ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กระทรวงอุตสาหกรรมจัดสัมมนาพัฒนาสินค้า OTOP ที่เชียงใหม่ ตั้งเป้ายกระดับสินค้าพื้นที่ภาคเหนือให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน มผช. หลังพบสินค้าจำนวนมากโดยเฉพาะ “ผ้า-อาหาร” ยังไม่ผ่านเกณฑ์ ปธ.กรรมาธิการอุตสาหกรรมชี้อนาคตเข้า AEC เป็นโอกาสสินค้า OTOP ได้ขยายตลาด ดังนั้นต้องเร่งพัฒนาสินค้าให้ผ่านเกณฑ์ มผช.เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ-สร้างโอกาสทางการตลาด
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเอ็มเพรส โรงแรมดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และสถาบันในเครือข่าย ได้จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง การพัฒนาสินค้า OTOP ด้วยมาตรฐาน มผช. สู่ AEC ขึ้น โดยมีนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธี และมีผู้ผลิตสินค้า OTOP ประเภทผ้าและอาหารจากจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง กว่า 700 คนเข้าร่วม
การจัดการสัมมนาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ผลิตสินค้าชุมชน เพื่อให้สามารถพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ได้ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ มผช. ซึ่งจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนเป็นที่ยอมรับ และเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในอนาคตที่ไทยจะเข้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC อันเป็นโอกาสดีที่สินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทยจะได้มีโอกาสขยายไปจำหน่ายในตลาดอาเซียนต่อไปในอนาคต
สำหรับการจัดการสัมมนาในครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้จัดการสัมมนาให้ผู้ผลิตสินค้าชุมชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จังหวัดนครราชสีมามาแล้วนั้น จะมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ชุมชนประเภทผ้าและอาหารเป็นหลัก เนื่องจากการสำรวจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน และพะเยา พบว่าแม้ผู้ผลิตสินค้าชุมชนจะให้ความสนใจนำสินค้าและผลิตภัณฑ์เข้ารับการตรวจสอบตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนกว่า 1,555 ผลิตภัณฑ์ แต่พบว่ามีผลิตภัณฑ์กว่ากึ่งหนึ่งที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์คุณภาพ มผช. โดยส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผ้า เครื่องแต่งกาย และอาหาร การจัดการสัมมนาในครั้งนี้จึงเป็นการเสริมความรู้ให้ผู้ผลิตเพื่อให้สินค้าผ่านเกณฑ์คุณภาพ มผช.ได้
ทั้งนี้ ในการสัมมนามีการให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ผู้ผลิตนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ของตนในด้านต่างๆ โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าจะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับเอกลักษณ์ของผ้า ชนิดเส้นใย การวัดขนาด การเย็บ พร้อมทั้งสาธิตขั้นตอนการผลิตและการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการทอ การฟอกย้อม และความเป็นกรด-ด่างของผ้า รวมไปถึงการสาธิตเทคนิคในการบำบัดน้ำเสียจากขั้นตอนการฟอกย้อม ขณะที่ในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารจะให้ความรู้ในเรื่องการแก้ไขให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาล การตรวจสอบสิ่งปนเปื้อน การแปรรูป การใช้สารเคมี และการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การเข้าสู่ AEC ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับธุรกิจหลายๆ ด้านของประเทศไทย รวมทั้งกลุ่มผู้ผลิตสินค้าชุมชนหรือ OTOP ที่จะสามารถนำสินค้าออกไปจำหน่ายในตลาดได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การที่จะนำสินค้าออกไปจำหน่ายได้นั้น สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือเรื่องของคุณภาพของสินค้าที่ต้องได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดทำโครงการมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนเพื่อให้การรองรับผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ได้มาตรฐาน โดยมีการประกาศใช้แล้วจำนวน 1,456 มาตรฐาน และให้การรับรองคุณภาพแก่ผู้ผลิตสินค้าชุมชนไปแล้ว 54,720 ราย
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้ผลิตสินค้าชุมชนอีกเป็นจำนวนมากที่ส่งผลิตภัณฑ์ของตนเข้ารับการตรวจสอบตามมาตรฐาน มผช.แต่ยังไม่ผ่านเกณฑ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือที่พบว่ามีสินค้าในกลุ่มผ้าและอาหารอยู่มาก แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ดังนั้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือให้ผู้ผลิตสินค้าชุมชนเหล่านี้สามารถพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ผ่านเกณฑ์ได้ กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้จัดการสัมมนาขึ้น เพื่อให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องแก่ผู้ประกอบการสำหรับนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาสินค้าของตน เพื่อยกระดับให้ผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐาน มผช. ซึ่งนอกจากจะช่วยให้สินค้าเป็นที่ยอมรับแล้ว ยังจะช่วยเสริมสร้างรายได้และขยายตลาดให้กับชุมชน อันจะนำไปสู่รายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และก่อให้เกิดความเข้มแข็งของท้องถิ่นตามมาอีกด้วย
