เอเอฟพี - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จ่ายวงเงินช่วยเหลืองวดล่าสุดให้แก่กรีซอีก 1,720 ล้านยูโร เมื่อวานนี้(29) หลังผลประเมินทิศทางเศรษฐกิจภายใต้แพ็จเกจเงินช่วยเหลือเป็นที่น่าพอใจ
เมื่อรวมวงเงินงวดล่าสุด เท่ากับกรีซรับเงินช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟไปแล้วทั้งสิ้น 8,240 ล้านยูโร ภายใต้ข้อตกลงเงินกู้เมื่อเดือนมีนาคมปี 2012ที่เอเธนส์ทำร่วมกับเจ้าหนี้ “ทรอยกา” ซึ่งได้แก่ ไอเอ็มเอฟ, สหภาพยุโรป และธนาคารกลางแห่งยุโรป (อีซีบี)
คณะกรรมการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งได้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจกรีซเป็นครั้งที่ 4 ยังอนุมัติให้ปรับเกณฑ์การประเมินสำหรับกรีซ โดยให้ยกเลิกเกณฑ์ประเมิน 3 ข้อที่ใช้มาจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายนและยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูล ได้แก่ หนี้สินทั้งหมดของรัฐบาล, หนี้ค้างชำระในประเทศของรัฐบาล (domestic arrears) และดุลชำระเงินโดยรวมของรัฐบาล
บอร์ดบริหารไอเอ็มเอฟยังอนุมัติให้ปรับเกณฑ์ประเมินสำหรับไตรมาส 3 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนกันยายน ในส่วนของรายได้ที่มาจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ (privatization receipts)
คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟ กล่าวชื่นชมความก้าวหน้าของกรีซทั้งในด้านการลดความไม่สมดุลทางการคลัง (fiscal imbalance) และการสร้างเสถียรภาพภายนอก แต่เตือนว่ารัฐบาลเอเธนส์ยังต้องใช้มาตรการที่แข็งขันอีกหลายอย่าง
“การปฏิรูปเชิงสถาบันและเชิงโครงสร้างในภาคเอกชนและภาคส่วนอื่นๆ ยังไม่เพียงพอที่จะบรรเทาวิกฤตของกรีซได้” ลาการ์ด กล่าว
วันศุกร์ที่แล้ว (26) กลุ่มยูโรโซนทั้ง 18 ประเทศได้ปล่อยวงเงินกู้ให้กรีซอีก 4,000 ล้านยูโร หลังพบว่าเอเธนส์สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขรับเงินกู้ได้เป็นที่น่าพอใจ
กรีซเคยได้รับแพ็กเกจช่วยเหลือครั้งแรกจำนวน 110,000 ล้านยูโรเมื่อปี 2010 แต่เมื่อเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น จึงได้รับวงเงินช่วยเหลือเป็นครั้งที่สองอีก 130,000 ล้านยูโร ซึ่งจะครอบคลุมไปจนถึงช่วงกลางปี 2014 ขณะที่เจ้าหนี้เอกชนก็ยังยกหนี้ให้อีกกว่า 100,000 ล้านยูโรด้วย แต่ทั้งหมดนี้ก็ทำให้รัฐบาลเอเธนส์ถูกบีบให้ตัดลดรายจ่ายอย่างเข้มงวด นำมาสู่มาตรการตัดเบี้ยบำนาญและหั่นเงินเดือนพนักงานรัฐ ซึ่งสร้างความขมขื่นแก่พลเมืองกรีซทั้งประเทศ
