สภ.กันทรารมย์ ส่งตำรวจพร้อมอาวุธ คุ้มกันเจ้าของที่ดินวัดป่าขันติธรรม หลังถูกขู่อุ้ม เจ้าตัวยันเป็นเจ้าของที่ดินเพียงผู้เดียว พร้อมเดินหน้าสร้างวัดให้ถูกต้องตามกฎหมาย ด้านศิษย์หลวงปู่เณรคำปัดไม่ได้ข่มขู่ ตอบโต้เพราะทนไม่ได้ที่หลวงปู่ถูกโจมตีอย่างไม่เป็นธรรม ขณะกรมศิลป์ระบุไม่ขออนุญาตสร้างพระแก้วมรกตจำลองจากสำนักพระราชวัง แต่ไม่มีโทษ เพราะเป็นแค่ระเบียบ ไม่ได้กำหนดในพระราชบัญญัติ
เมื่อเวลา 01.15 น. วานนี้ (23 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านของนางลอน มนัส อายุ 68 ปี ที่กลางทุ่งนาบ้านหนองถ่ม ต.ดู่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ปมีเจ้าหน้าที่ตำรวจงานปราบปราม และงานสืบสวนสภ.กันทรารมย์ 10 นาย นำโดยพ.ต.ท.อดุลย์ สุรำไพ รอง ผกก.ป. พร้อมด้วยอาวุธครบมือ มารักษาความปลอดภัยให้กับนางลอน โดยมีญาติพี่น้องของนางลอนจำนวนหนึ่ง ร่วมรักษาความปลอดภัยด้วย หลังจากนางลอนได้เข้าไปแจ้งความกับร.ต.ท.อภิชาติ ดวงมะณี ร้อยเวรสภ.กันทรารมย์ ว่าถูกขู่อุ้มฆ่า
สืบเนื่องจากการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่าจะสร้างวัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ ให้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย และจะไม่ให้หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม และพระสงฆ์บางรูป บริหารงานภายในวัด โดยจะขอให้พระเถระชั้นผู้ใหญ่สายธรรมยุติ พิจารณาจัดพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มาเป็นเจ้าอาวาส
นางลอน กล่าวว่า ดีใจมากที่มีตำรวจมาช่วยคุ้มกัน ซึ่งขอยืนยันว่าจะสร้างวัดป่าขันติธรรมให้ได้ จากนั้นจะเซ็นมอบที่ดินให้วัดทันที ส่วนที่บอกว่าที่ดินตั้งวัดป่าขันติธรรม เป็นของนางทองมี วุฒิยาสาร ไม่ใช่ของตนนั้น ความจริง คือ นางทองมีถวายที่ดิน 9 ไร่ แต่ต่อมานางทองมีป่วย จึงได้เรียกตนเข้าไปคุยด้วย โดยบอกว่าให้ทำเรื่องที่ดินตั้งวัดแทนด้วย เพราะนางทองไม่สบายมาก คงอยู่ไม่ถึงตอนถวายที่ดิน จึงขอให้ตนทำการแทนด้วย จากนั้นนางทองมีได้นำเอาชื่อตนไปใส่กับชื่อของนางทองมีในหลักฐานที่ดิน เมื่อนางทองมีเสียชีวิต ตนจึงจะทำวัดป่าขันติธรรม ให้เป็นวัดให้ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคที่ดิน
ตนมีศรัทธาไม่เปลี่ยนแปลง จะต้องตั้งเป็นวัดอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ให้เป็นอย่างอื่น ส่วนที่มีการแถลงข่าวว่า นางทองมีมอบที่ดินให้หลวงปู่เณรคำแล้วนั้น ขอยืนยันว่ายังไม่ได้มอบ เพราะหากมอบที่ดินแล้ว ตนก็จะต้องมอบด้วย เพราะมีชื่อกัน 2 คน ตนไม่เคยถวายอะไรเลย ทุกวันนี้ที่ดินก็เป็นชื่อตน และต้องเป็นคนลงนามมอบให้ โดยอาจมีลูกของนางทองมีมาเซ็นมอบด้วยเพื่อให้ถูกต้อง เพราะหากจะให้ทำผิดวัตถุประสงค์ตนไม่ทำด้วยเด็ดขาด
พ.ต.ท.อดุลย์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากพ.ต.อ.ภุชงค์ วรรณา ผกก.สภ.กันทรารมย์ ให้นำกำลังมารักษาความปลอดภัยนางลอน เนื่องจากเกรงว่าอาจเกิดเหตุร้ายตามที่มีการขู่เอาไว้ โดยดกำลังชุดละ 10 นายหมุนเวียนกันมารักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
เช้าวันเดียวกัน ที่วัดป่าขันติธรรม ซึ่งเป็นวันพระใหญ่ขึ้น 15 ค่ำเดือน 7 ญาติโยมที่เคยเข้าวัดปฏิบัติธรรมเดินทางมาที่วัด โดยได้นำข้าวปลาอาหารมาถวายแด่พระสงฆ์ จากนั้นพูดคุยกันถึงเรื่องของวัดที่กำลังเป็นข่าว ซึ่งต่างยังเชื่อมั่นในตัวหลวงปู่เณรคำว่าจะนำพาวัดไปในทางที่ดี ส่วนเรื่องที่ดินน่าจะเป็นเรื่องโกหก เพราะเท่าที่ทราบนางลอนไม่ใช่เจ้าของที่ดิน เป็นเพียงโยมอุปัฏฐากคนหนึ่งเท่านั้น
ด้านคณะกรรมการวัดได้หารือกันเพื่อเตรียมงานห่มผ้าพระแก้วมรกตจำลอง วันที่ 27-30 มิถุนายน ซึ่งเชื่อว่าจะมีผู้คนเดินทางมามากกว่าทุกปี เพราะข่าวทำให้วัดโด่งดัง ซึ่งขณะที่พูดคุยกันก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากราบไหว้พระแก้วมรกตองค์จำลองไม่ขาดสาย
เวลา 08.30 น. ที่สมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย จ.นนทบุรี กลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำ เครือข่ายบ้านวิมุติธรรม ซึ่งมีดร.สุขุม วงประสิทธิ์ เป็นประธานที่ปรึกษา นายภัทรเดช โสพรรณพาณิชกุล หรือเสี่ยก้าวหน้า พร้อมคณะศิษย์จากต่างจังหวัด ร่วมกันทำบุญตักบาตร หลวงพ่อปานขาว ซี่งได้นำคณะสงฆ์จากต่างประเทศ ที่เพิ่งลงจากเครื่องบินมาบิณฑบาต ซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่ญาติโยมว่า พระสงฆ์คณะนี้นิมนต์หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ไปในงานวันวิสาขบูชาโลก ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และได้มาคอยสังเกตการณ์พร้อมรายงานความเคลื่อนไหวในประเทศไทย ก่อนที่หลวงปู่เณรค จะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อเป็นประธานในงานห่มผ้าพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก วันที่ 27-30 มิถุนายน ที่วัดป่าขันติธรรม
นายภัทรเดช กล่าวว่า ที่มีกระแสข่าวว่าตนกับกลุ่มลูกศิษย์ข่มขู่นางลอนนั้น ขอยืนยันไม่มีใครไปข่มขู่นางลอน เพราะทุกคนรวมทั้งพระทุกรูปในวัดป่าขันติธรรม ต่างก็รักและเคารพต่อนางลอน ในฐานะที่เป็นญาติธรรม ช่วยดูแล อำนวยความสะดวกมาโดยตลอด และนางลอนก็ไม่เคยทวงที่ดินคืน ไม่เคยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าจะขอที่ดินคืน เพียงแต่ต้องการให้ก่อสร้างวัดป่าขันติธรรมให้เสร็จโดยเร็ว
นายภาณุ สุขวัลลิ โฆษกฝ่ายฆราวาสของหลวงปู่เณรคำ ชี้แจงว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นของนางทองมี ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว เป็นผู้บริจาคให้กับหลวงปู่เณรคำ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ตามเอกสารการสร้างวัดป่าขันติธรรมและคลิปวีดีโอ ที่ปรากฏบนยูทูป ถึงความเป็นมาของวัดป่าขันติธรรม ซึ่งมีการเผยแพร่มาก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว
ดร.สุขุม กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องออกมาตอบโต้กลุ่มลูกศิษย์เก่า ที่เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในวัด เพราะทนไม่ได้ที่พระดีๆต้องมาถูกโจมตีอย่างไม่เป็นธรรม และรู้สึกเห็นใจหลวงปู่เณรคำ ที่เป็นพระป่าสายปฎิบัติ เพราะคงไม่ออกมาตอบโต้ลูกศิษย์กลุ่มนี้ ซึ่งเคยใกล้ชิดหลวงปู่เณรคำ อยากให้ทุกคนที่เข้ามาในวัดป่าขันติธรรม อยู่อย่างสันติ และไม่อยากให้ผู้คนเสื่อมศรัทธา ด้วยการสร้างข่าวเพื่อหวังผลประโยชน์ให้กับกลุ่มตัวเอง
ด้านนายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรณีการก่อสร้างพระแก้วมรกตจำลองนั้น ขอเรียนว่าพระพุทธมณีมหารัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปสำคัญ 1 ใน 61 รายการ ที่มีระเบียบว่าการจำลองจะต้องขออนุญาตจากกรมศิลปากร และสำนักพระราชวัง ซึ่งจากการตรวจสอบทะเบียนสำนักช่างสิบหมู่ พบว่าวัดป่าขันติธรรมไม่ได้ขออนุญาต และทางสำนักพระราชวังยังได้แจ้งกรมศิลปากรว่า ให้ช่วยดูแลการจำลองพระพุทธรูปสำคัญ เพราะปัจจุบันมีการนำไปจัดสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตมากขึ้น
น.ส.มาลีภรณ์ คุ้มเกษม หัวหน้ากลุ่มนิติการ กรมศิลปากร กล่าวว่า การจำลองพระพุทธรูปสำคัญ มีระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ 2520 ตามมติคณะรัฐมนตรี กำหนดไว้ว่า การจำลองพระพุทธสำคัญ 61 รายการ เช่น พระแก้วมรกต จะต้องขออนุญาตจากกรมศิลปากร เพื่อกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาต อย่างไรก็ตามระเบียบดังกล่าวไม่มีข้อกำหนดโทษ เนื่องจากไม่ได้เป็นข้อกำหนดในพระราชบัญญัติ.
เมื่อเวลา 01.15 น. วานนี้ (23 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านของนางลอน มนัส อายุ 68 ปี ที่กลางทุ่งนาบ้านหนองถ่ม ต.ดู่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ปมีเจ้าหน้าที่ตำรวจงานปราบปราม และงานสืบสวนสภ.กันทรารมย์ 10 นาย นำโดยพ.ต.ท.อดุลย์ สุรำไพ รอง ผกก.ป. พร้อมด้วยอาวุธครบมือ มารักษาความปลอดภัยให้กับนางลอน โดยมีญาติพี่น้องของนางลอนจำนวนหนึ่ง ร่วมรักษาความปลอดภัยด้วย หลังจากนางลอนได้เข้าไปแจ้งความกับร.ต.ท.อภิชาติ ดวงมะณี ร้อยเวรสภ.กันทรารมย์ ว่าถูกขู่อุ้มฆ่า
สืบเนื่องจากการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่าจะสร้างวัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ ให้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย และจะไม่ให้หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม และพระสงฆ์บางรูป บริหารงานภายในวัด โดยจะขอให้พระเถระชั้นผู้ใหญ่สายธรรมยุติ พิจารณาจัดพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มาเป็นเจ้าอาวาส
นางลอน กล่าวว่า ดีใจมากที่มีตำรวจมาช่วยคุ้มกัน ซึ่งขอยืนยันว่าจะสร้างวัดป่าขันติธรรมให้ได้ จากนั้นจะเซ็นมอบที่ดินให้วัดทันที ส่วนที่บอกว่าที่ดินตั้งวัดป่าขันติธรรม เป็นของนางทองมี วุฒิยาสาร ไม่ใช่ของตนนั้น ความจริง คือ นางทองมีถวายที่ดิน 9 ไร่ แต่ต่อมานางทองมีป่วย จึงได้เรียกตนเข้าไปคุยด้วย โดยบอกว่าให้ทำเรื่องที่ดินตั้งวัดแทนด้วย เพราะนางทองไม่สบายมาก คงอยู่ไม่ถึงตอนถวายที่ดิน จึงขอให้ตนทำการแทนด้วย จากนั้นนางทองมีได้นำเอาชื่อตนไปใส่กับชื่อของนางทองมีในหลักฐานที่ดิน เมื่อนางทองมีเสียชีวิต ตนจึงจะทำวัดป่าขันติธรรม ให้เป็นวัดให้ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคที่ดิน
ตนมีศรัทธาไม่เปลี่ยนแปลง จะต้องตั้งเป็นวัดอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ให้เป็นอย่างอื่น ส่วนที่มีการแถลงข่าวว่า นางทองมีมอบที่ดินให้หลวงปู่เณรคำแล้วนั้น ขอยืนยันว่ายังไม่ได้มอบ เพราะหากมอบที่ดินแล้ว ตนก็จะต้องมอบด้วย เพราะมีชื่อกัน 2 คน ตนไม่เคยถวายอะไรเลย ทุกวันนี้ที่ดินก็เป็นชื่อตน และต้องเป็นคนลงนามมอบให้ โดยอาจมีลูกของนางทองมีมาเซ็นมอบด้วยเพื่อให้ถูกต้อง เพราะหากจะให้ทำผิดวัตถุประสงค์ตนไม่ทำด้วยเด็ดขาด
พ.ต.ท.อดุลย์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากพ.ต.อ.ภุชงค์ วรรณา ผกก.สภ.กันทรารมย์ ให้นำกำลังมารักษาความปลอดภัยนางลอน เนื่องจากเกรงว่าอาจเกิดเหตุร้ายตามที่มีการขู่เอาไว้ โดยดกำลังชุดละ 10 นายหมุนเวียนกันมารักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
เช้าวันเดียวกัน ที่วัดป่าขันติธรรม ซึ่งเป็นวันพระใหญ่ขึ้น 15 ค่ำเดือน 7 ญาติโยมที่เคยเข้าวัดปฏิบัติธรรมเดินทางมาที่วัด โดยได้นำข้าวปลาอาหารมาถวายแด่พระสงฆ์ จากนั้นพูดคุยกันถึงเรื่องของวัดที่กำลังเป็นข่าว ซึ่งต่างยังเชื่อมั่นในตัวหลวงปู่เณรคำว่าจะนำพาวัดไปในทางที่ดี ส่วนเรื่องที่ดินน่าจะเป็นเรื่องโกหก เพราะเท่าที่ทราบนางลอนไม่ใช่เจ้าของที่ดิน เป็นเพียงโยมอุปัฏฐากคนหนึ่งเท่านั้น
ด้านคณะกรรมการวัดได้หารือกันเพื่อเตรียมงานห่มผ้าพระแก้วมรกตจำลอง วันที่ 27-30 มิถุนายน ซึ่งเชื่อว่าจะมีผู้คนเดินทางมามากกว่าทุกปี เพราะข่าวทำให้วัดโด่งดัง ซึ่งขณะที่พูดคุยกันก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากราบไหว้พระแก้วมรกตองค์จำลองไม่ขาดสาย
เวลา 08.30 น. ที่สมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย จ.นนทบุรี กลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำ เครือข่ายบ้านวิมุติธรรม ซึ่งมีดร.สุขุม วงประสิทธิ์ เป็นประธานที่ปรึกษา นายภัทรเดช โสพรรณพาณิชกุล หรือเสี่ยก้าวหน้า พร้อมคณะศิษย์จากต่างจังหวัด ร่วมกันทำบุญตักบาตร หลวงพ่อปานขาว ซี่งได้นำคณะสงฆ์จากต่างประเทศ ที่เพิ่งลงจากเครื่องบินมาบิณฑบาต ซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่ญาติโยมว่า พระสงฆ์คณะนี้นิมนต์หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ไปในงานวันวิสาขบูชาโลก ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และได้มาคอยสังเกตการณ์พร้อมรายงานความเคลื่อนไหวในประเทศไทย ก่อนที่หลวงปู่เณรค จะเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อเป็นประธานในงานห่มผ้าพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก วันที่ 27-30 มิถุนายน ที่วัดป่าขันติธรรม
นายภัทรเดช กล่าวว่า ที่มีกระแสข่าวว่าตนกับกลุ่มลูกศิษย์ข่มขู่นางลอนนั้น ขอยืนยันไม่มีใครไปข่มขู่นางลอน เพราะทุกคนรวมทั้งพระทุกรูปในวัดป่าขันติธรรม ต่างก็รักและเคารพต่อนางลอน ในฐานะที่เป็นญาติธรรม ช่วยดูแล อำนวยความสะดวกมาโดยตลอด และนางลอนก็ไม่เคยทวงที่ดินคืน ไม่เคยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าจะขอที่ดินคืน เพียงแต่ต้องการให้ก่อสร้างวัดป่าขันติธรรมให้เสร็จโดยเร็ว
นายภาณุ สุขวัลลิ โฆษกฝ่ายฆราวาสของหลวงปู่เณรคำ ชี้แจงว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นของนางทองมี ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว เป็นผู้บริจาคให้กับหลวงปู่เณรคำ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ตามเอกสารการสร้างวัดป่าขันติธรรมและคลิปวีดีโอ ที่ปรากฏบนยูทูป ถึงความเป็นมาของวัดป่าขันติธรรม ซึ่งมีการเผยแพร่มาก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว
ดร.สุขุม กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องออกมาตอบโต้กลุ่มลูกศิษย์เก่า ที่เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในวัด เพราะทนไม่ได้ที่พระดีๆต้องมาถูกโจมตีอย่างไม่เป็นธรรม และรู้สึกเห็นใจหลวงปู่เณรคำ ที่เป็นพระป่าสายปฎิบัติ เพราะคงไม่ออกมาตอบโต้ลูกศิษย์กลุ่มนี้ ซึ่งเคยใกล้ชิดหลวงปู่เณรคำ อยากให้ทุกคนที่เข้ามาในวัดป่าขันติธรรม อยู่อย่างสันติ และไม่อยากให้ผู้คนเสื่อมศรัทธา ด้วยการสร้างข่าวเพื่อหวังผลประโยชน์ให้กับกลุ่มตัวเอง
ด้านนายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรณีการก่อสร้างพระแก้วมรกตจำลองนั้น ขอเรียนว่าพระพุทธมณีมหารัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต เป็นพระพุทธรูปสำคัญ 1 ใน 61 รายการ ที่มีระเบียบว่าการจำลองจะต้องขออนุญาตจากกรมศิลปากร และสำนักพระราชวัง ซึ่งจากการตรวจสอบทะเบียนสำนักช่างสิบหมู่ พบว่าวัดป่าขันติธรรมไม่ได้ขออนุญาต และทางสำนักพระราชวังยังได้แจ้งกรมศิลปากรว่า ให้ช่วยดูแลการจำลองพระพุทธรูปสำคัญ เพราะปัจจุบันมีการนำไปจัดสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตมากขึ้น
น.ส.มาลีภรณ์ คุ้มเกษม หัวหน้ากลุ่มนิติการ กรมศิลปากร กล่าวว่า การจำลองพระพุทธรูปสำคัญ มีระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ 2520 ตามมติคณะรัฐมนตรี กำหนดไว้ว่า การจำลองพระพุทธสำคัญ 61 รายการ เช่น พระแก้วมรกต จะต้องขออนุญาตจากกรมศิลปากร เพื่อกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาต อย่างไรก็ตามระเบียบดังกล่าวไม่มีข้อกำหนดโทษ เนื่องจากไม่ได้เป็นข้อกำหนดในพระราชบัญญัติ.
