ศรีสะเกษ - ดีเอสไอยื่นเอกสารสรุปผลสอบสวนรอบสองพระเณรคำ ให้เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษแล้ว ทั้งการครอบครองรถ 57 คัน ภาพไม่เหมาะสม ให้คณะสงฆ์ทั้ง จ.ศรีสะเกษ และอุบลฯ ใช้พิจารณาต้องอธิกรณ์เณรคำหรือไม่ ขณะที่คณะสงฆ์ทั้ง 2 จังหวัดเตรียมประชุมพิจารณาสึกเณรคำหรือไม่พรุ่งนี้ (13 ก.ค.)
วันนี้ (12 ก.ค.) ที่วัดป่าศรีสำราญ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พ.อ.ชัชนันท์ เมธีธรรมาภรณ์ รองผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางไปพบกับพระครูสิริวินัยวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต และพระครูวัชรสิทธิคุณ พระเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ และคณะสงฆ์ที่เป็นคณะทำงานสอบสวนอธิกรณ์พระวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก
โดย พ.อ.ชัชนันท์ได้ยื่นหนังสือที่เป็นเอกสารหลักฐานสรุปผลสอบสวนให้เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษฝ่ายธรรมยุตได้รับทราบ โดยเอกสารประกอบด้วยสรุปผลการสอบสวน บัญชีรายชื่อยี่ห้อรถจำนวนทั้งสิ้น 57 คัน ภาพที่ไม่เหมาะสมของพระวิรพล ผลการพิสูจน์ภาพที่พระวิรพลนอนอยู่กับคนผมยาว และข้อสังเกตภาพใบหน้าของพระวิรพลว่ามีข้อสังเกตที่ใดบ้าง
พ.อ.ชัชนันท์ เชื้ออำนาจ รองผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า จากการสอบสวนพระวิรพลมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และผลสอบสวนมีความคืบหน้า ดีเอสไ จะนำเอาเอกสารมอบให้คณะสงฆ์ จ.ศรีสะเกษฝ่ายธรรมยุต โดยเจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษเป็นตัวแทนรับมอบเอกสารหลักฐานแทน
เพื่อเป็นข้อมูลหลักฐานประกอบดำเนินการอธิกรณ์ของพระวิรพล ตามมาตรา 29 ของ พ.ร.บ.สงฆ์ ซึ่งเอกสารในวันนี้ประเด็นหลักคือ หลักฐานการครอบครองรถ ซึ่งมีหลายประเด็นว่าการครอบครองซื้อมาอย่างไรหรือได้มาจากไหน จะนำไปสู่การพิจารณาด้านวินัยของคณะสงฆ์ต่อไป ส่วนการตรวจดีเอ็นเอของญาติพระวิรพลที่ไม่ยอมให้ตรวจนั้น พนักงานสอบสวนจะดำเนินการขอหมายศาล จ.อุบลราชธานีดำเนินการต่อไป
พ.อ.ชัชนันท์กล่าวต่อไปว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เพราะว่าในวันนี้ (12 ก.ค.) คณะสงฆ์ศรีสะเกษ-อุบลราชธานี มีมติให้พระวิรพลเข้ารายงานตัวภายในเวลา 24.00 น. หากพ้นเขตวันที่ 12 ก.ค. 56 ไป พระวิรพลไม่มารายงานตัวต่อพระผู้ปกครองจะถูกขับออกไปให้เป็นพระไม่มีสังกัด ส่วนการที่ น.ส.เอไปยื่นฟ้องศาล จ.ศรีสะเกษในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และพรากผู้เยาว์นั้นเป็นเรื่องส่วนตัวสามารถดำเนินการได้ แต่คดีอาญาพนักงานสอบสวนสามารถดำเนินการต่อไปได้ ถือเป็นอาญาแผ่นดิน
พระครูสิริวินัยวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอเมืองศรีสะเกษฝ่ายธรรมยุต กล่าวว่า ตามที่ได้รับสรุปรายงานการสอบสวนจากดีเอสไอจะประชุมคณะสงฆ์พิจารณาคดีนี้ให้สำเร็จตามขั้นตอน ซึ่งผลการพิจารณาจะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการอธิกรณ์ว่าจะมีการลงมติพร้อมเพรียงแบบไหน จะให้พระวิรพลขาดพ้นจากสังกัดไปเลย หรือปรับเป็นอาบัติปาราชิก ขอให้อยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการจะตัดสินให้เด็ดขาดจึงจะถูกต้องตามพระวินัย และเสียงหมู่มาก
ด้านพระครูวัชรสิทธิคุณ พระเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษและคณะสงฆ์ที่เป็นคณะทำงานสอบสวนอธิกรณ์พระวิรพล กล่าวว่า หลังจากที่ดีเอสไอนำข้อมูลมาให้แต่ยังไม่ได้ศึกษาข้อมูลเรื่องที่เสนอมา ซึ่งข้อมูลนี้จะทำให้เกิดความชัดเจนเรื่องการพิจารณาพระธรรมวินัยของคณะสงฆ์ โดยคณะสงฆ์ศรีสะเกษจะต้องทำเรื่องพระธรรมวินัยให้ถึงที่สุด
และจะต้องมีคำสั่งออกไปว่าพระวิรพลผิดพระธรรมวินัยข้อใด ส่วนไหน ส่วนเรื่องที่จะต้องปฏิบัติตามระเบียบการปกครองของคณะสงฆ์ว่าด้วยอำนาจการปกครองตาม พ.ร.บ.สงฆ์ และอำนาจการปกครองของเจ้าคณะผู้ปกครองเป็นไปตามมติของที่ประชุมร่วมกันของคณะสงฆ์ทั้ง 2 จังหวัด ทั้ง จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี
วันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) จะมีการแถลงให้ทราบถึงผลประชุมวันที่ 12 ก.ค. 56 และจะมีการประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาอธิกรณ์ตามความชัดเจนของเนื้อหาและข้อมูลที่ดีเอสไอส่งมาให้ประกอบการพิจารณา โดยจะมีการประชุมร่วมกันในส่วนของคณะกรรมการสอบสวนอธิกรณ์ จ.ศรีสะเกษวันที่ 13 ก.ค. เวลา 09.00 น. ณ วัดป่าศรีสำราญ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้จะประชุมร่วมกันระหว่างคณะสงฆ์ จ.ศรีสะเกษ กับ จ.อุบลราชธานีต่อไป
