ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เผยไทยติดอันดับ 2 ท้องก่อนแต่งของโลก ปีล่าสุดมีมากถึง 2 แสนราย ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 12-20 ปี สวท.ยอมรับโดยมากรู้เรื่องเพศศึกษาดีแต่ไม่ป้องกัน เรียกร้องให้ทุกฝ่ายให้ความสนใจสร้างเครือข่ายรณรงค์ให้ข้อมูลความรู้ผลกระทบรอบด้านที่ตามมา หวั่นปัญหาบานปลายสังคมแตกแยกมากกว่าที่เป็นอยู่
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (3 ก.ย.) ที่ห้องประชุมวิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายมนตรี เภกะนันท์ ผู้อำนวยการสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการอบรมแกนนำเยาวชนเครือข่าย Friend Corner รู้ทัน ไม่ท้อง On Tour ในระดับภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย หรือคลินิก สวท. ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช.ได้จัดการอบรมขึ้น
โดยมีนักเรียนนักศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ถึงระดับอุดมศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ในเขต จ.ขอนแก่น เข้าร่วมรับการอบรมรวมกว่า 100 คน
นายมนตรี เภกะนันท์ ผู้อำนวยการสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย (สวท.) กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นที่ 2 ของโลกรองจากประเทศแอฟริกาใต้และเป็นอันดับ 1ในกลุ่มประเทศอาเซี่ยน ของปัญหาที่สตรีตั้งครรภ์ในภาวะไม่พร้อม ในจำนวนนี้มากถึงร้อยละ 70 ที่ประสบปัญหาท้องก่อนแต่ง และมีอัตราเฉลี่ยเฉพาะผู้หญิงที่มีแนวโน้มที่มีอายุที่ลดลงน้อยที่สุด ที่มีการตรวจพบปัญหาดังกล่าวอยู่ที่อายุ 12 ปี เรียกได้ว่าปัญหาดังกล่าวมีอัตราเสี่ยงที่ครอบคลุมในทุกช่วงอายุของสังคมไทย
ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบยังพบอีกว่าผู้ที่ประสบปัญหาส่วนใหญ่มีความรู้เรื่องเพศศึกษาแต่ไม่ป้องกัน ดังนั้นการสร้างเครือข่ายเยาวชนแกนนำในระดับภูมิภาค ซึ่งคลินิก สวท.ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทุกภูมิภาคของไทย เพื่อสร้างความเข้าใจและทราบถึงวิธีป้องกันไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นในลักษณะที่บานปลาย สามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้โดยเริ่มจากตัวบุคคล
นายมนตรีกล่าวว่า ปัญหาการตั้งครรภ์ของกลุ่มสตรีที่ไม่พร้อมมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น และมีจำนวนที่จะใกล้เคียงกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV ซึ่งจากข้อมูลในปีที่ผ่านมาพบว่า สตรีที่ตั้งครรภ์ในภาวะไม่พร้อมภาพรวมทั่วทั้งประเทศของไทยมีมากถึง 200,000 รายที่ขอรับคำปรึกษาจากคลินิก สวท. ในขณะที่ยอดรวมเฉลี่ยของคนไทยที่ป่วยด้วยโรค HIV มีราว 600,000 คน
“เฉพาะภาคอีสาน 3 จังหวัดหลัก ประกอบด้วย ขอนแก่น นครราชสีมา และอุบลราชธานี น่าเป็นห่วงมากเช่นกัน เพราะมีอัตราเฉลี่ยของเด็กที่ประสบปัญหาที่เริ่มจาก 12 ปี ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะร่วมมือกันสร้างเครือข่ายเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวไม่ให้บานปลายมากไปกว่านี้”
นายมนตรีกล่าวว่า การบริการอนามัยเพื่อการเจริญพันธุ์ถือเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ทุกฝ่ายจะต้องสร้างความเข้าใจให้แก่เด็กและเยาวชน เพราะทุกวันนี้ภาพที่เห็นได้ทั่วไปคือการแสดงออกซึ่งความรักของทุกเพศ และทุกวัย ทั้งชายรักชาย หญิงรักหญิง และชายรักหญิง อีกทั้งจากข้อมูลที่ตรวจสอบยังพบอีกว่าฝ่ายชายก่อนที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนสุดท้ายของตัวเองนั้นได้ผ่านการมีคู่มาแล้วไม่น้อยกว่า 10 คน
ขณะเดียวกันฝ่ายหญิงเองก็ผ่านการมีคู่ก่อนที่จะตัดสินใจสมรส และใช้ชีวิตครอบครัวด้วยการมีแฟนมาแล้วไม่น้อยกว่า 3-4 ราย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอิสระของการมีคู่นั้นเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายยอมรับได้
ดังนั้นถึงเวลาที่ทุกฝ่ายจะต้องให้ความสำคัญป้องกันปัญหาการท้องไม่พร้อมและรู้จักป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันทำอย่างจริงจัง
