เชียงราย - กลุ่มหนุน-ต้านโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียชายแดนแม่สายแห่ชุมนุมประท้วง พร้อมเดินขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดี นอภ.-ประธานชมรมกำนัน ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่-หมิ่นประมาท-ให้การอันเป็นเท็จ
วันนี้ (13 ส.ค.) กลุ่มชาวบ้านทั้งที่สนับสนุนและต่อต้านโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียเทศบาลตำบลแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้เคลื่อนไหวชุมนุมกันอย่างคึกคัก โดยกลุ่มที่สนับสนุนโครงการ นำโดยนายบุญรัตน์ คำเงิน ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.แม่สาย นายไศลยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย พร้อมมวลชนประมาณ 300 คน ชุมนุมที่ลานหน้าที่ว่าการอำเภอแม่สาย เพื่อให้กำลังใจนายสมชัย รุ่งสาคร นายอำเภอแม่สาย ที่เคยถูกกลุ่มต่อต้านโครงการนี้ประท้วงมาก่อนหน้านี้
โดยชาวบ้านได้มอบดอกไม้และถือป้ายให้กำลังใจนายสมชัย พร้อมกับขอให้ทำงานต่อไป เพราะเห็นว่านายสมชัยเพิ่งย้ายมาทำงานได้เพียง 4-5 เดือนเท่านั้น ขณะที่ตัวนายสมชัย ได้ปราศรัยกับมวลชนว่าจะตั้งใจทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาของ อ.แม่สาย เพราะตัวเมืองใหญ่ขึ้นทั้งสิ่งปลูกสร้าง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ส่วนการที่ถูกกลุ่มมวลชนออกมากล่าวหาก็จะระมัดระวังมากขึ้น
ด้านนายไศลยนต์กล่าวว่า โครงการนี้มีการคัดค้านและแจ้งความดำเนินคดีต่อตนไปแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิของผู้ร้อง และเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่เมื่อมีการร้องไปถึงศาลปกครอง และทางศาลจะเข้าไต่สวนตามคำร้องในวันที่ 14 สิงหาคม จึงถือว่าทุกฝ่ายเข้าสู่ขั้นตอนทางกฎหมาย ตนยืนยันที่จะรับฟังกติกาหากศาลตัดสินว่าอย่างไรก็จะดำเนินการตามนั้น ส่วนการจะไปยกเลิกโครงการตามการเคลื่อนไหวข้างถนนนั้นคงทำไม่ได้ หากทำเช่นนั้นโครงการต่างๆ ในอนาคตก็จะมีปัญหาได้
สำหรับความคืบหน้าของโครงการนี้ ล่าสุดได้ผ่านขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบพัสดุแล้ว แต่ยังไม่ได้เซ็นจัดจ้างเพราะต้องรอตามขั้นตอนเหล่านี้ก่อน โดยจะใช้งบประมาณผูกพันตั้งแต่งบประมาณปี 2556-2558 ซึ่งใกล้สิ้นปีงบประมาณ 2556 แล้ว หากว่าผ่านขั้นตอนต่างๆ แล้วก็จะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปีจึงแล้วเสร็จ
ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้คัดค้านโครงการก็ได้ไปชุมนุมที่ลานหน้า สภ.แม่สายเพื่อแสดงพลังคัดค้านโครงการ โดยนายปรีชา ศรีเพชร อดีตปลัดอำเภอแม่สาย ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยเนื้อหาทำนองว่าต้องการให้มีการเปิดเผย และตรวจสอบการทำประชาพิจารณ์โครงการ ตามที่ทางเทศบาลฯ ได้ระบุว่ามีการทำประชาพิจารณ์แล้ว ทั้งที่ชาวบ้านไม่เคยทราบเรื่อง ส่วนสร้างแล้วจะมีผลกระทบหรือไม่อย่างไรนั้นชาวบ้านยังไม่ได้พูดถึง
ส่วนสาเหตุที่ต้องแจ้งความดำเนินคดีต่อนายอำเภอแม่สายเพราะชาวบ้านเคยไปยื่นหนังสือขอให้นายอำเภอ ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังจังหวัด เพื่อให้ทำการตรวจสอบภายใน 60 วันแต่ปรากฏว่าหนังสือจากอำเภอไม่ได้ส่งไปยังจังหวัด จึงถือว่าเพิกเฉย ไม่ใส่ใจต่อคำร้องของประชาชน ทั้งยังแสดงทัศนะด้วยการให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นแขนงหนึ่งว่า มีผู้ไปร้องโห่ในช่วงที่มีการทำประชาพิจารณ์โครงการ ทั้งที่ไม่เคยมีการทำประชาพิจารณ์ เพราะจนถึงปัจจุบันชาวบ้านยังไม่ทราบเลยว่ามีการทำประชาพิจารณ์กันตั้งแต่เมื่อไหร่
จากนั้นนายปรีชา และแกนนำชาวบ้านอีก 6-7 คนได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สำเภา สุทธิพันธ์ พนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีต่อนายอำเภอแม่สายใน 3 ข้อหา คือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ข้อหาหมิ่นประมาท และข้อหาให้การอันเป็นเท็จ นอกจากนี้ยังแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อนายบุญรัตน์ คำเงิน ประธานชมรมกำนันและผู้ใหญ่บ้าน อ.แม่สาย ข้อหาตามมาตรา 157 เช่นกัน ซึ่งทาง พ.ต.ท.สำเภาได้สอบถามรายละเอียด และรวบรวมพยานหลักฐานที่ผู้แจ้งได้แจ้งเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายแสดงพลังเสร็จก็สลายตัวไปอย่างรวดเร็ว แต่คาดกันว่าวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.) จะมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง เพราะศาลปกครองจะไปตรวจสอบพื้นที่ และไต่สวนตามคำร้อง