xs
xsm
sm
md
lg

ตร.คุ้มกันเข้มเจ้าของที่ดินสำนักสงฆ์ “เณรคำ” หลังถูกขู่อุ้มฆ่า-ยันเดินหน้าสร้างวัดให้ถูก กม.(ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กำลังตำรวจ สภ.กันทรารมย์ พร้อมอาวุธคุ้มกันเข้มตลอดทั้งคืน ที่บ้านนางลอน มนัส  อายุ  68  ปี อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ  เจ้าของที่ดินสำนักสงฆ์ขันติธรรม ของ หลวงปู่เณรคำ หลังถูกขู่อุ้มฆ่า
ศรีสะเกษ - สภ.กันทรารมย์ส่งกำลัง ตร.พร้อมอาวุธคุ้มกันเข้มเจ้าของที่ดินสำนักสงฆ์ขันติธรรมของ “หลวงปู่เณรคำ” หลังถูกขู่อุ้มฆ่าและเข้าแจ้งความต่อ ตร. ขณะเจ้าตัวยืนยันเป็นเจ้าของที่ดินเพียงผู้เดียว พร้อมเดินหน้าสร้างวัดป่าขันติธรรมให้ถูกต้องตามกฎหมาย

วันนี้ (23 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านของ นางลอน มนัส อายุ 68 ปี ตั้งอยู่กลางทุ่งนาบ้านหนองถ่ม ต.ดู่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจงานปราบปรามและงานสืบสวน สภ.กันทรารมย์ จำนวน 10 นาย นำโดย พ.ต.ท.อดุลย์ สุรำไพ รอง ผกก.(ป) สภ.กันทรารมย์ พร้อมด้วยอาวุธปืนครบมือมาคุ้มกันรักษาความปลอดภัยให้แก่นางลอนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดยมีลูกหลาน ญาติพี่น้องของนางลอนจำนวนหนึ่งมาร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัยด้วย ซึ่งเหตุการณ์เป็นปกติ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.นางลอนได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.อภิชาติ ดวงมะณี ร้อยเวร สภ.กันทรารมย์ ว่าถูกขู่อุ้มฆ่าจากการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าเป็นเจ้าของที่ดินที่ตั้งสำนักสงฆ์ขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ของพระวิรพล สุขพล หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ในปัจจุบัน และต้องการนำกลับมาสร้างวัดป่าขันติธรรมให้เป็นวัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่จะไม่ให้หลวงปู่เณรคำ และพระสงฆ์บางรูปเข้ามาบริหารวัด โดยจะขอให้พระเถระชั้นผู้ใหญ่สายธรรมยุตพิจารณาจัดพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาเป็นเจ้าอาวาสวัดที่จัดตั้งขึ้นอย่างถูกต้องดังกล่าวแทน

นางลอนกล่าวว่า ตนดีใจมากที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยคุ้มกันแบบนี้ ขอยืนยันว่าจะสร้างวัดป่าขันติธรรมต่อไปเพื่อให้เป็นวัดอย่างถูกต้องสมบูรณ์ให้ได้ หากเป็นวัดถูกต้องเมื่อใดก็จะเซ็นมอบที่ดินให้ทางวัดทันที ส่วนที่บอกว่าที่ดินตั้งวัดป่าขันติธรรมหรือสำนักสงฆ์ขันติธรรมของหลวงปู่เณรคำในปัจจุบันเป็นของ นางทองมี วุฒิยาสาร ไม่ใช่ของตนนั้น ความจริงคือนางทองมีถวายที่ดินจำนวน 9 ไร่เพื่อให้จัดวัด และตอนนั้น นางทองมีป่วย จึงได้เรียกตนเข้าไปคุยด้วย บอกว่าจะคุยเรื่องดีๆ ให้ฟัง

โดยบอกตนว่าให้ดำเนินการเรื่องที่ดินตั้งวัดแทนนางทองมีที่มอบที่ดินจำนวน 9 ไร่ เพื่อสร้างวัดให้ได้ ซึ่งนางทองมีบอกว่าเขาไม่สบายมาก คงจะอยู่ไม่ถึงตอนมอบถวายที่ดิน ขอให้แม่ใหญ่ หมายถึงตน ทำการแทนด้วย จากนั้นนางทองมีจึงได้นำเอาชื่อตนไปใส่กับชื่อของนางทองมีในหลักฐานที่ดิน พอนางทองมีเสียชีวิตจึงเหลือตนเพียงคนเดียว ตนจึงจะดำเนินจัดสร้างวัดป่าขันติธรรมให้เป็นวัดให้ได้ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคที่ดิน

นางลอนกล่าวต่อว่า ศรัทธาตนไม่เปลี่ยนแปลง จะต้องนำที่ดินมาตั้งเป็นวัดตามวัตถุประสงค์ของเจ้าของที่ดินเท่านั้น ไม่ให้เป็นอย่างอื่น ส่วนที่มีการแถลงข่าวว่านางทองมีมอบที่ดินให้หลวงปู่เณรคำแล้วนั้น ตนขอยืนยันว่ายังไม่ได้มอบแต่อย่างใด หากมอบที่ดินจริงตนก็ต้องได้เซ็นมอบด้วยเพราะมีชื่อกันเพียง 2 คนเท่านั้น แต่ไม่เคยเซ็นมอบถวายอะไรเลย และขณะนี้หลักฐานที่ดินก็เป็นชื่อของตนเพราะนางทองมีเสียชีวิตไป ส่วนลูกหลานของนางทองมีจะมาเซ็นมอบด้วยก็ทำได้ หากจะทำการจัดตั้งวัดให้ถูกต้อง ตรงตามวัตถุประสงค์ที่เจ้าของที่ดินมอบหมายเอาไว้ ซึ่งตนจะเซ็นมอบให้ทันที

ตอนนี้ที่ดินเป็นชื่อตนคนเดียว ที่มีคนพูดออกมาว่าตนไม่ใช่เจ้าของที่ดินนั้นไม่จริง การที่มีการพูดออกมาเช่นนั้นอาจเป็นการแก้ต่างแทนหลวงปู่เณรคำก็ได้ ซึ่งนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องอะไรแบบนี้เกิดขึ้น ตนเป็นเจ้าของที่ดินแทนนางทองมี จะต้องทำให้เป็นวัดที่ถูกต้องให้ได้ นางลอนกล่าว

พ.ต.ท.อดุลย์ สุรำไพ รอง ผกก.(ป.) สภ.กันทรารมย์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พ.ต.อ.ภุชงค์ วรรณา ผกก.สภ.กันทรารมย์ ให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจงานปราบปรามและงานสืบสวนมาทำการรักษาความปลอดภัยให้แก่นางลอน มนัส เนื่องจากเกรงว่า อาจจะเกิดเหตุร้ายตามที่มีการขู่อุ้มเอาไปทำร้ายร่างกาย โดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดละ 10 นายผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมารักษาความปลอดภัยให้แก่นางลอนที่บ้านอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนสถานการณ์ภายในเขตพื้นที่ สภ.กันทรารมย์ขณะนี้เหตุการณ์ยังคงปกติ แต่เพื่อความไม่ประมาท ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจออกสืบสวนหาข่าวเพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมในบริเวณเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.กันทรารมย์อย่างต่อเนื่องด้วย

คลิกเพื่อชมคลิป


นางลอน มนัส  อายุ  68  ปี



กำลังโหลดความคิดเห็น