ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ว่าฯ เมืองระยอง พร้อมมอบเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุท่อน้ำมันดิบรั่วเบื้องต้นในวันพรุ่งนี้
วันนี้ (9 ส.ค.) นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมจ่ายเงินเยียวยาให้แก่กลุ่มประมงที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุท่อน้ำมันดิบรั่วกลางทะเลว่า ในวันนี้ มีผู้เดินทางมาลงทะเบียนเพื่อขอรับการเยียวยารวมทั้งสิ้น 1,401 ราย แยกเป็นชาวประมง 516 ราย ธุรกิจโรงแรมที่พัก 764 ราย สาธารณสุข 1 ราย และอื่นๆ อีก 124 ราย
โดยในเบื้องต้น สำหรับกลุ่มอาชีพประมงนั้น ปตท.ยินดีที่จะจ่ายเงินชดเชยให้วันละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 30 วัน (หรือคิดเป็นรายละ 3 หมื่นบาท) และขณะนี้มีผู้ที่ผ่านการพิจารณาแล้ว 119 ราย ซึ่งจะมีการมอบเงินในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค.) ส่วนกลุ่มที่ยังไม่ยินยอมรับเงินเยียวยาขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุย
นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก และอื่นๆ อยู่ระหว่างการพูดคุยว่าจะชดเชยรายบุคคลอย่างไร ส่วนกลุ่มอาชีพหมอนวดแผนโบราณ จะได้ค่าชดเชยวันละ 500 บาท เป็นระยะเวลา 30 วันเช่นกัน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 50-70 ราย
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการพลิกฟื้นพื้นทรายอ่าวพร้าวที่ยังมีคราบน้ำมันปนเปื้อนฝังอยู่ในทรายนั้น เจ้าหน้าที่บริษัท พีทีที.โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยทหารเรือ ทหารบก และกลุ่มจิตอาสาจากองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ยังคงร่วมกันเก็บกวาดหาดทราย และพลิกทรายด้านล่างขึ้นมาทำความสะอาดตามหลักมาตรฐานการบำบัดฟื้นฟู เพื่อดูดซับคราบน้ำมันที่ตกค้างอยู่ใต้พื้นทราย
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ได้นำกระดาษซับคราบน้ำมันบริเวณชายหาดด้วย และพบคราบน้ำมันลอยซัดเข้าฝั่ง โดยมีลักษณะคล้ายขี้ปลาวาฬ
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมของการฟื้นฟูชายหาดอ่าวพร้าวเป็นไปตามแผน และขณะนี้ชายหาดเกือบจะกลับเข้าสู่สภาพปกติแล้ว สามารถเดินเล่นชายหาด และสัมผัสหาดทรายได้ มีเพียงร่องรอยคราบน้ำมันที่ปะปนอยู่ใต้พื้นทรายเล็กน้อยในบางจุดเท่านั้น
ส่วนน้ำทะเลบริเวณอ่าวพร้าว ก็ถือว่ากลับมาใสสะอาดเกือบจะ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากได้รับการฟื้นฟูตามหลักมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงกันพื้นที่ไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้า เพราะต้องรอให้การทำความสะอาดโขดหินคลี่คลายกว่าเดิม
ขณะที่หน่วยสำรวจน้ำของบริษัท พีทีที.โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) ยังคงลงสำรวจทะเลและปะการัง รวมทั้งวางทุ่นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการสำรวจบริเวณรอบเกาะเสม็ด พร้อมทั้งได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างน้ำทะเลบริเวณต่างๆ ทั้งชายหาดอ่าวพร้าว และน้ำทะเลโดยรอบ เพื่อตรวจสอบคุณภาพ และทำการเก็บตัวอย่างทรายบริเวณชายหาดอ่าวพร้าว เพื่อตรวจสอบในห้องปฏิบัติการต่อไป
วันนี้ (9 ส.ค.) นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมจ่ายเงินเยียวยาให้แก่กลุ่มประมงที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุท่อน้ำมันดิบรั่วกลางทะเลว่า ในวันนี้ มีผู้เดินทางมาลงทะเบียนเพื่อขอรับการเยียวยารวมทั้งสิ้น 1,401 ราย แยกเป็นชาวประมง 516 ราย ธุรกิจโรงแรมที่พัก 764 ราย สาธารณสุข 1 ราย และอื่นๆ อีก 124 ราย
โดยในเบื้องต้น สำหรับกลุ่มอาชีพประมงนั้น ปตท.ยินดีที่จะจ่ายเงินชดเชยให้วันละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 30 วัน (หรือคิดเป็นรายละ 3 หมื่นบาท) และขณะนี้มีผู้ที่ผ่านการพิจารณาแล้ว 119 ราย ซึ่งจะมีการมอบเงินในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค.) ส่วนกลุ่มที่ยังไม่ยินยอมรับเงินเยียวยาขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุย
นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก และอื่นๆ อยู่ระหว่างการพูดคุยว่าจะชดเชยรายบุคคลอย่างไร ส่วนกลุ่มอาชีพหมอนวดแผนโบราณ จะได้ค่าชดเชยวันละ 500 บาท เป็นระยะเวลา 30 วันเช่นกัน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 50-70 ราย
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการพลิกฟื้นพื้นทรายอ่าวพร้าวที่ยังมีคราบน้ำมันปนเปื้อนฝังอยู่ในทรายนั้น เจ้าหน้าที่บริษัท พีทีที.โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยทหารเรือ ทหารบก และกลุ่มจิตอาสาจากองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ยังคงร่วมกันเก็บกวาดหาดทราย และพลิกทรายด้านล่างขึ้นมาทำความสะอาดตามหลักมาตรฐานการบำบัดฟื้นฟู เพื่อดูดซับคราบน้ำมันที่ตกค้างอยู่ใต้พื้นทราย
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ได้นำกระดาษซับคราบน้ำมันบริเวณชายหาดด้วย และพบคราบน้ำมันลอยซัดเข้าฝั่ง โดยมีลักษณะคล้ายขี้ปลาวาฬ
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมของการฟื้นฟูชายหาดอ่าวพร้าวเป็นไปตามแผน และขณะนี้ชายหาดเกือบจะกลับเข้าสู่สภาพปกติแล้ว สามารถเดินเล่นชายหาด และสัมผัสหาดทรายได้ มีเพียงร่องรอยคราบน้ำมันที่ปะปนอยู่ใต้พื้นทรายเล็กน้อยในบางจุดเท่านั้น
ส่วนน้ำทะเลบริเวณอ่าวพร้าว ก็ถือว่ากลับมาใสสะอาดเกือบจะ 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากได้รับการฟื้นฟูตามหลักมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงกันพื้นที่ไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้า เพราะต้องรอให้การทำความสะอาดโขดหินคลี่คลายกว่าเดิม
ขณะที่หน่วยสำรวจน้ำของบริษัท พีทีที.โกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) ยังคงลงสำรวจทะเลและปะการัง รวมทั้งวางทุ่นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการสำรวจบริเวณรอบเกาะเสม็ด พร้อมทั้งได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างน้ำทะเลบริเวณต่างๆ ทั้งชายหาดอ่าวพร้าว และน้ำทะเลโดยรอบ เพื่อตรวจสอบคุณภาพ และทำการเก็บตัวอย่างทรายบริเวณชายหาดอ่าวพร้าว เพื่อตรวจสอบในห้องปฏิบัติการต่อไป
