โพลเผยเทศกาลวันแม่เงินสะพัด 1.8 หมื่นล้านบาท ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 4 ปี เหตุเศรษฐกิจชะลอตัวและค่าครองชีพพุ่ง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจทัศนคติและพฤติกรรมของประชาชนเกี่ยวกับวันแม่ว่า ปริมาณการใช้จ่ายเงินในช่วงเทศกาลวันแม่ในปี 2556 คาดว่าจะมีเงินสะพัด 18,175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% แต่เป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้หลายครอบครัวต้องมีการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกิจกรรมในครอบครัวในช่วงเทศกาลวันแม่ พบว่าส่วนใหญ่จะพาแม่ไปทำบุญมากที่สุด รองลงมาเป็นการพาแม่ไปรับประทานข้าวเหมือนกับปีก่อนๆ ไม่ได้ไปไหนเพื่อประหยัดเงิน พาครอบครัวไปรับประทานข้าว เที่ยวต่างจังหวัด เป็นต้น
ส่วนค่าใช้จ่ายในการทำกิจกรรมกับครอบครัวสูงสุดคือ การพาแม่ไปต่างจังหวัดและค้างคืนเฉลี่ยที่ 7,927 บาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.7% รองลงมาเป็นการพาแม่ไปสปาหรือนวด เฉลี่ยที่ 1,975 บาท เพิ่ม 25% พาครอบครัวไปรับประทานข้าว 1,861 บาท เพิ่ม 4.4% พาแม่ไปรับประทานข้าว 1,615 บาท เพิ่ม 9.2% และพาแม่ไปทำกิจการนอกบ้าน 1,214 บาท เพิ่ม 9.9% เป็นต้น
สำหรับของที่ลูกจะซื้อให้แม่มากที่สุด คือของขวัญ 29.2% รองลงมาเป็นพวงมาลัย หรือดอกไม้ 21.9% เครื่องดื่มบำรุงร่างกาย 21% ให้เงินสดหรือทอง 20.1% เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า 9.3% กระเช้าผลไม้ 7.5% เครื่องใช้ไฟฟ้า 3.1% เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามถึงความเป็นห่วงของแม่ที่มีต่อลูก พบว่าแม่เป็นห่วงลูกติดยาเสพติด การตีกันเพื่อแย่งแฟน การยกพวกตีกันของวัยรุ่น การใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย รวมถึงการท้องก่อนแต่งงาน เป็นต้น ส่วนสิ่งที่ลูกต้องการจากแม่คือ อยากให้แม่รักมากๆ อยากให้แม่กอด อยากให้แม่ฟังเหตุผล เป็นต้น
ทางด้านการวางแผนไปเที่ยวในเทศกาลวันแม่ พบว่าจังหวัดที่มีการนิยมในการท่องเที่ยวในประเทศ คือ จังหวัดชลบุรี พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา ระยอง เป็นต้น โดยจะเดินทางตั้งแต่วันที่ 11-12 ส.ค. 2556 ส่วนในต่างประเทศที่นิยมกันคือ เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เป็นต้น โดยจะเดินทางวันที่ 9 ส.ค. กลับวันที่ 13 ส.ค. 2556