ศูนย์ข่าวศรีราชา - บีโอไอภาคตะวันออก เร่งพีอาร์ยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนใหม่ มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค.58 รับเออีซี ตั้งเป้าหนุนอุตสาหกรรมใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ลดใช้วัตถุดิบไม่ก่อประโยชน์ ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมในชุมชน ตั้งเป้าชัดเจน 10 กลุ่มอุตสาหกรรม พร้อมปรับเปลี่ยนส่งเสริมตามเขตพื้นที่ เพื่อให้เกิดกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ในภูมิภาค
วันนี้ (18 มิ.ย.) น.ส.กนกวรรณ สุถิรนาท ผู้อำนวยการศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 4 จ.ชลบุรี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวถึงนโยบายสำคัญช่วงครึ่งปีหลัง 2556 ว่า จะมีการประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุน ทั้งที่ลงทุนอยู่แล้วในภาคตะวันออก และกำลังจะขยายการลงทุนในปีหน้า ให้ได้รับทราบถึงยุทธศาสตร์ใหม่ของบีโอไอ ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2558 เพื่อรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี โดยจะส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมที่มีเป้าหมายชัดเจนใน 10 กลุ่ม
โดยทั้ง 10 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.โครงสร้างพื้นฐานและลอจิสติกส์ 2.อุตสาหกรรมพื้นฐาน 3.อุตสาหกรรมการแพทย์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ 4.อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนและบริการด้านสิ่งแวดล้อม 5.ธุรกิจบริการสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม
6.เทคโนโลยีพื้นฐานชั้นสูง 7.อุตสาหกรรมอาหารและแปรรูปสินค้าเกษตร 5.อุตสาหกรรม Hospitality & Wellness 9.อุตสาหกรรมยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่งอื่นๆ และ 10.อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
นอกจากนั้น ยังจะปรับเปลี่ยนการส่งเสริมตามเขตพื้นที่ (Zones) เพื่อให้เกิดคลัสเตอร์ หรือการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ในภูมิภาค ซึ่งสิทธิประโยชน์ที่โครงการจะได้รับการส่งเสริมภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.สิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐาน และ 2. สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามคุณค่าของโครงการ เพื่อให้ได้กิจกรรมที่เป็นประโยชน์สูงสุด
“เราต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุนรับทราบถึงข้อมูลการส่งเสริมการลงทุนใหม่ที่บอร์ดบีโอไอกำหนด เพื่อความชัดเจน และความโปร่งใส รวมทั้งเพื่อให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมมีเวลาในการปรับตัว และวางแผนการดำเนินธุรกิจ โดยวันที่ 27 มิถุนายนนี้ จะจัดสัมมนาให้ข้อมูลแก่นักลงทุนในการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ถูกต้อง”
น.ส.กนกวรรณ กล่าวว่า นโยบายใหม่ของบอร์ดบีโอไอ จะช่วยลดการใช้วัตถุดิบที่สร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก ซึ่งจะก่อผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบ ซึ่งบีโอไอไม่กลัวว่าแนวทางดังกล่าวจะทำให้เกิดการย้ายฐานลงทุนของผู้ประกอบการเดิม แต่กลับมองว่าจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพราะอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานในระดับเข้มข้น จะต้องมองหาพื้นที่การลงทุนใหม่ แทนการทุ่มงบประมาณเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีระดับสูง ที่ใช้กำลังคนไม่มาก
ส่วนการดูแล และส่งเสริมกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลาง และขนาดย่อมโดยผู้ประกอบการไทย บีโอไอยังคงเดินหน้าประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มนักลงทุนได้ทราบถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีรายได้ 8 ปี เพื่อให้การลงทุนของกลุ่มผู้ประกอบการไทยขยายตัว ซึ่งที่ผ่านมา ก็พบว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนในพื้นที่
