ตราด - วิศวกรกรมเจ้าท่า เผยการออกแบบเขื่อนกันคลื่นสะพานท่าเรือแหลมศอก 4 แบบ เน้นแบบที่มีผลกระทบน้อยที่สุด คาดหลังรับฟังความคิดเห็นครั้งสุดท้าย พร้อมก่อสร้างในปี 2558
วันนี้ (25 มิ.ย.) มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนชาว ต.อ่าวใหญ่ และใกล้เคียงใน อ.เมือง จ.ตราด ของกรมเจ้าท่าเพื่อขอความคิดเห็นของประชาชนว่ามีความคิดเห็นอย่างไรในการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น สะพานท่าเรือบ้านแหลมศอก หลังเปิดรับฟังเป็นครั้งที่ 2 นั้น
นายวรรณชัย บุตรดี วิศวกรของกรมเจ้าท่า ที่เป็นผู้รับผิดชอบในการออกแบบก่อสร้างกล่าวว่า ทางกรมเจ้าท่ามีโครงการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นที่สะพานท่าเรือแหลมศอก เนื่องจากหากไม่มีการก่อสร้างจะทำให้สะพานแห่งนี้ใช้งานได้เพียง 5-6 เดือนเท่านั้น เนื่องจากมีคลื่นลมแรง การจอดเรืออาจทำให้เรือได้รับความเสียหายได้ จึงจำเป็นต้องมีการก่อสร้าง และก่อนดำเนินการได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนมาแล้ว 1 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เพื่อนำความคิดเห็นไปปรับปรุงในการออกแบบ
ขณะนี้ไดออกแบบเขื่อนกันคลื่นไว้ 4 แบบ แต่ละรูปแบบมีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมากน้อยแตกต่างกัน แต่ในแบบที่ 4 จะส่งผลกระทบน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชนเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะนำไปปรับปรุง และจะมารับฟังความคิดเห็นอีกครั้ง แต่โดยความคิดเห็นส่วนตัวแล้วแบบที่ 4 จะดีกว่า ส่วนการก่อสร้างคาดว่าจะดำเนินการได้ในปี 2558
ด้านนายรางวัล ขันแข็ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อ่าวใหญ่ อ.เมือง จ.ตราด กล่าวว่า จากการที่กรมเจ้าท่า และนักวิจัยที่กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนชาว ต.อ่าวใหญ่ เพื่อดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นที่สะพานท่าเทียบเรือแหลมศอก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นครั้งที่ 2 เพื่อนำเสนอผลการศึกษาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมในแต่ละรูปแบบที่มีอยู่ 4 รูปแบบ จากนั้นจะได้มีการสรุป และนำมารับฟังเป็นครั้งสุดท้าย
“ผมเห็นด้วยกับการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น เพราะจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อท่าเรือ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว เรือจะสามารถจอดได้ตลอดทั้งปี แทนที่จะจอดได้เพียง 6 เดือน ขณะเดียวกัน หากมีเขื่อนกันคลื่นก็จะทำให้มีท่าเรือที่สมบูรณ์ มีสถานที่ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว จะส่งผลดีต่อการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนเป็นอย่างดี” นายรางวัลกล่าว
