xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรบ้านดอนโพเฮ! ธ.ก.ส.ลดหนี้ 78 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ราชบุรี - เกษตรกรบ้านดอนโพ เมืองราชบุรีเฮ! ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ลดหนี้เกษตรกร 78 ราย จาก 2 ล้านบาทเหลือ 1 แสน 3 หมื่นบาท

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.) ที่ศาลาอเนกประสงค์ หมู่ที่ 11 บ้านดอนโพ ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ได้มีการจัดประชุมการจัดการหนี้สินให้แก่เกษตรกรบ้านดอนโพ ระหว่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สำนักงานการกองทุนสนับสนุนการวิจัย ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น (สกว.) สภาพลเมืองจังหวัดราชบุรี โดยสถาบันพระปกเกล้า องค์กรต่างประเทศ และชาวบ้านดอนโพ กลุ่มเกษตรกรทำสวนบ้านสิงห์

นายสมภพ รอดกลาง รองผู้อำนวยการฝ่ายภาคตะวันตก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวว่า โครงการนิคมเกษตรกรรมเพื่อการส่งออกร่วมกับภาคเอกชน ในเขตอำเภอโพธาราม เกิดขึ้นมาปี พ.ศ.2531 เป็นโครงการที่ ธ.ก.ส.ได้ตอบสนองแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 6 ที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถผลิตสินค้าเกษตร โดยเฉพาะพืชผักให้ตรงความต้องการของตลาดเริ่มเมื่อปี พ.ศ.2531 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 80 ราย

หลังจากเริ่มโครงการดังกล่าว ซึ่งมีส่วนราชการ ธ.ก.ส.และบริษัทเอกชนซึ่งมีหน้าที่รวบรวมผลิตของเกษตรกรส่งขายต่างประเทศหลักการเป็นอย่างนั้น แต่พอเข้าร่วมโครงการเสร็จแล้วปรากฏว่าในส่วนพื้นที่ตรงนี้เดิมทีเป็นพื้นที่การปลูกอ้อย พอปรับปรุงพวกปัจจัยพื้นฐาน เช่น คลองชลประทาน และการผลิตต่างๆ ปรากฏว่า ไม่สามารถสำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการได้ พอช่วงปี พ.ศ.2538 เกิดน้ำท่วมใหญ่ เกษตรกรประสบปัญหาไม่สามารถชำระหนี้ให้แก่ธนาคารได้

ปัจจุบัน หนี้เกษตรกรแต่ละรายรวมแล้วเฉลี่ยตกรายละ 2 ล้านบาท ทาง ธ.ก.ส.เห็นว่าเกษตรกรมีเจตนาเข้าร่วมโครงการด้วยความบริสุทธ์ใจ การผลิตนั้นเสียหายเกิดจากภัยธรรมชาติไม่ใช่เกิดจากตัวเกษตรกร ดังนั้น ธนาคารก็ต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบในโครงการนี้ด้วย จึงมีการเจรจาต่อรองหลายครั้ง

ล่าสุด ทางคณะกรรมการธนาคารได้พิจารณาอนุมัติช่วยเหลือเกษตรกรจากเป็นหนี้ประมาณ 2 ล้านบาท ให้ชำระหนี้เพียงรายละ 1 แสน 3 หมื่นบาท โดยมีการกำหนดชำระคืน 9 ปี เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหา ปัจจุบัน คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 บาทต่อปี ก็ต้องขอความกรุณาเกษตรกรเพราะถือว่าโครงการนี้ทางธนาคารได้ช่วยอย่างที่สุดแล้ว ถ้าใน 9 ปี ส่งเงินต้นจำนวน 1 แสน 3 หมื่นบาท คาดว่าสามารถชำระได้แน่นอน แต่ถ้าหากเกษตรกรไม่สามารถชำระได้ ธ.ก.ส.คงจะต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไปว่ามีแนวทางที่จะช่วยเหลือ หรือผ่อนปรนได้อย่างไรได้อีกบ้าง แต่หลักการเบื้องต้นธนาคารจะสนับสนุนเรื่องหลักการ ซึ่ง ธ.ก.ส.มีงบประมาณด้านการพัฒนาอยู่แล้วพร้อมที่จะสนับสนุนตรงนี้อยู่แล้ว

“วันนี้ ได้มีการนัดเกษตรกรมาทำสัญญาเพื่อเป็นการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ จากหนี้จำนวน 2 ล้านบาท ให้เหลือหนี้ประมาณ 1 แสน 3 หมื่นบาท โดยมีการผ่อนชำระในเวลาไม่เกิน 9 ปี แต่ถ้าเกษตรกรมีศักยภาพสามารถชำหนี้หนี้เสร็จเร็ว ก็จะสามารถไถ่ถอนโฉนดที่ดินที่จำนองกลับไปได้ หรือบางรายหากต้องการเป็นลูกค้า ธ.ก.ส.ต่อไปก็สามารถมาใช้บริการเงินกู้ ธ.ก.ส.ต่อไปได้ ตอนแรกมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 80 ราย ปัจจุบันเหลือ 78 ราย ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีการชำระหนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว 1 ราย คงเหลือ 77 ราย”

นางพิมพ์วิมล บุญดีเพิ่มสุขเจริญ ฝ่ายจัดการหนี้สินเกษตรกร กล่าวว่า ชาวบ้านพอใจกับโครงการลดหนี้ของ ธ.ก.ส.มากกว่าจะได้ตัวเลขมาอยู่ที่ 1 แสน 3 หมื่นบาท ต้องมีกระบวนการพูดคุยหลายครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 จนถึงวันที่เซ็นสัญญา ประมาณ 5-6 ปีแล้ว เป็นที่พอใจมากที่ถึงแม้จะเคยขอ ธ.ก.ส.ให้ยกหนี้ให้เกษตรกรทั้งหมดเราไม่ได้แค่นั้น แต่เราได้แค่นี้ก็ดีใจมากที่ยกหนี้ให้เกือบ 2 ล้านบาท โดยมีหน่วยงานอยู่ 3 องค์กร ที่มาช่วยขบวนการจัดการหนี้สินบ้านดอนโพ คือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น (สกว.) ทำงานวิจัยคือ สืบค้นประวัติของหมู่บ้าน ชุมชน ก็ยังไม่จบโครงการก็มีหมายศาลของ ธ.ก.ส.มา ทาง สกว.จึงเชื่อมโยงหน่วยงานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคให้

ต่อมา ในพื้นที่ก็ได้เชื่อมโยงทางสภาพลเมือง โดยมีนายสุเทพ โกมลภมร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นผู้ร่วมกิจกรรมนี้ด้วย และมีนายวิเชียร คุตวัต ตัวแทนของสภาพลเมืองเข้ามาร่วมด้วย รับชำระหนี้ อัตราดอกเบี้ย MRR - 3 ในระยะเวลา 9 ปี แทนที่จะต้องจ่ายเงินประมาณ 1.8-1.9 ล้านบาท เหมือนยอดเดิม ก็เหลือเพียง 1 แสน 3 หมื่นบาท ก็ยินดีจะรับหนี้ตรงนี้

อย่างไรก็ตาม ทาง ธ.ก.ส.ให้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามข้อบังคับฉบับที่ 44 ว่าด้วยการให้เกษตรกรกู้เงิน ด้วยการลดต้นเงินบางส่วน ลดดอกเบี้ยทั้งจำนวน โดยให้มีต้นเงินคงเหลือรายละ 0.13 ล้านบาท แล้วนำมาขยายระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 9 ปี ตามศักยกภาพของลูกค้า อัตราดอกเบี้ย MRR-3 โดยใช้หลักประกันจำนองเดิม และอนุญาตให้ลูกค้าไถ่ถอนที่ดินหลักประกันจำนองได้เมื่อชำระหนีเสร็จสิ้น ลดต้นเงิน จำนวน 66.80 ล้านบาท ดอกเบี้ย จำนวน 67.51 ล้านบาท ต้นเงินขยายระยะเวลาจำนวน 10.31 ล้านบาท

กำลังโหลดความคิดเห็น