กองปราบฯ มอบหลักฐานคดี “ไอ้โล้นคำ” ให้ดีเอสไอทำคดีแล้ว หลังดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ
วันนี้ (15 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรวุฒิ คุณะเกษม ผกก.3 บก.ป.ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน บก.ป.ในการพิจารณาดำเนินคดีต่อหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก หรือพระวิรพล สุขผล อายุ 34 ปี ประธานสำนักสงฆ์ขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ ตามความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ความผิดตาม พ.ร.บ.สงฆ์ และความผิดในข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ภายหลังมีการแจ้งความดำนินคดีเอาไว้
พ.ต.อ.ประสพโชคกล่าวว่า การดำเนินการในส่วนของ บก.ป.มีความคืบหน้าไปมาก มีการสรุปแนวทางการสืบสวนสอบสวนว่าควรพิจารณาอนุมัติศาลออกหมายจับ เพราะมีพยานหลักฐานเพียงพอ และได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทุกภาคส่วน อย่างไรก็ตาม หลังจากเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้มีหนังสือถึง พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.เพื่อขอให้พนักงานสอบสวนส่งสำนวนคดีและพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวให้กับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษรับไปดำเนินการ หลังจากบอร์ดคดีพิเศษมีมติรับกรณีของหลวงปู่เณรคำเป็นคดีพิเศษ ดังนั้น ทาง บก.ป.จะนำพยานหลักฐานต่างๆ ส่งมอบให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้
“สำหรับการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ นั้น จากนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเป็นเจ้าภาพ ส่วน บก.ป.และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการในส่วนที่มีการประสานขอความร่วมมือ โดยจะยังคงทำงานร่วมกัน และหากผู้ใดที่มีข้อมูลการกระทำของหลวงปู่เณรคำที่เข้าข่ายความผิดคดีอาญา สามารถเข้าให้ข้อมูลได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไป” รอง ผบก.ป.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการดำเนินการที่ผ่านมาของพนักงานสอบสวน บก.ป.มีการลงพื้นที่เข้าตรวจค้นบ้านพักที่ จ.อุบลราชธานี มีการสอบปากคำพยาน และรวบรวมหลักฐานต่างๆ นอกจากนี้ก็มีการนำเรื่องร้องเรียนมาตรวจสอบ ก่อนประมวลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำซึ่งเข้าข่ายความผิดของหลวงปู่เณรคำในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ความผิดตาม พ.ร.บ.สงฆ์ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ซึ่งทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ น่าจะสามารถนำไปพิจารณาขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไปได้
