ศิษย์หลวงปู่เณรคำ ปัดไม่ได้ข่มขู่ยายลอน เจ้าของที่ดินบริจาควัดป่าขันติธรรม ยันออกมาตอบโต้ทุกกรณี เพราะทนไม่ได้ที่หลวงปู่เณรคำถูกโจมตีอย่างไม่เป็นธรรม
เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่สมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศไทย จังหวัดนนทบุรี กลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำ เครือข่ายบ้านวิมุติธรรม ซึ่งมี ดร.สุขุม วงประสิทธิ์ เป็นประธานที่ปรึกษา นายภัทรเดช โสพรรณพาณิชกุล หรือเสี่ยก้าวหน้า พร้อมด้วยคณะลูกศิษย์หลวงปู่จากต่างจังหวัด ได้เดินทางมาร่วมกันทำบุญตักบาตรยามเช้ากับหลวงพ่อปานขาว ซี่งได้นำคณะพระสงฆ์จากต่างประเทศที่เพิ่งจะลงจากเครื่องบิน ซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่ญาติโยมว่า เป็นพระสงฆ์ที่ได้อาราธนานิมนต์หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ไปในงานวันวิสาขบูชาโลก ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และได้มาคอยสังเกตการณ์และรายงานความเคลื่อนไหวต่างๆ ในประเทศไทย ก่อนที่หลวงปู่เณรคำจะเดินทางกลับมาประเทศไทย เพื่อเป็นประธานในงานฉลองพระแก้วมรกตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่จะมีในวันที่ 27-30 มิถุนายน นี้ ที่วัดป่าขันติธรรม จ.ศรีสะเกษ
นายภัทรเดชเปิดเผยว่า กรณีมีกระแสข่าวว่าตนกับกลุ่มลูกศิษย์หลวงปู่เณรคำไปข่มขู่ยายลอน เจ้าของที่ดินวัดป่าขันติธรรมนั้น ยืนยันไม่มีใครไปข่มขู่ยายลอน เพราะทุกคนรวมทั้งพระทุกรูป ในวัดป่าขันติธรรมต่างก็รักและเคารพต่อยายลอน ในฐานะที่เป็นญาติธรรม ช่วยดูแล ให้ความสะดวกทุกอย่างมาโดยตลอด และยายลอนเองก็ไม่เคยทวงที่ดินคืน ไม่เคยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่าจะขอที่ดินคืน เพียงแต่ต้องการให้มีการก่อสร้างวัดป่าขันติธรรมให้เสร็จไวๆ
ประเด็นเกี่ยวกับเรื่องที่ดินดังกล่าว นายภาณุ สุขวัลลิ โฆษกฝ่ายฆราวาสของหลวงปู่เณรคำ ได้ชี้แจงว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของนางทองมี วุฒิยาสาร ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วเป็นผู้บริจาคให้หลวงปู่เณรคำ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ตามเอกสารการสร้างวัดป่าขันติธรรมและคลิปวิดีโอที่ปรากฏบนยูทิวบ์เรื่องความเป็นมาของวัดป่าขันติธรรม ซึ่งมีการเผยแพร่มาก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว
ดร.สุขุม วงศ์ประสิทธิ์ ประธานเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรม ซึ่งเป็นลูกศิษย์คนสำคัญที่ออกมาตอบโต้ทุกกรณีที่มีการพาดพิงถึงหลวงปู่เณรคำ กล่าวว่า สาเหตุที่ตนต้องออกมาตอบโต้กลุ่มลูกศิษย์เก่าที่เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในวัดป่าขันติธรรม เพราะทนไม่ได้ที่พระดีๆ ต้องมาถูกโจมตีอย่างไม่เป็นธรรม และรู้สึกเห็นใจหลวงปู่เณรคำที่เป็นพระป่าสายปฎิบัติ ท่านคงไม่ออกมาตอบโต้กับลูกศิษย์กลุ่มนี้ที่เคยใกล้ชิด หลวงปู่เณรคำอยากให้ทุกคนที่เข้ามาในวัดป่าขันติธรรมอยู่อย่างสันติ และไม่อยากให้คนเสื่อมศรัทธา ด้วยการสร้างข่าวเพื่อหวังผลประโยชน์ให้กับกลุ่มตัวเอง