เอเอฟพี - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) อนุมัติวงเงินช่วยเหลือไซปรัสรวม 1,330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวานนี้ (15) และเริ่มปล่อยกู้งวดแรกจำนวน 110.7 ล้านดอลลาร์ให้รัฐบาลนิโคเซียแล้ว
วงเงินกู้ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแพกเกจเงินช่วยเหลือมูลค่า 10,000 ล้านยูโร ตามข้อตกลงกู้ยืมที่รัฐบาลไซปรัสทำร่วมกับไอเอ็มเอฟ และกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนไซปรัสในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของภาคธนาคาร
“การอนุมัติวงเงินก้อนนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพของระบบการเงินไซปรัส ซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืนทางการคลัง (fiscal sustainability) และสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนชาวไซปรัส” ถ้อยแถลงสั้นๆ จากไอเอ็มเอฟระบุ
คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟ ชี้ว่า การฟื้นฟูเสถียรภาพของภาคธนาคารคือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง
“รัฐบาลไซปรัสจะต้องเพิ่มทุนแก่ธนาคาร และหากจำเป็นก็จะต้องดึงเงินทุนสาธารณะจากสถาบันการเงินที่ยังมีศักยภาพในการชำระหนี้พอมาช่วยด้วย” ลาการ์ดกล่าว พร้อมระบุว่ารัฐจะต้องมีมาตรการที่เด็ดเดี่ยวเพื่อปรับโครงสร้างธนาคารที่อ่อนแอ
การปลดล็อกเงินกู้จากไอเอ็มเอฟมีขึ้น หลังจากที่อีเอสเอ็มได้อนุมัติวงเงินช่วยเหลืองวดแรก 2,000 ล้านยูโรแก่รัฐบาลไซปรัสไปเมื่อ 2 วันก่อน
เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไซปรัสบรรลุข้อตกลงรับเงินช่วยเหลือจากองค์กรเจ้าหนี้ “ทรอยกา” หลังรัฐบาลยอมรับเงื่อนไขบีบให้ผู้ฝากเงินและผู้ถือพันธบัตรต้องยอมสูญเงินก้อนโต เพื่อมิให้ภาคธนาคารไซปรัสต้องล่มสลายลงทั้งระบบ
สถิติอย่างเป็นทางการพบว่า เศรษฐกิจไซปรัสในไตรมาสแรกของปีหดตัวลง 1.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และหดตัวถึง 4.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ทั้งนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจของไซปรัสยังติดลบต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 7 แล้ว
ภาคการก่อสร้าง, อุตสาหกรรมการผลิต, ไฟฟ้า, การคมนาคมขนส่ง, การพาณิชย์, การท่องเที่ยว และบริการต่างๆ ล้วนซบเซาลงในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคมที่ผ่านมา
“ทรอยกา” ซึ่งประกอบด้วยไอเอ็มเอฟ, คณะกรรมาธิการยุโรป และธนาคารกลางแห่งยุโรป (อีซีบี) ประเมินว่า เศรษฐกิจไซปรัสมีแนวโน้มหดตัวลงถึง 8.7% ในปีนี้ และอีก 3.9% ในปี 2014