บุรีรัมย์ -ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ จับมือ ผบก.ภ.จว. สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายแบ่งเป็น 12 ชุดปฏิบัติการ ออกตรวจสต๊อกข้าวในโกดัง และโรงสีตามนโยบายรัฐบาล ป้องกันการทุจริตโครงการรับจำนำ เบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ
วันนี้ (27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว) ได้ปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายปกครอง พาณิชย์จังหวัด การค้าภายในจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมจำนวน 12 ชุดปฏิบัติการ
แต่ละชุดจะมีผู้กำกับการสถานีตำรวจ (ผกก.สภ.) เป็นหัวหน้าชุด ออกตรวจสต๊อกข้าวสารในโกดังกลาง จำนวน 6 แห่ง และตรวจสอบปริมาณข้าวเปลือกที่เกษตรกรนำมาเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวนาปรังยังโรงสีอีก 6 แห่ง รวมเป็น 12 แห่ง ในพื้นที่ 5 อำเภอ คือ อ.เมือง หนองกี่ ประโคนชัย ลำปลายมาศ และ อ.พลับพลาชัย ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้มีการออกตรวจพร้อมกันทั่วประเทศในวันนี้ เพื่อป้องกันข้าวที่เก็บในสต๊อกสูญหาย และป้องกันการกระทำทุจริตในโครงการรับจำนำ
นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ระบุว่า จากการออกตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่พบความผิดปกติ หรือข้าวสูญหายแต่อย่างใด โดยจากข้อมูลพบว่า โกดังกลางทั้ง 6 แห่ง เก็บข้าวสารไว้ในสต๊อกรวมทั้งสิ้น จำนวน 63,178 ตัน
ขณะนี้ได้ส่งมอบให้กรมการค้าต่างประเทศไปแล้ว 8,767 ตัน ปัจจุบันเหลืออยู่ 54,441 ตัน ส่วนข้าวเปลือกในโครงการรับจำนำข้าวนาปรังขณะนี้มีเกษตรกรเข้าร่วมแล้วกว่า 5,400 ตัน
อย่างไรก็ตาม หากพบมีการกระทำทุจริตในโครงการฯ ก็จะดำเนินการเอาผิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด ซึ่งการออกตรวจครั้งนี้ก็จะได้รายงานผลไปยังกระทรวงพาณิชย์ และส่วนกลางได้รับทราบต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมออกตรวจสอบปริมาณข้าวในโกดัง และโรงสีทั้ง 12 แห่งว่า ให้ทำการตรวจนับอย่างละเอียดพร้อมทำบันทึกรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร จากนั้นก็จะได้รายงานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับทราบ
ทั้งนี้ หากพบความผิดปกติในโกดัง หรือโรงสีใดก็ให้รายงานเข้ามายังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบทันที หลังจากนี้ก็จะมีการออกตรวจอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้มีการทุจริตขึ้นได้
