หอค้าระยองเผย น้ำมันดิบ ปตท.รั่วไหลลงทะเลระยองกระทบท่องเที่ยวแค่ช่วงแรก

ระยอง - ประธานหอการค้าจังหวัดระยองเผยน้ำมันดิบ ปตท.รั่วไหลลงทะเลกระทบท่องเที่ยวช่วงแรก สูญเงินนับพันล้านบาท เชื่อหลังการฟื้นฟู ท่องเที่ยวเสม็ด-ระยองจะเพิ่มขึ้น 1-2 เท่าแน่นอน

วันนี้ (18 ส.ค.) นางอนุชิดา ชินศิรประภา ประธานหอการค้าจังหวัดระยอง กล่าวว่า ผลกระทบด้านการท่องเที่ยวจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วในทะเลที่เข้ามาถึงอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง มีทัวร์ยกเลิกไปบ้าง แต่ทัวร์จีนไม่ยกเลิก จึงคิดว่ามีผลกระทบแค่ระยะสั้นเท่านั้น จากความตื่นตระหนกของนักท่องเที่ยวบริเวณอ่าวพร้าว แต่โดยภาพรวมมีการแก้ไขจนอยู่ในสภาพดีแล้ว

แต่ส่วนของคราบน้ำมันดิบที่ตกค้างในทะเลต้องรอระยะเวลาอีกสักระยะว่าจะส่งผลกระทบด้านใดบ้าง แต่โดยส่วนตัวคิดว่าคงไม่กระทบมากนัก ส่วนชายหาดแม่รำพึง เกิดจากนักท่องเที่ยวไปรับสารเรื่องอาหารทะเลมีสารปนเปื้อนจนรับประทานไม่ได้จึงงดการเดินทางมารับประทานอาหารทะเล ซึ่งก็คิดว่าคงเป็นแค่ระยะสั้นเท่านั้น ไม่น่าจะเป็นปัญหาระยะยาว

นางอนุชิดากล่าวว่า ในภาพรวมการท่องเที่ยวตั้งแต่เกิดเหตุทำให้นักท่องเที่ยวตกใจไปด้วย เพราะนักท่องเที่ยวมองว่าทั้งเกาะเสม็ดได้รับผลกระทบ หลังจากนั้นก็มองไปทั้งจังหวัด รวมถึงอาหารทะเลในภาคตะวันออก ซึ่งถือว่าทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว รวมทั้งเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก แต่เราห้ามการนำเสนอข่าวสารไม่ได้ ประกอบกับการบริโภคสื่อของประชาชนหรือนักท่องเที่ยวเป็นปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจเดินทาง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทุกฝ่ายได้ช่วยกันแก้ไขเต็มที่ ทั้งหน่วยงานราชการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ส่วนการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบนั้นตนเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองด้วย ซึ่งขณะมีผู้ประกอบการรายย่อยเรียกร้องเข้ามาก็อนุมัติจ่ายให้ไปก่อน เพราะได้รับความเดือดร้อนจริง ส่วนรายใหญ่ เช่น โรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหาร อยู่ระหว่างหาเกณฑ์มาตรฐานการจ่าย ไม่เช่นนั้นจะเรียกร้องกันมากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ได้จะมีการฟ้องร้องขึ้น จะทำให้ภาพลักษณ์ของจังหวัดเสียหายไปมากกว่านี้ และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแน่นอน

นางอนุชิดากล่าวว่า ในฐานะที่เป็นเจ้าของพื้นที่มองว่าการแก้ปัญหาต้องทำอย่างเร่งด่วน เพราะคนพื้นที่เองรู้ว่าเป็นปัญหาระยะสั้น ไม่เกิน 3 เดือนเรื่องก็น่าจะจบ หากสังเกตคราบน้ำมันเกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์ก็หมดไป อาจจะมีหลงเหลืออยู่ตามโขดหินและหาดทรายบ้าง ซึ่งก็ต้องใช้เวลา แต่ไม่ใช่ว่าจะทำลายการท่องเที่ยวทั้งหมด

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น จากการประเมินน่าจะถึงพันล้านบาท ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง แต่หลังจากฟื้นฟูทั้งระบบ ประชาสัมพันธ์ในทุกด้าน รวมทั้ง ปตท.เองก็รับปากจะฟื้นฟูทำการตลาดใช้บริการที่เกาะเสม็ด ซึ่งหากทำได้เร็วเท่าไหร่คนก็จะตัดสินใจมาท่องเที่ยวเร็วขึ้น แต่ภาครัฐเองก็ต้องช่วยเรื่องนี้ด้วย

“เมื่อนักท่องเที่ยวกลับมาอาจมีเม็ดเงินสะพัดมากกว่า 1,000 ล้านบาท อาจถึง 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่เสียหายไปด้วยซ้ำ”