เอเจนซีส์ - โดยไม่หยุดพักกินข้าวและไปห้องน้ำหรือการยืนพิงโต๊ะอภิปราย สว.เวนดี้ เดวิสจากเดโมแครตกลายเป็นดาวรุ่งจากเหตุการณในครั้งนี้ สวมรองเท้าผ้าใบ"ยืน"นานกว่า 13 ชั่วโมง อภิปรายเกี่ยวกับกฎหมายต่อต้านการทำแท้งของผู้ว่าการรัฐเท็กซัสที่ได้เรียกประชุมพิเศษเพื่อผ่านมตินี้ แต่โดนเดวิสทำให้ตกไปหลังเที่ยงคืน ในขณะที่ทางรีพับลิกันประกาศจะยื่นกลับเข้ามาใหม่ในครั้งหน้า
สว.เวนดี้ เดวิส วัย 50 จากพรรคเดโมแครตที่ถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าการอภิปรายคัดค้านกฎหมายการวางแผนครอบครัวที่ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสของรีพับลิกันริก เพอร์รี เสนอเรียกเปิดวาระพิเศษการประชุมสภาสูงของเท็กซัส ซึ่งจุดประสงค์ของกฎหมายฉบับนี้ต้องการให้ปรับปรุงมาตรฐานการปลอภัยของการวางแผนครอบครัวในรัฐเทกซัสให้สูงขึ้น โดยห้ามไม่ให้ทำการยุติการตั้งครรภ์ตั้งแต่ 20 สัปดาห์ขึ้นไป พร้อมทั้งเพิ่มกฎเกณที่ยากขึ้นเป็นผลทำให้คลินิกการวางแผนครอบครัวในเท็กซัส เช่นห้ามไม่ให้รับคนไข้ที่อยู่นอกรัศมี 30ไมล์เป็นต้น
เป็นเพราะสว.เดวิสที่ในอดีตไม่มีประกันสุขภาพ เคยมีประสบการณ์ใช้บริการคลี
นิกวางแผนครอบครัวนี้มาก่อนในช่วงก่อนหน้าที่เธอจะเข้าศึกษาวิชากฏหมายในมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ทำให้เธอเข้าใจและได้รับการเลือกให้เป็นผู้นำการอภิปรายในครั้งนี้ และตามกฎการอภิปรายซักค้านของสภาสูงในเท็กซัส เธอต้องยืนตลอดเวลา โดยห้ามหยุดพักไปทำธุระใดทั้งสิ้น หรือใช้ส่วนใดของร่างกายพิงกับโต๊ะอภิปราย และเธอไม่สามารถอภิปรายออกนอกประเด็น โดยเดวิสใช้เวลากว่า 13 ชั่วโมงนั้นในการอ่านคำให้การของบรรดาคนไข้ที่เคยใช้บริการวางแผนครอบครัวและความเห็นของกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ ตลอดจนความเห็นของแพทย์และเธอได้ยังอภิปรายถึงอนามัยของสตรีอีกด้วย อย่างไรก็ตามทางฝ่ายรีพับลิกันได้ประท้วงเธอเป็นระยะว่า เธออภิปรายนอกประเด็น ทำให้เรียกเสียงไม่พอใจจากชาวเท็กซัสที่เข้ามาร่วมฟังการอภิปรายที่อยู่ชั้นบนในครั้งนี้ และส่งเสียงตระโกนลงมาว่า "ให้เธอพูดต่อไป" ซึ่งทำให้สว.ร่วมพรรคของเดวิสต้องเข้ามาช่วย และเมื่อใกล้ถึงเวลาปิดการประชุม ทางรีพับลิกันต้องการให้ลงมติโวต แต่ฝ่ายเดโมแครตอ้างว่าเลยเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว ที่ประชุมไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ส่งผลให้กฎหมายต่อต้านการทำแท้งนี้ต้องตกไป และรีพับลิกันประกาศจะยื่นกลับเข้ามาใหม่ในครั้งหน้าในอีก 30 วัน
อย่างไรก็ตาม ทางผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ริก เพอร์รี กล่าวผ่านแถลงการในวันพุธ(26)ที่ผ่านมาว่า "ชาวเท็กซัสเห็นค่าในชีวิตมนุษย์และต้องการปกป้องผู้หญิงและทารกที่ไม่ได้เกิดมา เราจะไม่ทำลายค่านิยมตามแบบฉบับเท็กซัสนี้ลงไป และเราจะไม่ให้สิ่งใดมาขัดขวางในการทำหน้าที่ ที่ชาวเท็กซัสได้เสียภาษีจ้างพวกเรามา"
จากที่ผ่านมา ศาลสูงสุดสหรัฐฯได้อนุญาตให้เปิดคลีนิกการวางแผนครอบครัวได้ทั่วประเทศในปี 1973 แต่มีราว 12 มลรัฐที่มีลักษณะอนุรักษ์นิยมได้แก้กฎหมายเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เพื่อจำกัดการให้บริการวางแผนครอบครัว ซึ่งส่งผลให้สตรีที่ต้องการใช้บริการต้องเดินทางนับหลายร้อยไมล์เพื่อหาคลีนิกเหล่านี้ หรืออาจได้รับบริการที่ต่ำกว่ามาตรฐานทางการแพทย์โดยปกติในอเมริกา
