พระเณรลูกศิษย์“สมีคำ”ทยอยออกจากวัดเถื่อน – ร้านขายวัตถุมงคล“ไอ้คำ”ปิดตาย

ศรีสะเกษ - พระเณรลูกศิษย์“สมีคำ” ทยอยออกจากวัดเถื่อนขันติธรรมกลับวัดต้นสังกัด หลังคณะสงฆ์ จ.ศรีสะเกษ มีคำสั่งให้พระภิกษุสามเณรทุกรูปย้ายกลับไปวัดต้นสังกัดเดิม เผยคัดเลือกเหลือพระจำพรรษาอยู่เพียง 5 รูป พร้อมพระผู้ใหญ่ศรีสะเกษ ล่าสุดวัดเถื่อนสุดเงียบเหงาร้านขายวัตถุมงคล“ไอ้คำ” และร้านค้าต่างๆ ปิดตาย

วันนี้ (20 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่พักสงฆ์ขันติธรรมหรือวัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีคำสั่งให้พระภิกษุและสามเณร ที่อยู่ในที่พักสงฆ์ขันติธรรมทุกรูปเดินทางกลับไปที่วัดต้นสังกัดเดิมก่อนวันเข้าพรรษา ปรากฏว่า ได้มีพระภิกษุ สามเณรได้ทยอยเดินทางกลับไปยังวัดต้นสังกัดเดิม ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา

พระรูปหนึ่ง กล่าวว่า วันนี้ต้องเดินทางกลับไปรายงานตัวต่อเจ้าอาวาสวัดต้นสังกัด ซึ่งพระที่ยังอยู่ที่วัดป่าขันติธรรมขณะนี้เป็นพระมีต้นสังกัดอยู่ที่วัดหลวงสุมังคลาราม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ส่วนอาตมาสังกัดวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดยอาตมาและพระอีกหลายรูปต้องเดินทางกลับไปรายงานตัวต่อต้นสังกัดเดิม และอาจจะขออนุญาตกลับมาอธิษฐานพรรษาที่ที่พักสงฆ์ขันติธรรมแห่งนี้ เนื่องจากวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่เป็นจำนวนมาก อาจมีกุฏิไม่เพียงพอ หากเป็นอย่างนั้นคงจะขอกลับมาอยู่ที่นี่อีก ซึ่งจะได้ปรึกษาหารือและขออนุญาตต่อไป ส่วนจะได้รับการพิจารณาอนุญาตหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับเจ้าอาวาสวัดต้นสังกัดที่จะพิจารณา

คณะกรรมการวัดป่าขันติธรรมรายหนึ่ง กล่าวว่าในการประชุมของคณะสงฆ์จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวานนี้ ( 19 ก.ค.) ถือเป็นเรื่องดีที่ให้พระภิกษุ และสามเณร คณะ กรรมการวัด และชาวบ้าน ในความเคารพของอดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือ หลวงปู่เณรคำ ได้มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความคิดและข้อคิดเห็นต่าง ๆ ตลอดจนได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องที่คับข้องใจ ซึ่งจากที่คณะสงฆ์ จ.ศรีสะเกษ มีคำสั่งให้พระภิกษุภายในวัดป่าขันติธรรมแห่งนี้ กลับไปต้นสังกัดเดิม คงเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติตามและไม่ใช่เรื่องที่เสียหายแต่อย่างใด แต่ในช่วงเข้าพรรษานี้ตนและคณะ กรรมการวัด ตลอดจนชาวบ้านยาง อยากให้มีพระภิกษุจำพรรษาอยู่ในวัดนี้บ้าง เพื่อจะได้มีการประกอบพิธีทางศาสนาในช่วงเข้าพรรษาตามวิถีประเพณีของชาวพุทธไทย

ทางด้าน พระครูธรรมธรคำไข คณะทำงานสอบอธิกรณ์พระวิรพล สุขผล หรือ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก กล่าวว่า คณะสงฆ์ศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต ได้สั่งให้พระสงฆ์และสามเณรในวัดป่าขันติธรรม แยกย้ายกันไปรายงานตัวที่วัดต้นสังกัดเดิม โดยให้ไปรายงานตัวที่วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี จำนวน 9 รูป และให้ไปรายงานตัวจำพรรษากับเจ้าอาวาสวัดเขาศาลา อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ จำนวน 9 รูป ซึ่งคณะสงฆ์ศรีสะเกษได้มีมติให้ พระวิโรจน์ อรินทโม พระลูกวัดวัดป่าขันติธรรม คัดเลือกพระสงฆ์ จำนวน 3 รูป ไว้สำหรับจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าขันติธรรม และเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้อาตมาภาพและพระอีก 1 รูป เข้าไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าขันติธรรม รวมแล้ววัดป่าขันติธรรมจะมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่จำนวนทั้งสิ้น 5 รูป

ส่วนในด้านการบริหารจัดการวัดป่าขันติธรรมนั้น อาตมาภาพจะได้หารือกับเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต และคณะสงฆ์ศรีสะเกษ เพื่อกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการวัดป่าขันติธรรมให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.สงฆ์ และให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ระเบียบปฏิบัติของคณะสงฆ์ ส่วนการที่จะมีพระสงฆ์ซึ่งเป็นพระลูกศิษย์ของอดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก จะขออยู่จำพรรษาที่วัดป่าขันติธรรมนั้น ให้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าอาวาสวัดต้นสังกัดของพระที่จะขออนุญาตมาจำพรรษาที่วัดป่าขันติธรรม

ทั้งนี้ อาตมาภาพเห็นว่าพระสงฆ์ของวัดป่าขันติธรรมหลายรูปคงจะต้องมีการอบรมบ่มนิสัยเกี่ยวกับการเคารพพระธรรมวินัยและการปฏิบัติตามโอวาทของพระผู้ใหญ่ เนื่องจากที่ผ่านมาพระวัดป่าขันติธรรมมีอากัปกิริยาที่ไม่เคารพเชื่อฟังพระชั้นผู้ใหญ่ของ จ.ศรีสะเกษ โดยจะเคารพเชื่อฟังเพียงอดีตหลวงปู่เณรคำ เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิบัติตัวที่ไม่ถูกต้องของพระสงฆ์ที่พึงควรประพฤติปฏิบัติ

นางลอน มนัส อายุ 68 ปี เจ้าของที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดป่าขันติธรรม กล่าวว่า ตนได้ไปเข้าร่วมประชุมกับคณะสงฆ์ศรีสะเกษที่มาประชุมร่วมกับพระสงฆ์ สามเณรของวัดป่าขันติธรรม โดยมีชาวบ้านดู่ และบ้านยาง ซึ่งอยู่รอบวัดป่าขันติธรรม มาเข้าร่วมประชุมด้วย ตนเห็นว่าเป็นการดีที่วัดป่าขันติธรรม จะได้มีการดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบวินัยของคณะสงฆ์ และจะได้มีการจัดตั้งวัดป่าขันติธรรมให้ถูกต้องสมบูรณ์แบบตามวัตถุประสงค์ของผู้ที่ร่วมบริจาคที่ดิน เพื่อสร้างวัดป่าขันติธรรม

สำหรับคณะสงฆ์ที่จะเข้ามาบริหารดูแลวัดป่าขันติธรรม หลังจากสิ้นยุคของอดีตหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก นั้น ตนต้องการให้พระสงฆ์ที่เคยอยู่ก่อนและเป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ซึ่งตนได้นิมนต์ไว้แล้ว คือ พระวิโรจน์ อรินทโม ได้อยู่จำพรรษาเพื่อนำประชาชนปฏิบัติธรรมในช่วงเข้าพรรษาปีนี้ ส่วนคณะสงฆ์ศรีสะเกษจะส่งพระชั้นผู้ใหญ่เข้ามาดูแลที่วัดป่าขันติธรรมด้วยนั้น นับว่าเป็นการดี ที่จะได้ช่วยกันบริหารดูแลวัดป่าขันติธรรม และได้ช่วยกันกอบกู้ชื่อเสียงของวัดป่าขันติธรรมให้กลับคืนมา และจะได้ช่วยกันพัฒนาวัดป่าขันติธรรมที่มีองค์พระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก ให้เป็นพุทธสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยสืบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า สำหรับบรรยากาศภายในที่พักสงฆ์ขันติธรรม เป็นไปด้วยความเงียบเหงา ร้านจำหน่ายวัตถุมงคลของอดีตหลวงปู่เณรคำ ตลอดจนร้านค้าจำหน่วยสินค้าต่าง ๆ ได้ปิดตัวลง ไม่มีการเปิดดำเนินกิจการแต่อย่างใด มีเพียงคณะกรรมการที่พักสงฆ์บางส่วน ที่ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยเท่านั้น