ราชบุรี - กลุ่มผู้ประกอบการฟาร์มสุกรในจังหวัดราชบุรีกว่า 200 คน รวมตัวยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯ ราชบุรี ผ่านไปถึงรัฐบาลหยุดการนำเข้าชิ้นเนื้อสุกรจากต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา พร้อมนัดรวมพลังหน้าทำเนียบรัฐบาลพรุ่งนี้
เวลา 11.00 น. วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดราชบุรี กลุ่มผู้ประกอบการเลี้ยงสุกรในจังหวัดราชบุรีกว่า 200 คน ได้มารวมตัวชุมนุมประท้วงเพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐบาลหยุดการนำเข้าชิ้นเนื้อสุกรจากต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ผ่านนายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เพื่อเสนอไปยังรัฐบาล
นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า ได้มายื่นหนังสือเพื่อขอให้รัฐบาลสั่งระงับ หรือยกเว้นนำเข้าชิ้นเนื้อสุกรจากสหรัฐอเมริกา มีสาเหตุหลักที่สำคัญคือ ตราบใดที่เนื้อสุกรจากสหรัฐอเมริกาเข้ามาอยู่ในไทย ชิ้นส่วนเนื้อสุกรที่ส่งเข้ามาจะทำให้ตลาดเนื้อสุกรในประเทศไทยมีผลกระทบทันที และทำให้ปริมาณเนื้อสุกรเกิดการล้นตลาด ราคาตกต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายเล็ก และกลางที่ไม่ได้อยู่ในรูปของบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดของผู้เลี้ยงสุกรภายในประเทศเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน จะได้รับผลกระทบอย่างมาก ทำให้โรคบางโรคที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาในเนื้อสุกรที่เป็นโรคสายใหม่ เช่น ไข้หวัดหมู ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นเชื้อสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งไทยก็มีโรคไข้หวัดหมูอยู่แล้ว ถ้าเชื้อดังกล่าวผ่านเข้ามาทางชิ้นเนื้อส่วนสุกร และมารวมกันกับของไทยสามารถเกิดการกลายพันธุ์ได้ อาจทำให้โรคที่อยู่ในไทยเกิดการกลายพันธุ์ลามเข้ามาถึงตัวสุกรได้
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกร จังหวัดราชบุรีกล่าวต่อว่า อาชีพเกษตรกรไทยโดยเฉพาะจังหวัดราชบุรี เป็นแหล่งที่เลี้ยงสุกรมากที่สุดในประเทศ กลุ่มที่ยึดโยงอยู่กับธุรกิจการเลี้ยงสุกรคือ คนงานอาชีพ และวัตถุดิบต่างๆ ทำให้สิ่งเหล่านี้ลด หรือล้มหายตายจากไป อาชีพ หรือการจ้างแรงงานขั้นต่ำในตัวจังหวัดเป็นแสนคน หากอาชีพการเลี้ยงสุกรล้มละลายไป กลุ่มผู้เลี้ยงกลุ่มนี้ก็จะหายไปจากจังหวัดราชบุรีเหมือนกัน อาชีพเลี้ยงสุกรก็จะสูญหายไปจากจังหวัดราชบุรี ปัญหาอีกอย่างคือ ความผันผวนของราคาสุกร บางจังหวะที่น่าจะขึ้นราคาแต่กลับไม่ขึ้น แต่บางจังหวะราคาน่าจะลงกลับไม่ลง เป็นสาเหตุและปัญหาของประเทศ ทำให้ต้องมีการนำเนื้อสุกรจากต่างประเทศเข้ามาไทย
“เราได้พูดคุยกับทางสมาคมใหญ่เรียบร้อยแล้วว่า ในวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) จะเข้าไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อกดดัน หรือขอความร่วมมือจากรัฐบาลให้มีการคัดค้าน หรือระงับการนำเข้าเนื้อ และชิ้นส่วนสุกรจากอเมริกา ร่วมกับกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศ”
นายวิวัฒน์ พงษ์วิวัฒนชัย ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรอำเภอโพธาราม กล่าวว่า ปัญหานี้ไม่ใช่เฉพาะคนเลี้ยงสุกรอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาของประเทศ เพราะเกิดขึ้นในต่างประเทศจะเกิดการล่มสลายของระบบเกษตรกรในภาพรวมทั้งประเทศ เช่น ผู้เลี้ยงสุกรในประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน โดนบีบให้เปิดตลาดนำเข้าเนื้อสุกรจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีราคาราคาต่ำกว่าเนื้อสุกรในประเทศมาก เป็นสาเหตุให้ฉุดราคาสุกรหน้าฟาร์มในประเทศดังกล่าวเหลือเพียงไม่เกินกิโลกรัมละ 50 บาทเท่านั้น ทำให้เกษตรกรทั้ง 3 ประเทศ บางรายต้องล้มละลายทิ้งอาชีพเลิกกิจการไป
ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรอำเภอโพธาราม กล่าวต่อว่า สาเหตุที่จะมีการนำเนื้อสุกรจากสหรัฐฯ เข้ามาที่มีต้นทุนต่ำนั้นมาจากการอุดหนุนโดยตรงจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งความได้เปรียบเนื้อสุกรมีต้นทุนที่ต่ำนี้จะทำให้สามารถกำหนดราคาขายได้ต่ำกว่าราคาสุกรที่ผลิตในประเทศที่มีการส่งออกไป และเป็นช่องทางในการส่งออกชิ้นส่วนที่ไม่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในสหรัฐฯ
“ส่วนโรคอเมริกาจะเป็นต้นตำรับโรคมากมาย เวลาเข้ามาจะประเมินไม่ถูกเลยว่าต้องรับโรคอะไรบ้างจากเขามาอีก ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยวันนี้ไม่ได้มาต่อต้านรัฐบาล แต่อยากแจ้งให้รัฐบาล และผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีทราบว่า มีเรื่องดังกล่าวเข้ามาอย่างนี้ ซึ่งในเวียดนามได้มีการต่อต้านช้าเกินไป อย่างไต้หวัน ได้เลิกเลี้ยงสุกรไปแล้วทั้งประเทศ เกาหลีใต้ก็โดน เวลาไทยเปิดเออีซี ผมว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งอย่ามองเรื่องสุกรอย่างเดียว แต่ให้มองภาคเกษตรโดยรวมจะมีผลกระทบทั้งหมด” ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงสุกรอำเภอโพธารามกล่าว
ต่อมา นายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยนายณรงค์ ครองชนม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้ออกมารับหนังสือ พร้อมกล่าวว่า จังหวัดราชบุรีต้องขอบคุณผู้เลี้ยงสุกรที่มาช่วยทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีการพัฒนาอาชีพ และรายได้ที่ดี และขอบคุณที่ช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมธรรมชาติ จึงอยากให้ช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมของอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรให้ดี
“สำหรับหนังสือความเดือดร้อนที่ได้มายื่นวันนี้ ผมจะนำเรียนนายกรัฐมนตรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมกันพิจารณาข้อห่วงใยของกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรร่วมกับจังหวัดอื่นทั่วประเทศโดยเร็วด้วย”