ช่างกลึงเครียดจัด ควักทูตมรณะยิงลูกชาย-ตัวเองดับ

ระยอง - ช่างกลึงเครียดหลังมีโรคประจำตัว และน้อยใจลูกชายที่ไม่เชื่อฟัง ตัดสินใจยิงตัวตายพร้อมลูกชายวัย 18 ปี เพื่อจบปัญหา

วันนี้ (6 ส.ค.) ร.ต.ท.ธวัช หน่อสิงหา ร้อยเวร สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 063/173 ถ.หลังวัดป่าประดู่ เขตเทศบาลเมืองระยอง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุกิตติ ไสวเกียรติ ผกก.สภ.เมืองระยอง พ.ต.อ.กิตติ ศิริคช พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ต.ท.สุรศักดิ์ ใจซื่อ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ พ.ต.ท.นาวิน ธีระวิทย์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.วิรัตน์ เตชะนันท์ สว.สส. พ.ต.ท.หญิง ปาริฉัตร อั้นเต้ง สว.พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดระยอง แพทย์หญิงวลาลี สันติยุทธ แพทย์เวรโรงพยาบาลระยอง และมูลนิธิสว่างพรกุศลระยองจำนวนหนึ่ง

ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ด้านล่างเป็นโรงกลึงเหล็กใช้ชื่อว่า โรงกลึงช่างนุจึงได้ตรวจสอบชั้นบนด้านหน้าห้องพักพบศพ นายสุรินทร์ สนั่นไหว อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/3 ม.11 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสั้นสีครีม สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ขมับด้านขวา 1 นัด นอนจมกองเลือดส่งกลิ่นคาวคละคลุ้ง และพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 มม. และเครื่องกระสุนปืนอีก 4 นัด ปลอกกระสุนปืน 2 ปลอก และในบรรจุอยู่ในรังเพลิง รองเท้าผ้าใบสีดำ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และในห้องพักพบศพ นายวสุธร หวั่นไหว อายุ 18 ปี ใส่กางเกงยีนส์ขายาว นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ขมับซ้าย จำนวน 1 นัด นอนจมกองเลือดอยู่

จากการสอบถาม นายทัณฑักษร อมรทัศนสุข อายุ 43 ปี เป็นช่างซ่อมรถอยู่ข้างบ้านหลังที่เกิดเหตุ เผยว่า ผู้ตายเคยตัดพ้อให้ฟังถึงเรื่องสุขภาพตัวเอง และเรื่องลูกชายที่ไม่มีงานทำ ไม่ค่อยกลับบ้าน เลี้ยงลูกไม่ได้ดั่งใจ และมาได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. 2 นัด ไม่คิดว่านายสุรินทร์ หรือช่างนุ จะตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงลูกชาย และยิงตัวเองเสียชีวิตตายตาม

ด้านนางจันประภา สนั่นไหว ภรรยาผู้เสียชีวิตกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองมีอาชีพเป็นช่างเสริมสวยอยู่ที่ตลาดสามย่าน อ.แกลง บ้านหลังที่เกิดเหตุดังกล่าวด้านล่างเปิดเป็นโรงกลึง ข้างบนเป็นห้องพัก สามีได้พักอยู่กับลูกชายซึ่งเป็นลูกติดภรรยาเก่า ลูกเลี้ยงนั้นไม่ค่อยได้กลับบ้าน และมีปัญหากับสามีอยู่ประจำ คาดว่าน่าจะทะเลาะ และมีปากเสียงกันจนสามีเครียดจนได้ใช้อาวุธปืนยิงลูกชาย และตนเองเพื่อตัดสินปัญหาทั้งหมด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปตรวจยังสถาบันนิติเวช เพื่อหาร่องรอยการถูกอาวุธปืน และได้สอบสวนญาติ และเพื่อนบ้านเพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แต่ญาติไม่ติดใจในคดีนี้เพราะเข้าใจว่าผู้ตายนั้นมีปัญหากับลูกชายมาโดยตลอด