ฉะเชิงเทรา - ปส.ตามรอยขุดแหล่งหมกพักยาบ้าซุกซ่อนรอยต่อจังหวัดชานกรุง ก่อนคว้าของกลางได้มากถึง 9.9 แสนเม็ด พร้อมยาไอซ์อีก 19 กก. รวมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท เชื่อเครือข่ายพันโทยี่เซ ที่ส่งเข้ามาจากแนวตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน
วันนี้ (24 พ.ค.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.สมบัติ บัวเรือง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงผลการบุกเข้าตรวจค้นแหล่งพักยาบ้าล็อตใหญ่ พร้อมยึดของกลางเป็นยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก รวมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ประกอบด้วย ยาบ้าที่ขุดได้จากแหล่งฝังกลบที่อยู่ริมคูภายใต้บริเวณใต้ถุนบ้านเลขที่ 103/1 ม.5 ต.หอมศีล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 2 หลุม
โดยหลุมแรกมียาบ้า จำนวน 350,000 เม็ด ส่วนหลุมที่ 2 มียาบ้าอีก จำนวน 640,000 เม็ด และยาไอซ์ จำนวน 19 กิโลกรัม พร้อมซองแบ่งบรรจุทั้งชนิดเป็นถุงใสแบบรูดปิดปากถุงอีกจำนวนหลายพันใบ และซองบรรจุชายี่ห้อหนึ่ง (หงหลง) อีกจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังได้ยึดของกลางเป็นรถยนต์แท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ของสหกรณ์แท็กซี่อาสาสมัคร เลขทะเบียน ทล 5669 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน ซึ่งมีป้ายคนขับชื่อ นายสุนทร (ต้อย) กมลนาวิน อายุ 46 ปี
ซึ่งเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวนี้เป็นเจ้าของบ้าน พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งพบหลักฐานว่าเป็นของ นางบุญเหลือ หรือจิ๋ม ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นภรรยาของ นายสุนทร แต่เจ้าหน้าที่ไม่พบตัวเจ้าของบ้านขณะที่นำกำลังบุกเข้าทำการตรวจค้น โดยพบเพียงเครื่องซักผ้าที่ยังคงทำงานปั่นซักเสื้อผ้าอยู่ จึงได้เชิญผู้นำชุมชนเข้ามาเป็นสักขีพยานในการเข้าตรวจสอบ
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวถึงการติดตามบุกเข้าตรวจค้นจนพบแหล่งพักยาเสพติดล็อตใหญ่ ในครั้งนี้ว่า สืบเนื่องมาจากการขยายผลการจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ ยาไอซ์ จำนวน กว่า 60 กก. และยาบ้า จำนวน 4 ล้านกว่าเม็ด เมื่อช่วงที่ผ่านมา และได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่า มียาบ้าล็อตใหญ่ถูกแอบนำเข้ามาหลบซุกซ่อนฝังกลบไว้ยังที่บริเวณตามแนวตะเข็บรอยต่อของจังหวัด ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ
จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปราบยาเสพติด จาก บก.ปส.3 นำกำลังเข้ามาเฝ้าติดตาม ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน จึงเห็นความเคลื่อนไหวมากในระยะแรก และด้านแหล่งข่าวของผู้พักยาเริ่มรู้ตัว จึงได้ให้พนักงานสอบสวนขอหมายศาลเข้ามาทำการตรวจค้นแหล่งพักยาดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถเข้าควบคุมตัวคนร้ายได้ทัน
เนื่องจากเจ้าของบ้าน และชาวบ้านเริ่มเห็นความเคลื่อนไหวการเฝ้าติดตามของเจ้าหน้าที่ ประกอบกับพื้นที่ในบริเวณนี้ค่อนข้างปิด และมีคนนอกผ่านเข้าออกน้อยมาก จึงทำให้ผู้ต้องหาไหวตัวทัน และสามารถแอบหลบหนีไปได้ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะบุกเข้าทำการตรวจค้นพบของกลางดังกล่าว
สำหรับยาเสพติดล็อตนี้ เชื่อว่าเป็นยาบ้าที่ถูกส่งมาจากกลุ่มของ พลโทยี่เซ ชาวมูเซอ ซึ่งมีโรงงานผลิตใกล้กับแนวตะเข็บขายแดนไทยจากประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากภาชนะแพกหีบห่อการบรรจุได้ใช้ตรายี่ห้อคล้ายตราโลโก้ของรถยนต์ยี่ห้อหนึ่งเป็นสัญลักษณ์ แต่จะต้องนำไปทำการตรวจสอบดักต์โปรฟาย ซึ่งเป็นการตรวจสอบถึงเคมีภัณฑ์ในเม็ดยา และลักษณะของการห่อหุ้ม รวมถึงเครื่องหมายรอยตรา ตลอดไปจนถึงวัสดุต่างๆ ที่ประกอบกันมาเป็นห่อ เครื่องหมายที่ตรายา ที่ดูลักษณะของรอยตอก รอยนูน ก็จะสามารถยืนยันแหล่งที่มาได้อย่างชัดเจนได้ว่ามีแหล่งการผลิตมาจากที่ใด
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ในช่วงนี้มียาเสพติดล็อตใหญ่ๆ ทะลักเข้ามาพักอยู่ในประเทศไทยมากขึ้นนั้น เนื่องจากในขณะนี้ ทางประเทศจีนได้มีการสกัดกั้นอย่างหนัก กลุ่มผู้ผลิตที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับเราจึงยอมที่จะควักเงินลงทุนส่งเข้ามาเก็บไว้ในประเทศไทยมากขึ้นโดยเฉพาะในบริเวณโดยรอบใกล้กับเขตกรุงเทพฯ เพื่อที่จะกระจายไปยังผู้ใช้ยาในกรุงเทพฯ และกลุ่มจังหวัดภาคกลาง รวมถึงส่งลงไปยังภาคใต้ด้วย โดยจะหาแหล่งพักยาย่านชานเมืองในลักษณะนี้ ที่ตำรวจติดตามเข้าถึงแหล่งซุกซ่อนได้ยากมาก
