ศรีสะเกษ - “ยายลอน” เจ้าของที่ดินสร้างวัดป่าขันติธรรม ลั่นไม่ยอมรับเงินกลุ่มลูกศิษย์ “หลวงปู่เณรคำ” ชี้หากจะให้เงินต้อง 2,500 ล้านเพื่อนำไปสร้างพระแก้วมรกตจำลองให้เสร็จและตั้งวัดป่าขันติธรรมให้สมบูรณ์ถูกต้องตาม กม. ที่เหลือบำรุงวัดทุกบาททุกสตางค์ ขณะคุณตาจวกอย่าคิดว่าพวกเราจนแล้วเอาเงินมาฟาดหัว ด้าน ตร.ยังส่งกำลังคุ้มกันเข้มทั้งกลางคืนกลางวัน
วันนี้ (24 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านของนางลอน มนัส อายุ 68 ปี ตั้งอยู่กลางทุ่งนาบ้านหนองถ่ม ต.ดู่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าของที่ดินจัดตั้งวัดป่าขันติธรรม ที่มีพระวิรพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก เป็นประธานสงฆ์ แต่นางลอนประกาศจะนำที่ดินมาสร้างวัดป่าขันติธรรมให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ให้หลวงปู่เณรคำและคณะสงฆ์บางรูปมาเข้าบริหารวัดนั้น ล่าสุดยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.กันทรารมย์มาเฝ้ารักษาความปลอดภัยให้แก่นางลอนและครอบครัวอย่างเต็มที่ ทั้งกลางวันและกลางคืน ขณะที่ช่วงกลางวันที่ผ่านมา นางลอน พร้อมด้วยญาติพี่น้องและกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งได้เดินทางไปกราบนมัสการพระป่าสายปฏิบัติรูปหนึ่งที่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.อุบลราชธานี เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว
นางลอนกล่าวถึงกรณีมีบุคคลอ้างว่าเป็นโฆษกประจำตัวหลวงปู่เณรคำ นำภายถ่ายนางทองมี วุฒิยาสาร ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วออกมาบอกว่าคือคนที่เป็นเจ้าของที่ดิน และเป็นผู้มอบที่ดินให้ทางวัดป่าขันติธรรมเอง ไม่ใช่ที่ดินของนางลอน พร้อมยืนยันว่ามีหลักฐานเป็นหนังสือประวัติของวัดที่ระบุว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของนางทองมี บริจาคให้และการครอบครองที่ดินสามารถตรวจสอบได้ที่สำนักงานที่ดินว่าใครเป็นเจ้าของที่ดินตัวจริง และกลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำจะรวบรวมเงินซื้อที่ดินต่อจากนางลอน เพื่อเป็นค่าดูแล ไม่ใช่ในฐานะเป็นเจ้าของที่ดินนั้น
นางลอนกล่าวว่า ตนขอบอกว่าจะไม่เอาเงินที่จะนำมาให้เพราะตนต้องการที่จะสร้างวัดเท่านั้น อยากเซ็นยกที่ดินให้วัดอย่างเดียวไม่เอาเงินใครทั้งนั้น อย่าคิดว่าตนอยากจะได้เงินจากคนที่จะเอามาให้ ตนจะทำหน้าที่แทนนางทองมีที่ฝากเอาไว้ให้มอบเป็นที่ดินวัด จึงอยากมีวัดให้เป็นวัดที่สมบูรณ์แบบ ไม่อยากให้เป็นวัดเถื่อน และไม่อยากได้เงินด้วย จะเอาเงินมาให้เท่าไหร่ก็ไม่เอา
“หากจะเอาเงินมาให้ก็ต้องให้จำนวน 2,500 ล้านบาทเพื่อจะนำไปสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลกให้แล้วเสร็จ และสร้างวัดป่าขันติธรรมให้เสร็จสมบูรณ์ โดยจะใช้เงินบำรุงวัดทุกบาททุกสตางค์” นางลอนกล่าว
ทางด้าน นายถวิล มนัส อายุ 72 ปี สามีของนางลอน กล่าวว่า เห็นว่าพวกเรายากจนแล้วจะเอาเงินมาฟาดหัว อย่าคิดว่าพวกเราจะเอาเงินของพวกกลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำ หากจะให้เงินต้องให้ 2,500 ล้านบาทจะได้นำไปสร้างพระแก้วมรกตจำลอง และสร้างวัดให้เสร็จสมบูรณ์ ไม่ใช่ปล่อยให้เวลาผ่านไปนานร่วม 10 ปีแล้วยังไม่จัดตั้งวัดป่าขันติธรรมให้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่เงินและทองคำที่ได้มาจากการบริจาคของประชาชน และการจัดทอดกฐิน ทอดผ้าป่าเป็นจำนวนมากหลายร้อยล้านบาทไม่รู้ว่าเงินและทองคำอยู่กับใคร เพราะทุกอย่างอยู่กับคนคนเดียวหมด จึงทำให้ไม่โปร่งใส ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเงินบริจาคทำบุญคนละ 10-20 บาทของชาวบ้าน แต่กลับนำไปใช้ผิดประเภทแบบนี้
คลิกเพื่อชมคลิป