กาญจนบุรี - ตำรวจกาญจนบุรีวิสามัญ “จ.ส.อ.” คลั่ง เหตุอาละวาดทำลายข้าวของชาวบ้านกลางดึก ก่อนใช้ขวดเหล้าฟาด ตำรวจที่เข้าระงับเหตุจนล้มฟุบ พร้อมแย่งปืนก่อนโดนยิงสวนดับอนาถ ญาติเผยเพิ่งออกจาก รพ.ศรีธัญญา
เมื่อเวลา 01.30 น. วันนี้ (5 ส.ค.) ร.ต.ท.อิทธิพร พรหมภินันท์ พงส.สภ.ลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุฯ ว่า ได้มีคนร้ายเป็นชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญเสียชีวิต ขณะพยายามใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 1 นาย เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 5/2 หมู่ 9 ต.ท่าไม้ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผกก.สภ.ลูกแก พ.ต.ท.เลอศักดิ์ บรรจง รอง ผกก.สส.พร้อมทั้งประสานแพทย์เวร รพ.มะการักษ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรี อัยการ และมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์
ที่เกิดเหตุบริเวณภายในบ้านปูนชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิด ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนแสงชูโตฝั่งขาเข้า อ.ท่ามะกา พื้นที่หมู่ 9 ต.ลูกแก พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายนอนหงายจมกองเลือดอยู่กับพื้นหญ้า สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเขียวขี้ม้า สวมทับด้วยเสื้อวอร์มแขนยาวสีฟ้าสลับขาว ใส่กางเกงขาสั้นลายพรางทหาร มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. เข้าที่บริเวณหน้าอกรวม 6 นัด คมกระสุนทะลุออกแผ่นหลัง
ตรวจสอบโดยรอบพบร่องรอยของการต่อสู้ ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ 6 ปลอก และขวดเหล้าเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 ขวด รองเท้าหนัง 1 คู่ เจ้าหน้าที่จึงพิสูจน์ร่วมกันตามขั้นตอนของกฎหมาย จากนั้นจึงนำศพชายคนดังกล่าวส่งสถาบันนิติเวชฯ เพื่อผ่าพิสูจน์ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานฯ ได้ทำการตรวจหาร่องรอย และรวบรวมหลักฐานใกล้จุดเกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน ทราบชื่อต่อมาคือ จ.ส.อ.วัชรเดช มหัตฆพงษ์ อายุ 52 ปี ปัจจุบันรับราชการเป็นทหาร สังกัดกรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี
นางรัชนี อินต๊ะปัญญา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/1 หมู่ 9 ต.ท่าไม้ ให้การว่า ผู้ตายเป็นน้องชายของตน เป็นทหารสังกัดกรมการทหารช่าง จ.ราชบุรี น้องชายได้ล้มป่วยเป็นโรคเครียดเพราะคิดมากเกี่ยวกับปัญหาเรื่องหนี้สิน และปัญหาครอบครัวจนเกิดมีอาการทางประสาท อดีตเคยมีภรรยามาแล้ว 1 คน มีลูกกับภรรยาเก่า 1 คน แต่เลิกรากันไป และมามีภรรยาใหม่ แต่ไม่มีลูกด้วยกัน ที่ผ่านมาค รอบครัวได้นำน้องชายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีธัญญา รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลดังกล่าวประมาณ 1 ปีเศษ หลังจากอาการเครียดดีขึ้น หมอจึงอนุญาตให้นำตัวน้องชายกลับมารักษาตัวต่อที่บ้านได้ แต่มาระยะหลังน้องชายกับมีอาการเพี้ยนชอบทุบทำลายข้าวของภายในบ้าน และข้าวของของเพื่อนบ้าน จนแม่ และญาติๆ ทนไม่ไหว จึงนำตัวส่งไปรักษาตัวที่ศูนย์บำบัดโรคจิตที่ จ.ชลบุรี แต่น้องชายกับหลบหนีออกจากศูนย์ฯ กลับมาอยู่ที่บ้านได้ 3 วัน โดยให้เหตุผลสาเหตุที่หลบหนีออกมาว่าคิดถึงแม่ และครอบครัว ตน และมารดาเตรียมจะส่งตัวกลับไปรักษาตัวต่อที่ศูนย์แห่งนี้ต่อ แต่ก็ต้องมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเสียก่อน โดยครอบครัวไม่ติดใจเอาความเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุแต่อย่างใด เพราะเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี
ด้าน พ.ต.อ.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผกก.สภ.ลูกแก จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า “จากการสอบสวนปากคำ ร.ต.ต.ภูดิษ หาดเพชรสุข อายุ 54 ปี รอง สวป.สภ.ลูกแก นายตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีชาวบ้านโทรศัพท์ไปแจ้งศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีคนเมาสุราแล้วเกิดอาการคลุ้มคลั่งทุบทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านได้รับความเสียหาย จึงได้เดินทางไประงับเหตุพร้อมกับ ร.ต.ต.รัตนเกียรติ ชัยรัตนนันท์ อายุ 56 ซึ่งประจำอยู่ที่จุดตรวจจุดสกัดตำบลท่าไม้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย เดินทางไปตรวจสอบก็พบว่า จ.ส.อ.วัชรเดช กำลังเดินใช้ไม้ตีข้าวของ และหลอดไฟนีออนตามบ้านผู้คน นายตำรวจทั้ง 2 นาย จึงจอดรถยนต์สายตรวจ และร้องตะโกนบอกให้ จ.ส.อ.วัชรเดช ผู้ตายหยุดทุบทำลายข้าวของ แต่ผู้ตายกลับวิ่งหนี และปีนรั้วเข้าไปในบ้านหลังเกิดเหตุ นายตำรวจทั้ง 2 นายจึงร้องตะโกนบอกให้เจ้าของบ้านทราบเพื่อให้ตื่นมาเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นายเข้าไประงับเหตุ
และขณะที่นายตำรวจทั้ง 2 กำลังเดินแยกย้ายกันตรวจค้นภายในบ้าน จู่ๆ จ.ส.อ.วัชรเดช ซึ่งหลบอยู่มุมมืดของบ้าน ได้ใช้ไม้ตีหลอดไฟนีออนที่หน้าห้องครัวจนแตก ทำให้อากาศมืดลง แล้วกระโดดออกมาจากที่ซ่อนตรงเข้าใช้ขวดเหล้าต่างประเทศยี่ห้อหนึ่งกระหน่ำตีเข้าที่ศีรษะของ ร.ต.ต.รัตนเกียรติ จนเสียหลักล้มลงกับพื้น ทำให้อาวุธปืนที่ถือมาด้วยหลุดออกจากมือ จากนั้นผู้ตายก็กระโดดขึ้นคร่อมร่างเพื่อยื้อแย่งปืน แต่ ร.ต.ต.รัตนเกียรติ ก็พยายามดิ้นรนต่อสู้ และคว้าอาวุธปืนได้จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนประจำกายยิงสวนไปที่ร่างของ จ.ส.อ.วัชรเดช จนเสียชีวิตดังกล่าว
หลังเกิดเหตุได้นำ ร.ต.ต.รัตนเกียรติ ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลมะการักษ์ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ แพทย์ได้ทำการรักษาพยาบาล และให้นอนพักรักษาตัวเพื่อรอดูอาการก่อน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับว่ายังโชคดีที่ ร.ต.ต.รัตนเกียรติ ยังพอมีสติ หากผู้ตายซึ่งมีอาการทางประสาท และคลุ้มคลั่งสามารถแย่งอาวุธปืนไปได้ ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์เลวร้าย และรุนแรงขนาดไหนคงต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประชาชนบาดเจ็บล้มตายอีกเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ร.ต.ต.รัตนเกียรติ ว่าฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาขณะปฏิบัติหน้าที่เพื่อเป็นการป้องกันตัว ซึ่งขณะนี้ ร.ต.ต.รัตนเกียรติ ยังรักษาตัวที่ รพ.มะการักษ์ หากออกจาก รพ.ได้แล้ว จะแจ้งให้ข้อหาให้ทราบต่อไป
ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้เดินทางไปยัง รพ.มะการักษ์ เพื่อเยี่ยมอาการของ ร.ต.ต.รัตนเกียรติ และสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ก่อนเดินทางกลับได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง