อุบลราชธานี - ลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำแฉมีขบวนการที่เป็นอดีตกรรมการวัด ข้าราชการ และนักข่าวในพื้นที่ทำลายหลวงปู่เณรคำ เพราะแค้นที่ขอเงิน 1,000,000 บาทไม่ได้ นอกจากนี้ยังข่มขู่หลวงปู่ด้วย เผยรถคันใหม่ล่าสุดที่โยมนำมาถวายยังนำไปให้เมียขับ แต่ไม่ยืนยันเรื่องคลิปหลวงปู่กับหญิงสาวมีจริงหรือไม่ ยันหลวงปู่เณรคำจะกลับประเทศไทยวันที่ 27 มิ.ย.นี้ เพื่อร่วมพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลอง
วันนี้ (20 มิ.ย.) น.ส.ณฤดี พีระโรจน์ เจ้าของร้านอุบลอินเตอร์คอม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดของหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ได้ออกมาให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าวถึงสาเหตุการปล่อยคลิปของหลวงปู่เณรคำ โดยเป็นฝีมือของกรรมการวัดคนหนึ่ง ซึ่งรับราชการครูและเป็นนักข่าวในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ที่ติดตามหลวงปู่มานานจนหลวงปู่ไว้ใจให้ดูแลเรื่องการเงิน ค่าใช้จ่ายของวัดทั้งหมด
กระทั่งเมื่อปลายปี 2555 มีการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินภายในวัด พบมีเงินที่ประชาชนถวายทั้งที่ส่งมาทางไปรษณีย์ เงินในตู้บริจาคสูญหายไปจำนวนนับสิบล้านบาท รวมทั้งยังมีรถที่ประชาชนนำมาบริจาคให้หลวงปู่ และทางวัดใช้งานจำนวนหลายคันหายไป โดยรถคันล่าสุดคือ โตโยต้า คัมรี่ รุ่นไฮบริด ก็พบกรรมการวัดคนหนึ่ง ซึ่งรับราชการครูและเป็นนักข่าวในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษคนนี้นำไปให้ภรรยาใช้ หลวงปู่จึงไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวอีก และลูกศิษย์ที่ถวายรถได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องเอารถคืนด้วย
ต่อมาเมื่อเดือนมกราคมปีเดียวกันนี้ กรรมการวัดคนหนึ่ง ซึ่งรับราชการครูและเป็นนักข่าวรายนี้ได้โทรศัพท์มาข่มขู่สอบถามเรื่องเงินและทองคำที่นำมาใช้สร้างพระแก้วมรกตมีเหลืออยู่จำนวนเท่าไหร่ หากไม่ต้องการมีเรื่องราวให้หลวงปู่จ่ายเงินให้จำนวน 1 ล้านบาท แต่ทางหลวงปู่ได้ปฏิเสธไป แต่กรรมการวัดคนนี้ยังได้ตามมาข่มขู่อีกว่าจะนำเอาคลิปที่หลวงปู่ใช้พาหนะหรูเดินทางไปกิจนิมนต์มาโจมตี รวมทั้งอ้างว่ามีคลิปที่หลวงปู่อยู่กับสีกาอย่างใกล้ชิดด้วย แต่หลวงปู่ก็ยังไม่ยอมให้เงินตามที่ขอมาอยู่ดี ทำให้กรรมการวัดคนหนึ่ง ซึ่งรับราชการครูและเป็นนักข่าวในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษคนนี้มีการนำคลิปไปปล่อยไว้ในยูทิวบ์ตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา และสื่อมวลชนมาพบเข้าจึงเอามานำเสนอเป็นข่าว ซึ่งเข้าทางของกรรมการวัดรายนี้ที่เป็นนักข่าวอยู่ด้วย จึงได้ส่งข้อมูลให้ร้ายหลวงปู่อย่างหนักทำให้ลูกศิษย์ทนไม่ไหวต้องออกมาตอบโต้เพื่อให้สังคมทราบข้อจริงอีกด้านหนึ่ง
“ส่วนเรื่องคลิปหลวงปู่อยู่กับสีกาจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ฉันยืนยันไม่ได้ แต่เท่าที่ติดตามหลวงปู่มานานกว่า 5 ปีก็ไม่เคยพบเห็นพฤติกรรมเชิงชู้สาวของหลวงปู่กับหญิงอื่น มีเพียงบางครั้งมีกิจนิมนต์เดินทางไปไกล ลูกศิษย์ก็จะส่งเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์มารับเพื่อเดินทางไปได้ทันเวลา สำหรับหลวงปู่ขณะนี้อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสและจะเดินทางกลับประเทศไทยถึงในวันที่ 27 มิ.ย.นี้แน่นอนเพื่อมาทำพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลอง โดยจะมีคณะพระธรรมทูตจากหลายประเทศเข้ามาร่วมงานด้วย ซึ่งวันนั้นคณะศิษยานุศิษย์จากทั่วประเทศจะนัดกันมารวมตัวให้กำลังใจหลวงปู่ หากสื่อมวลชนต้องการพบกับหลวงปู่สามารถมาสอบถามได้ในวันนั้น” น.ส.ณฤดีกล่าว
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายเทพพนม นามลี ประธาน นปช.แดงสุรินทร์ และ น.ส.หมวย นามสมมติ แกนนำ นปช.แดง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ได้ยื่นหนังสือผ่านผู้อำนวยการ สพป.ศรีสะเกษ เขต 4 ถึง รมว.ศึกษาธิการให้ตรวจสอบพฤติกรรมข้าราชการคนหนึ่งในสังกัด สพป.ศรีสะเกษ เขต 4 เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย คือใช้เวลาในการปฏิบัติงานราชการไปทำหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าวและเป็นผู้มีอิทธิพลใน จ.ศรีสะเกษ จึงขอให้สอบสวนวินัยร้ายแรง และย้ายออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง เนื่องจากบุคคลดังกล่าวไม่มีใครกล้ามายุ่งเกี่ยวด้วย และมีการเรียกรับผลประโยชน์เข้าพกเข้าห่อตัวเอง
“คิดดู เป็นข้าราชการครูระดับแค่นี้สร้างบ้านได้ในราคากว่า 10 ล้าน มีรถเก๋ง รถปิกอัพถึง 7 คัน ระดับอธิบดียังไม่มีขนาดนี้เลย ที่สำคัญนักข่าวคนนี้กับพวกได้เข้าพบหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก วัดป่าขันติธรรม ข่มขู่คุกคามหลวงปู่เณรคำเอารถเก๋งป้ายแดง ยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ รุ่นไฮบริด ทะเบียน 999 จำจังหวัดไม่ได้ เอามาใช้เป็นรถเก๋งของตัวเอง ซึ่งเป็นรถเก๋งที่โยมจากสระแก้วซื้อถวายให้หลวงปู่เพื่อใช้ในกิจการของสงฆ์ ทางวัดป่าขันติธรรมได้ทวงคืนรถเก๋งคันดังกล่าวด้วยวาจาและหนังสือหลายครั้ง แต่ก็ไม่ยอมคืนรถมาให้ทางวัด และสมคบคิดกับนาย “ก” ไม่ทราบนามสกุล มีหน้าที่อยู่ในวัด ปลอมแปลงลายเซ็นของคณะกรรมการวัดป่าขันติธรรม ไปเบิกเงินจากที่ทำการไปรษณีย์ศรีสะเกษที่ญาติโยมส่งมาถวายหลวงปู่เณรคำเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาทเอาเข้าพกเข้าห่อตัวเอง และปัจจุบันทางวัดไม่อนุญาตให้ 2 คนนี้เข้ามาในบริเวณวัดโดยเด็ดขาด ที่ต้องร้องผ่านสื่อเพราะคิดว่าจรรยาบรรณของความเป็นมืออาชีพต้องไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ผมไม่กลัวที่จะถูกฟ้องร้องในเรื่องนี้ เพราะผู้ที่จะเป็นพยานให้คือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก”