ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รมช.พาณิชย์เยี่ยมชมโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ซีพีเอฟที่โคราช ตอกย้ำความเชื่อมั่นอาหารปลอดภัย คาดปีนี้การส่งออกเนื้อไก่ไทยจะโต 10-15% โดยตั้งเป้าปริมาณการส่งออกไว้ 620,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ส่งออกได้ 550,000 ตัน
นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะข้าราชการระดับสูงของกระทรวงฯ เยี่ยมชมโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ที่มีกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ (Traceability) ตลอดกระบวนการผลิต สู่เป้าหมายการเป็นครัวของโลกอย่างยั่งยืน โดยมี นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร พร้อมคณะผู้บริหารซีพีเอฟ ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายยรรยงกล่าวชื่นชมการพัฒนากระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ไก่ที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพสู่ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีความปลอดภัยสูงสุด การได้เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตภายใต้มาตรฐานสากลเช่นนี้ ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจว่าอุตสาหกรรมไก่เนื้อของไทยเป็นอุตสาหกรรมที่จะทำให้ประชาชนไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันก็เป็นอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างรายได้จากการส่งออกเนื้อไก่ที่มีมูลค่าสูงถึงกว่า 6-7 หมื่นล้านบาทต่อปี นอกเหนือจากจะช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร (Food Security) แล้ว ยังมุ่งเน้นการให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety) จากกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ช่วยสร้างความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภคด้วย
ด้านนายอดิเรกกล่าวว่า อุตสาหกรรมการส่งออกเนื้อไก่ของประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยกำลังรอผลการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อเปิดตลาดนำเข้าไก่สดจากไทย ซึ่งจะเป็นตัวผลักดันให้ยอดส่งออกเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้การส่งออกเนื้อไก่ของไทยจะโตประมาณ 10-15% โดยตั้งเป้าปริมาณการส่งออกไว้ 620,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีแล้วที่ส่งออกได้ 550,000 ตัน
นายอดิเรกกล่าวอีกว่า การส่งออกเนื้อไก่ของประเทศไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.) คือ 256,800 ตัน คิดเป็นมูลค่า 32,460 ล้านบาท โดยในช่วงเดียวกันนี้ ซีพีเอฟส่งออกได้ 48,000 ตัน มูลค่า 6,800 ล้านบาท
สำหรับสินค้าประเภทไก่ส่งออกจากประเทศไทย ประกอบด้วย เนื้อไก่สดและไก่ปรุงสุก มีตลาดหลักอยู่ที่สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น โดยราคาส่งออกไปยังสหภาพยุโรปนั้นไก่สดอยู่ที่ 3,400 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่วนไก่ปรุงสุกอยู่ที่ 5,500-6,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นราคาที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูงขึ้น ส่วนการส่งออกไปญี่ปุ่นขณะนี้ส่งออกได้แต่เฉพาะไก่ปรุงสุกและมีราคาอยู่ที่ 5,000-5,500 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 4-5% เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนอ่อนค่าลง ส่วนตลาดส่งออกเนื้อไก่ที่สำคัญของซีพีเอฟคือ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย แอฟริกาใต้ รัสเซีย และตะวันออกกลางยกเว้นซาอุดีอาระเบีย
นายอดิเรกกล่าวว่า การรวมตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community หรือ AEC) ในปี 2558 จะเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมส่งออกเนื้อไก่ของไทยเพราะมีความได้เปรียบในเรื่องการผลิตและการส่งออก จากประสบการณ์และการพัฒนาการผลิตสินค้ามีคุณภาพมาเป็นเวลานาน
“โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ที่นครราชสีมานี้มีเครื่องจักรการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย และเป็นฐานการผลิตสินค้าไก่ที่สำคัญของบริษัทที่ผ่านมาตรฐานสากลตั้งแต่ฟาร์มจนถึงผู้บริโภค โดยยึดหลักการการผลิตอาหารปลอดภัย (food safety) เพื่อความมั่นคงทางอาหาร (food security) สู่เป้าหมายการเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World)” นายอดิเรกกล่าว
https://www.youtube.com/watch?v=M0ovnqpzeSc
นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะข้าราชการระดับสูงของกระทรวงฯ เยี่ยมชมโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ที่มีกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ (Traceability) ตลอดกระบวนการผลิต สู่เป้าหมายการเป็นครัวของโลกอย่างยั่งยืน โดยมี นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร พร้อมคณะผู้บริหารซีพีเอฟ ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายยรรยงกล่าวชื่นชมการพัฒนากระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ไก่ที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพสู่ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีความปลอดภัยสูงสุด การได้เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตภายใต้มาตรฐานสากลเช่นนี้ ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจว่าอุตสาหกรรมไก่เนื้อของไทยเป็นอุตสาหกรรมที่จะทำให้ประชาชนไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันก็เป็นอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างรายได้จากการส่งออกเนื้อไก่ที่มีมูลค่าสูงถึงกว่า 6-7 หมื่นล้านบาทต่อปี นอกเหนือจากจะช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร (Food Security) แล้ว ยังมุ่งเน้นการให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยทางอาหาร (Food Safety) จากกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ช่วยสร้างความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภคด้วย
ด้านนายอดิเรกกล่าวว่า อุตสาหกรรมการส่งออกเนื้อไก่ของประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยกำลังรอผลการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อเปิดตลาดนำเข้าไก่สดจากไทย ซึ่งจะเป็นตัวผลักดันให้ยอดส่งออกเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้การส่งออกเนื้อไก่ของไทยจะโตประมาณ 10-15% โดยตั้งเป้าปริมาณการส่งออกไว้ 620,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีแล้วที่ส่งออกได้ 550,000 ตัน
นายอดิเรกกล่าวอีกว่า การส่งออกเนื้อไก่ของประเทศไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.) คือ 256,800 ตัน คิดเป็นมูลค่า 32,460 ล้านบาท โดยในช่วงเดียวกันนี้ ซีพีเอฟส่งออกได้ 48,000 ตัน มูลค่า 6,800 ล้านบาท
สำหรับสินค้าประเภทไก่ส่งออกจากประเทศไทย ประกอบด้วย เนื้อไก่สดและไก่ปรุงสุก มีตลาดหลักอยู่ที่สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น โดยราคาส่งออกไปยังสหภาพยุโรปนั้นไก่สดอยู่ที่ 3,400 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่วนไก่ปรุงสุกอยู่ที่ 5,500-6,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นราคาที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูงขึ้น ส่วนการส่งออกไปญี่ปุ่นขณะนี้ส่งออกได้แต่เฉพาะไก่ปรุงสุกและมีราคาอยู่ที่ 5,000-5,500 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 4-5% เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนอ่อนค่าลง ส่วนตลาดส่งออกเนื้อไก่ที่สำคัญของซีพีเอฟคือ สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย แอฟริกาใต้ รัสเซีย และตะวันออกกลางยกเว้นซาอุดีอาระเบีย
นายอดิเรกกล่าวว่า การรวมตัวของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community หรือ AEC) ในปี 2558 จะเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมส่งออกเนื้อไก่ของไทยเพราะมีความได้เปรียบในเรื่องการผลิตและการส่งออก จากประสบการณ์และการพัฒนาการผลิตสินค้ามีคุณภาพมาเป็นเวลานาน
“โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ที่นครราชสีมานี้มีเครื่องจักรการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในเอเชีย และเป็นฐานการผลิตสินค้าไก่ที่สำคัญของบริษัทที่ผ่านมาตรฐานสากลตั้งแต่ฟาร์มจนถึงผู้บริโภค โดยยึดหลักการการผลิตอาหารปลอดภัย (food safety) เพื่อความมั่นคงทางอาหาร (food security) สู่เป้าหมายการเป็นครัวของโลก (Kitchen of the World)” นายอดิเรกกล่าว
https://www.youtube.com/watch?v=M0ovnqpzeSc