โฆษก พท.ให้ สตช.คำนึงถึง ตร.ที่เดือดร้อนมากกว่ากลัวถูกพีซีซีฟ้อง

“พร้อมพงศ์” เรียกร้อง สตช.คำนึงถึงความเดือดร้อนของตำรวจมากกว่าการกลัว “พีซีซี” ขู่ฟ้องหากยกเลิกสัญญาก่อสร้างโรงพักทดแทน ระบุพบข้อมูลพีซีซีเคยร้องเรียนไม่ชอบธรรมที่เปิดประมูลโครงการแบบรวมศูนย์ ยุค “มาร์ค-เทพเทือก” แต่กลับมายื่นซองประมูลเองจนชนะ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่ได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการตำรวจผ่านไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า ให้คำนึงถึงความเดือดร้อนของข้าราชการตำรวจ มากกว่าการกลัวถูกฟ้องร้องจากผู้รับเหมา ภายหลังบริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเมนท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น ออกมาระบุว่าหาก สตช.ไม่ต่อสัญญาการก่อสร้างโรงพักทดแทนจะฟ้องร้องดำเนินคดีว่า ขอให้ สตช.คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนและข้าราชการตำรวจ เพราะที่ผ่านมามีการต่อสัญญากับบริษัทพีซีซีฯมาแล้วถึง 3 ครั้ง รวมเป็นระยะเวลา 2 ปีกว่า แต่บริษัทบีซีซีฯ ก็ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า นอกจากนี้ตนในฐานะกรรมาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (กมธ.ป.ป.ช.) ได้ตรวจสอบพบว่า บริษัท พีซีซี รู้อยู่แล้วว่าการรวมสัญญารับเหมาก่อสร้างโรงพักทดแทนทั่วประเทศนั้นทำให้สร้างไม่แล้วเสร็จแน่นอน เนื่องจากบริษัท พีซีซี พร้อมด้วยบริษัทเอกชนอีก 8 แห่ง ได้เข้าชื่อในหนังสือร้องเรียนถึงความไม่ชอบธรรมของการเปิดประมูลโครงการแบบรวมศูนย์ไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น รวมถึง พล.ต.อ.ปทีบ ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร.ในขณะนั้น ลงวันที่ 13 พ.ย. 2552 แต่ต่อมา บริษัท พีซีซี กลับเป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทานโครงการในราคาที่ต่ำกว่าผู้ยื่นประมูลรายอื่นถึงกว่า 500 ล้านบาท ดังนั้นตนจึงมองว่าการกระทำดังกล่าวต้องมีข้าราชการระดับสูง รวมถึงนักการเมืองในขณะนั้นมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ด้วย