกี่ยวกับมาตรการเพื่อรักษาประโยชน์สาธารณะต่างๆ ได้
และ 3. ให้ละเว้นเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างโดยภาครัฐในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้านสุขภาพ สาธารณูปโภค และสวัสดิการทางสังคม
ส่วนประเด็นในหนังสือที่ยืนต่อผู้แทนคณะเจรจาของสหภาพยุโรป ได้แก่การที่เครือข่ายภาคประชาชนเตรียมที่จะเคลื่อนไหวรณรงค์ให้คณะกรรมการรางวัลโนเบลแห่งนอร์เวย์ เพิกถอนรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ค.ศ. 2012 จากสหภาพยุโรป เนื่องจากเห็นว่าสหภาพยุโรปพยายามกดดันรัฐบาลไทยให้ยอมรับความผูกพันทางกฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญามากกว่าที่ผูกพันในองค์การการค้าโลก (TRIPs-Plus) อันจะส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงยาราคาถูกของประชาชน รวมทั้งขัดขวางการเข้าถึงเมล็ดพันธุ์และพันธุกรรมพืชและสัตว์ของเกษตรกร ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสหภาพยุโรปขาดมนุษยธรรมจากการถือเอาผลประโยชน์ของบรรษัทข้ามชาติก่อนสวัสดิภาพของประชาชน
ทั้งนี้ นายอัครเรศน์ ฐานะตัวแทนคณะเจรจาฝ่ายไทย กล่าวกับกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนว่า คณะเจรจาฝ่ายไทยจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อรักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนชาวไทยเป็นสำคัญ และจะมีการนำข้อเสนอแนะต่างๆ จากเครือข่ายภาคประชาชนมาพิจารณาต่อไป ขณะที่นายอันโตนิโอ เบอร์เรงเกอร์ กล่าวว่า คณะเจรจาจากสหภาพยุโรปขอขอบคุณที่เครือข่ายภาคประชาชนได้เคลื่อนไหวแสดงออกด้วยความเรียบร้อย และหวังว่าการเจรจาระหว่างไทยและสหภาพจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและสำเร็จลุล่วงในที่สุด
ด้านนางสาวกรรณิการ์ เปิดเผยว่า กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชนและเครือข่ายจะยังคงติดตามจับตาความคืบหน้าการเจรจาการค้าเสรีระหว่างไทยและสหภาพยุโรปอย่างต่อเนื่อง และหากพบว่าสหภาพยุโรปยังคงกดดันให้ไทยยอมรับข้อเสนอที่จะส่งผลกระทบต่อระบบสุขภาพและการเกษตรแล้ว จะมีการเคลื่อนไหวรณรงค์ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อขอให้คณะกรรมการรางวัลโนเบลแห่งนอร์เวยืเพิกถอนรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งสหภาพยุโรปได้รับรางวัลในปี ค.ศ. 2012 ต่อไป
