xs
xsm
sm
md
lg

เชียงใหม่วางยุทธศาสตร์พัฒนาเมือง เตรียมพร้อมเป็น “เมืองแห่งไมซ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่จับมือทีเส็บอบรมสัมมนาเรื่องไมซ์ ตั้งเป้าให้ความรู้เรื่องอุตสาหกรรมประชุมสัมมนา กับแผนส่งเสริมเชียงใหม่เป็น “นครแห่งไมซ์” ปี 2560 ด้าน ผวจ.แจงเร่งวางยุทธศาสตร์-พัฒนาเมืองรองรับแล้ว ยันปี 60 เชียงใหม่เทียบชั้นเมืองใหญ่ระดับนานาชาติ พร้อมเป็นนครแห่งไมซ์แน่

วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่โรงแรมเชียงใหม่ ออร์คิด นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานอบรมสัมมนา “Year of MICE เชียงใหม่พร้อม” จากนั้นร่วมกับนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองผู้อำนวยการสายงานบริหารและสนับสนุนกลยุทธ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) และนายวรพงษ์ หมู่ชาวใต้ ประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมการจัดประชุมสัมมนาและการแสดงสินค้าระดับนานาชาติ หรือไมซ์ (Meetings Incentive Travel Conventions Exhibitions : MICE) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์พิเศษต่อสื่อมวลชน

ทั้งนี้ การอบรมสัมมนาดังกล่าวซึ่งจัดโดยทีเส็บ ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ เป็นการดำเนินงานตามแผนแม่บทพัฒนาเชียงใหม่ให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งไมซ์-นครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง ระยะที่ 1 โดยแผนกำหนดการพัฒนาออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะแรกปี 2556 เน้นการทำตลาดในประเทศ และการวางรากฐานอุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งด้านการกำหนดเป้าหมายให้เชียงใหม่เป็นเมืองยุทธศาสตร์ไมซ์ การสร้างความรู้ ความเข้าใจ และขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งส่งเสริมการจัดประชุมของตลาดในประเทศ

ระยะที่ 2 ปี 2557-2558 จะขยายการส่งเสริมออกไปสู่ระดับภูมิภาค ผ่านกรอบความร่วมมือในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ หรือจีเอ็มเอส (Greater Mekong Subregion : GMS) ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจหรือบิมสเทค (Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation : BIMSTEC) และเมืองพี่เมืองน้องของจังหวัด ส่วนระยะที่ 3 ปี 2559-2560 จะเร่งพัฒนาและประกาศความพร้อมในการเป็น “นครแห่งไมซ์ระดับโลก : Global MICE City” โดยส่งเสริมการจัดงานระดับใหญ่ (Mega Event) และการประชุมสัมมนาในระดับโลก

สำหรับการอบรมครั้งนี้จะเน้นการทำความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับธุรกิจไมซ์ รวมถึงการส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับศักยภาพของธุรกิจไมซ์ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาให้เชียงใหม่ก้าวสู่การเป็นนครแห่งความมั่งคั่ง และเป็นศูนย์กลางของธุรกิจไมซ์ของภาคเหนือในอนาคต

นายธานินทร์กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์พิเศษว่า การผลักดันให้เชียงใหม่เป็นนครแห่งไมซ์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาให้เชียงใหม่เป็นเมืองอันดับสองของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล โดยการจัดการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ถือเป็นการเริ่มต้นปีแห่งไมซ์อย่างเป็นทางการ ส่วนการที่จะพัฒนาเชียงใหม่ให้ก้าวสู่การเป็นนครแห่งไมซ์ จะประกอบด้วยการกำหนดยุทธศาสตร์ด้านต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการศึกษาและดูกระบวนการในต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเรียนรู้จากการจัดงานต่างๆ

ขณะที่อีกด้านหนึ่ง จังหวัดเชียงใหม่ได้วางแผนพัฒนาจังหวัดในด้านต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการรองรับอุตสาหกรรมไมซ์ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ โครงการเมืองใหม่และเมืองแฝด หรือการปรับปรุงแก้ไขผังเมืองให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนา ซึ่งเมื่อการดำเนินการต่างๆ เหล่านี้แล้วเสร็จตามกำหนดที่ตั้งไว้ในปี 2560 จะทำให้เชียงใหม่กลายเป็นเมืองใหญ่ที่มีความพร้อมทัดเทียมกับเมืองใหญ่ในระดับนานาชาติ

ด้านนายจิรุตถ์ ในฐานะตัวแทนทีเส็บ กล่าวว่า ความสำเร็จของการเป็นนครแห่งไมซ์นั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับบทบาทของเมืองนั้น ซึ่งเชียงใหม่มีการกำหนดยุทธศาสตร์ วางแผนการทำงาน และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่ดี จึงถือว่ามีความพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นนครแห่งไมซ์ได้ ซึ่งปัจจุบันทีเส็บมีบทบาททั้งการเป็นที่ปรึกษาที่ให้การสนับสนุนการดำเนินการของจังหวัด ขณะเดียวกันก็ร่วมทำตลาดและประชาสัมพันธ์ให้เชียงใหม่เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมไมซ์ระดับโลกอีกด้วย

ขณะที่ ดร.ศราวุฒิกล่าวว่า การเป็นนครแห่งไมซ์ไม่เพียงแต่จะเป็นการทดแทนรายได้จากการท่องเที่ยวที่ขาดหายไปในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวด้วยการจัดการประชุมสัมมนาเท่านั้น แต่ยังสามารถต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นได้อีก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าในตลาดการจัดประชุมและสัมมนาเป็นลูกค้าที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง รวมทั้งสนใจกิจกรรมและบริการที่หลากหลาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการหาธุรกิจที่เหมาะสม ทั้งการท่องเที่ยว ที่พัก ภัตตาคาร ร้านอาหาร หรือกิจกรรมต่างๆ มารองรับ

ส่วนนายวรพงษ์ ในฐานะตัวแทนจากภาคเอกชน มองว่าตลาดไมซ์ของเชียงใหม่เป็นที่สนใจของต่างประเทศเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม จังหวัดต้องสร้างความมั่นใจ รวมทั้งผลักดันให้เอกชนลงทุนในส่วนของธุรกิจที่จะรองรับอุตสาหกรรมไมซ์ เช่น โรงแรมระดับ 5 ดาว หรือภัตตาคารขนาดใหญ่ให้มากขึ้น อีกทั้งยังควรหาทางผ่อนผันกฎระเบียบหรือข้อบังคับบางประการที่ไม่เอื้อต่อการทำธุรกิจ เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพให้ภาคเอกชนสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้น

กำลังโหลดความคิดเห็น