“เป็ดเหลิม” โผล่โคราช ปัด “เอกยุทธ” หายตัวไม่เกี่ยวรัฐบาล อ้างเป็นคนมีศัตรูเยอะ

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “เป็ดเหลิม” โผล่โคราชมอบนโยบายปราบยาบ้าให้สิ้นซาก ดันโคราชเป็นพื้นที่นำร่องปราบยาเสพติดพร้อมบำบัด ปัด “เอกยุทธ” หายตัวไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ชี้ไม่นิยมความรุนแรง ระบุเป็นคนมีศัตรูเยอะทั้งใน และต่างประเทศ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่อาคารสุรพัฒน์ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการมอบนโยบายเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้กำกับการ หัวหน้าสถานีตำรวจ นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา กว่า 5,000 คน

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดในภาคอีสานการลำเลียงผ่านมีบ้างแต่น้อยเพราะตั้งแต่ตนได้วางแผนกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) วางแผนสกัดกั้นยาเสพติดทางภาคเหนือ และที่ย้อนกลับผ่านมาทาง สปป.ลาวแล้วเข้ามาภาคอีสานแต่ไม่มากนัก แต่ที่ต้องเน้นทางภาคอีสานเนื่องจากประชากรในภาคอีสานเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ หากเราบำบัดรักษา และปฏิเสธยาเสพติดได้ก็เท่ากับได้แก้ปัญหา

ทั้งนี้ ปีที่แล้วเน้นการปราบปราม ปีนี้เราทำแบบควบคู่ ทั้งปราบปรามและการบำบัดรักษา จังหวัดนคราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ต้องทำให้เป็นจังหวัดนำร่องเป็นตัวอย่าง และใน 19 จังหวัดจึงค่อยตาม ซึ่งจะจัดให้มีการสัมมนาผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 20 จังหวัดในภาคอีสาน เพราะในภาคอีสานนั้นเรื่องของยาเสพติดไม่ค่อยมาก การจำหน่ายที่เป็นรายใหญ่ๆ และ การใช้เป็นเส้นทางผ่านในการลำเลียงก็ไม่ค่อยมี สูงสุดประมาณ 50,000-60,000 เม็ด เมื่อเทียบกับทางเหนือซึ่งมีจำนวนตั้งแต่ 200,000-1,000,000 เม็ด

สำหรับจังหวัดที่อยู่แนวชายแดนก็ได้มีการกำชับ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนหนึ่งคือการลักลอบเข้ามาได้ ส่วนที่สองคือเราปล่อยให้เข้ามาเพื่อมาจับปลายทางจะได้รู้ว่านายทุนอยู่ที่ไหน ส่วนเรื่องที่จะนำเครื่องประหารมาใช้กับตัวการใหญ่ในการจัดการกับผู้ต้องหายาเสพติดนั้นกำลังคิดอยู่

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวถึงกรณี นายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจด้านการเงินและเจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ที่หายตัวไป ว่า ในความเป็นตำรวจตนได้วิเคราะห์ว่า นายเอกยุทธเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นคนที่มีศัตรูค่อนข้างมาก มีศัตรูเยอะทั้งที่อยู่เมืองไทย และอยู่ที่ประเทศอังกฤษก็มีศัตรู ไปที่ไหนก็มีศัตรู ทางตำรวจก็วิเคราะห์ยาก ส่วนตนมาอยู่ต่างจังหวัด 4-5 วันได้เพียงแต่ตามข่าว แต่ยืนยันหากเกิดอะไรขึ้นกับนายเอกยุทธไม่ได้เกิดจากการกระทำของรัฐบาล ตนเองไม่นิยมความรุนแรง ท่านนายกรัฐมนตรีเองก็ไม่นิยมความรุนแรง

ที่มีการกล่าวอ้างว่ารัฐบาลไปคุกคามนั้น จะไปคุกคามนายเอกยุทธทำไม ไม่มีประโยชน์ มีนายเอกยุทธถือว่าเป็นสีสันในระบอบประชาธิปไตย เป็นสีสันโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ไป 5 คน จอง 10 โต๊ะ คนอื่นไม่ได้นั่ง ตนเองไม่ได้ว่า ไม่ได้คิดร้าย ไม่เคยคิด และยืนยันรัฐบาลไม่เกี่ยว ไม่มีพาดพิงถึงบิ๊กแจ๊ส (พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.) ซึ่งบิ๊กแจ๊สเป็นหมอมารักษาคนไข้ คนใจดีจะไปฆ่าใคร ไปไหนอุ้มพระใส่กระเป๋า

ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงการหายตัวไปได้ตั้งไว้กี่ประเด็น ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พิจารณาอยู่ ตนตอบไม่ได้ นายเฉลิมกล่าวในที่สุด