“เหลิม” เป็นประธานประชุม ก.ตร.อ้าแขนรับ “จูดี้” กลับเข้า สตช.นั่งรอง ผบ.ตร.พร้อมปัดกระเเสเด้ง “แจ๊ด” พ้นนครบาล-ผบช.ส่งกำลังบำรุง ยันเหนียวหนึบนั่งที่เดิมไม่ถูกพิษกรณีการทุจริตการสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศ!!!
เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (9 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร.โดยเข้าประชุมสายกว่ากำหนด มากกว่า 1 ชั่วโมง ระหว่างนั้นปล่อยให้ ก.ตร.ประชุมกันไปก่อนในวาระเพื่อทราบ เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิม เข้าประชุมก็เริ่มวาระเพื่อพิจารณา โดยใช้เวลาประชุม 1ชั่วโมง
ร.ต.อ.เฉลิม ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุม ก.ตร.ว่า วันนี้มีการโยกย้ายระดับรองผบช.-ผบก.หลายตำแหน่ง ยังไม่เห็นเรื่องการย้ายระดับผู้บัญชาการ และยังไม่มีการเปลี่ยนตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ยังมีความเหมาะสม ตั้งใจทำงาน ตนเองในฐานะประธาน ก.ตร.ไม่ยุ่งเรื่องการแต่งตั้งใครมาเป็นอะไรก็ได้มองตำรวจทุกคนเป็นพี่เป็นน้อง
เมื่อถามว่ามีข่าวย้าย ผบช.สกบ.ที่มีปัญหาเรื่อง 396 โรงพัก ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยังไม่เห็นเรื่อง และเรื่องโรงพักปัญหาเกิดจากฝ่ายการเมือง ยังไม่พบว่าข้าราชการประจำบกพร่อง ทางดีเอสไอก็สรุปแล้ว แต่หาก ผบ.ตร.เสนอเปลี่ยนโดยมีเหตุผลเรื่องความเหมาะสม ตนเองก็ไม่ขัดข้อง ผบ.ตร.เอาไงก็เอาอย่างนั้น เพราะท่านเป็นคนเก่งขยัน
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สำหรับวาระการรับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อดีตรองผบ.ตร.กลับเข้ารับราชการก็น่าจะมีในวาระวันนี้ ซึ่ง ก.ตร.ก็ต้องรับกลับไม่มีปัญหาอะไรเป็นไปตามตัวบทกฎหมายที่ต้องให้สิทธิเขากลับมา
ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า การแต่งตั้งวันนี้เป็นการแต่งตั้งเฉพาะทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่เสนอเข้าที่ประชุม ไม่มีการสับเปลี่ยนตำแหน่งแต่อย่างใด โดยครั้งนี้ยังไม่มีการเปลี่ยน ผบช.สกบ.ด้วย ทั้งนี้มีการพิจารณาแต่งตั้ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เป็นรอง ผบ.ตร.ซึ่งจะนำเสนอโปรดเกล้าฯให้มีผลต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.แถลงภายหลังประชุมว่า ก.ตร.ว่าที่ประชุมมีมติรับ พล.ต.อ.พงศพัศ กลับเป็นรอง ผบ.ตร.และดำเนินการเสนอโปรดเกล้าฯพร้อมกับการพิจารณาแต่งตั้งระดับ ผบช.ถึง ผบก.ที่ ก.ตร.มีมติเห็นชอบวันนี้ 11 ตำแหน่ง ประกอบด้วย ระดับ ผบช.ในตำแหน่ง นรป.(สบ8) 1 ตำแหน่ง เทียบเท่ารอง ผบช.2ตำแหน่ง และ ผบก.8 ตำแหน่ง ส่วนกรณีการพิจารณาการพ้นสภาพการเป็น ก.ตร.ของพล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ นั้น ก.ตร.ให้เลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน ขณะที่ใน ก.ตร.มีการพิจารณาปรับปรุงแนวทางหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง ซึ่งที่ประชุมวันนี้มีการนำเสนอแนวทางหลากหลาย โดย ก.ตร.มีมติให้ ตร.รับแนวทางทั้งหมดไปพิจารณาเพื่อนำเสนอเข้า ก.ตร.ในครั้งหน้า ซึ่งแนวทางใหม่จะมีการปรับรายละเอียดเรื่องการจัดลำดับอาวุโส ในการแต่งตั้ง และอาวุโสในการรักษาราชการแทน
ขณะที่มีรายงาน ก.ตร.มีมติพิจารณาแต่งตั้งให้ พล.ต.ต.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ นายตำรวจราชสำนักประจำ (นรป.) (สบ7) ขึ้นเป็น นรป.(สบ8) พล.ต.ต.สมรัตน์ โกษากุล นรป.(สบ6) เป็น นรป.(สบ7) พ.ต.อ.วรรฏมณฑ์ อัฎฐ์วารี นรป.(สบ5) และ พ.ต.อ.วาสิทธิ์ บางท่าไม้ นรป.(สบ5) เป็น นรป.(สบ6) พ.ต.อ.พรวิสุทธิ์ งามปัญญา รรท.ผบก.กองบินตำรวจ เป็น ผบก.กองบินตำรวจ พล.ต.ต.เทพ อมรโสภิต ผบก.สอ.ตชด.ขึ้นเป็นรอง ผบช.ตชด. พ.ต.อ.อำนวย พวกสนิท รอง ผบก.ตชด.ภ.4 ขึ้นเป็น ผบก.สอ.ตชด.พ.ต.อ.ทรงยศ เดชจบ รอง ผบก.ตชด.ภ.3 เป็น ผบก.ประจำ ตชด. พ.ต.อ.ประกิจฐ์ ศรียิ่งยง รอง ผบก.จ.ระนอง เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการเดินเรือ พ.ต.อ.พัฒนวุฒิ อังคะนาวิน รอง ผบก.สส.ศชต.ขึ้นเป็น ผบก.ศฝร.ศชต. พ.ต.อ.คณนา อัมพรภักดิ์รอง ผบก.วิทยาลัยการตำรวจ บช.ศ.ตำรวจขึ้นเป็น อาจาจารย์(สบ6) กลุ่มงานอาจารย์
ทั้งนี้เดิมที่ในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือก มีการพิจารณาโยกย้าย พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง (ผบช.สกบ.) เป็น ผบช.สำนักงานตรวจสอบภายใน (สตส.) และให้ พล.ต.ท.สุชีพ หนูนาง ผบช.สตส.เป็น ผบช.สกบ.แทน แต่ถูกคัดค้านจาก ร.ต.อ.เฉลิม โดยให้เหตุผลงานเป็นวาระนอกฤดูกาลแต่งตั้งประจำปี และ พล.ต.ท.สุพร ไม่เคยถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน ไม่พบว่ามีความผิด จึงให้ยกเลิกมติดังกล่าว โดยไม่ให้นำเข้าพิจารณาใน ก.ตร วันนี้ จึงไม่มีการพิจารณาสับเปลี่ยนตำแหน่งนี้ ขณะที่ตำแหน่งรองจเรตำรวจ (สบ7) ก็ไม่นำเข้า ก.ตร.แม้จะผ่านการพิจารณาในคณะกรรมการคัดเลือกแล้วก็ตาม